th
Th
En
หน้าแรก
หัวข้อทั้งหมด
ข่าว
วีดีโอ
ตั้งหัวข้อใหม่
ลงทะเบียน
ล็อกอิน
กด enter เพื่อค้นหา
Mecha Story : Here come Man-Machine+แก้ข้อผิดพลาดกรณีTiel's Impulse
หัวใจแทบวายเมื่ออาจารย์มาร์ค ซิมมอนลงมาเล่นกับคุณAmuroNT1ที่บอร์ดMAHQกับGundam Watch เลยรู้ว่าข้อมูลของTale's Impulseมีผิดอยู่อักโขเลย...(ความน่าสนใจของเรื่องเพิ่มขึ้นอีก
ก่อนอื่นก็คือข้อมูลประจำตอนนี้ ของไกอาเกียร์นี่หายากจริงๆแฮะ ถึงจะมีตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะหาของตัวต่อๆไปได้เมื่อไหร่นะครับ ขนาดตัวไกอาเกียร์เองยังไม่แน่เลยว่าจะเอามาเขียนได้มั้ย
UM-190B กวัซซ่า
และ
บรอมเท็กซ์เตอร์
แมนมาชีนของกลุ่มแมนฮันเตอร์ซึ่งพัฒนามาจากMSจิมซีรี่ส์
กวัซซ่ารุ่นแรกก็คือUM-190B.Iซึ่งเน้นที่ราคาถูกเพื่อผลิตจำนวนมาก เนื่องจากโครงสร้างหลักค่อนข้างเรียบง่ายแต่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลายและยังปรับแต่งได้ง่าย กวัซซ่าสามารถบินได้อย่างอิสระโดยติดตั้งไมนอฟสกี้ไดรฟ์ยูนิต ในกรณีที่ต้องบินเป็นระยะทางไกลๆจะใช้ลองไดรฟ์ยูนิตแทน กวัซซ่าเป็นกำลังหลักของEFในการต่อสู้กับกลุ่มต่อต้าน"เมตาตรอน"ในปีUC 0203 อาวุธหลักของกัซซ๋าประกอบด้วยบีมเซเบอร์, บีมไรเฟิลม "แซนด์บาเรล" (เป็นอาวุธสำหรับใช้ทำลายมิสไซล์แทนวัลแคน โดยยิงอนุภาคออกไปในรูปแบบของกลุ่มควัน)และโล่ซึ่งมีบีมคัตเตอร์ติดอยู่ด้วย กวัซซ่ายังมีรุ่นพิเศษคือUM-190B.II กวัซซ่ารุ่นเสริมสมรรถนะ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อสู้กับกลุ่มเมตาตรอนโดยเฉพาะ กวัซซ่ารุ่นเสริมสมรรถนะมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากกว่าเดิมจึงต้องดัดแปลงโครงสร้างส่วนลำตัวและขาเพื่อติดตั้งระบบหล่อเย็นใหม่ ถ้าเทียบกับรุ่นปกติแล้วกวัซซ่ารุ่นเสริมสมรรถนะจะด้อยกว่าตรงที่ไม่สามารถติดตั้งลองไดรฟ์ยูนิตได้ แต่สมรรถนะโดยรวมสูงกว่าเดิมมากทั้งยังมีอาวุธเสริมเป็นเมก้าบีมลันเชอร์ที่มีอานุภาพสูง
แมนฮันเตอร์ยังพัฒนาแมนมาชีนรุ่นใหม่ต่อจากกวัซซ่า นั่นก็คือบรอมเท็กซ์เตอร์ โดยบรอมเท็กซ์เตอร์มีระบบไซคอมมิวและไมนอฟสกี้ไดรฟ์ติดตั้งไว้ในตัวและสามารถแปลงร่างเพื่อใช้เข้าสู่บรรยากาศโลกได้เหมือนเวฟไรเดอร์ เกราะของบรอมเท็กซ์เตอร์ยังได้รับการพัฒนาให้เหนือกว่ากวัซซ่า โล่ติดไหล่ของบรอมเท็กซ์เตอร์นั้นติดมิสไซล์ไว้ บรอมเท็กซ์เตอร์ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก โดยรุ่นผลิตจำนวนมากนี้มีเกราะที่เหนือกว่ารุ่นต้นแบบและยังมีIฟิลด์บาเรียร์ในตัว โล่ของรุ่นผลิตจำนวนมากยังติดตั้งฟันเนลเอาไว้แทนมิสไซล์ ถึงจะเป็นแมนมาชีนรุ่นผลิตจำนวนมาก แต่ค่าใช้จ่ายในการสร้างบรอมเท็กซ์เตอร์ก็สูงกว่ากวัซซ่ามาก
สองรูปบนเป็นกวัซซ่ารุ่นปกติ สองรูปถัดมาคือติดตั้งลองไดรฟ์ยูนิตกับไมนอฟสกี้ไดรฟ์ยูนิต รูปที่ห้าคือกวัซซ่ารุ่นเสริมสมรรถนะ ส่วนรูปสุดท้ายก็คือบรอมเท็กซ์เตอร์รุ่นผลิตใช้งาน
Update แก้ข้อมูลของTale's Impulse
ก่อนอื่นเลย ตัวเอกของเรื่องชื่อทิล ไม่ใช่เทล และที่สำคัญ เป็น
นางเอก
ไม่ใช่พระเอก ส่วนเพื่อนของทิลที่ขับเทียนหลงกันดั้มเป็นหญิงเหมือนกันชื่อKrung Ponlamaai (แม่นแล้ว สาวไทยเราเอง!) โดยที่ทิลกับกรุงได้รับการฝึกขับMSจากอดีตทหารของOZชื่อTrainoi Ribinskyเป็นชายหนุ่มคนเดียวในสามหน่อ ซึ่งสามหน่อแอบลอบเข้าไปในโคโลนีX-18722ซึ่งกำลังจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อขโมยกันดั้มจากOZ (อาชีพเดิมของสองสาวคือนักร้องประสานเสียง) อีกอย่างนึงคือกันดั้มรุ่นใหม่ทั้งหมด(ยกเว้นลูซิเฟอร์)เป็นรุ่นผลิตจำนวนมากครับ เฉพาะเซราฟิมมีอยู่อย่างน้อยหกเครื่อง (รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เซราฟิมจะไม่มีปีกคู่หลักที่ใช้กันความร้อนตอนเข้าบรรยากาศโลกครับ มีแต่ปีกเสริม)
ส่วนพวกทหารOZที่ไล่เก็บพวกทิลก็เป็นคู่หญิงสองคนเหมือนกัน ซึ่งทั้งคู่เกลียดนายริบินสกี้เป็นพิเศษที่บังอาจสอนสามัญชนให้ขับMSได้ จุดไคลแม็กซ์ของเรื่องก็คือที่"สุสานนักรบ"ซึ่งเหล่าซากMSที่ถูกทำลายในสงครามถูกเอามารวมๆกันไว้ ซึ่งกรุงทรยศทิลใช้ระบบของเทียนหลงกันดั้มควบคุมMD"แคปปริคอน"ของกองกำลังมารีเมียร์ กลายเป็นศึกสามเส้า ในตอนจบก็คือทิลสังหารพี่ชายเพื่อให้เป็นอิสระจากการควบคุมของลูซิเฟอร์กันดั้ม
รูปเพิ่มเติมจากTiel's Impulse
เดธไซธ์กิลตี้คัสต้อมกับแซนด์ลีอองคัสต้อม
ของแถมอีกเล็กน้อย MSVของวิงจากหนังสือเพอเฟ็คท์อัลบั้ม (เท่าที่รู้ พวกนี้ไม่ใช่งานOfficialนะจ้ะ)
กันดั้มซูเปอร์อาร์มแท็งก์
เฮฟวี่อาร์มแบบเน้นการต่อสู้ภาคพื้นดินโดยเฉพาะ โดยเพิ่มปริมาณอาวุธเข้าไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีน้ำหนักมากจึงเปลี่ยนโครงสร้างเป็นแบบรถถัง
กันดั้มสกายไฮอาร์ม
เฮฟวี่อาร์มแบบต่อสู้ภาคอากาศ
กันดั้มชูตติ้งสตาร์เชนลอง
เชนลองแบบต่อสู้ภาคอากาศ มีบูสเตอร์กำลังสูงสำหรับให้บินได้เป็นเวลานาน โล่ที่ใช้เป็นแบบติดท่อขับดันเพื่อให้เป็นอาวุธขว้างที่มีอานุภาพกว่าเดิม
กันดั้มอควอเชนลอง
เชนลองแบบใช้ในน้ำ เขี้ยวมังกรที่แขนขวาติดตั้งไฮโดรเจ็ตเพื่อเพิ่มแรงกระแทกในน้ำให้สามารถทำลายเรือรบได้ ส่วนแขนซ้ายจะแยกเป็นเขี้ยวมังกรแบบปกติขนาดเล็กสองอัน
คาทาสโทรฟีD
สำหรับใช้ในอวกาศโดยเฉพาะ
Anime
Mecha Story
Kuruni
Feb 09, 2006 05:41
ร่วมแสดงความเห็น
บนระบบของเรา
บน Facebook Comments Plugin
บน Google+ Comments
Facebook
Share
Twitter
Share
Google+
Share
Pinterest
Share
Email
Send Email
ติดต่อเรา
ชื่อเต็ม
อีเมล
ข้อความของคุณ