MS Story : ปูทัน ปูทัน มาเล่นกันเถอะ!

"ไม่เอาหรอก ปูทันมีมิชชั่นแพ็คต้องส่งอีกนะปู"

ปูทัน

ตัวละครทีวีที่ได้รับความนิยมสูง แม้แต่เด็กเลวยังดูรายการนี้เลย ทั้งๆที่เป็นรายการน่าเบื่อแท้ๆแต่ทำไมเป็นที่นิยมได้หนอ?

ชอบทำอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไปเช่นปั้นโอ่งหรือตำส้มตำ เวลาพูดจะลงท้ายด้วยคำว่า"ปู" มีคู่หูใส่แว่นไม่เปิดเผยชื่อ...

/me เหลือบข้างบน

ขออภัย เปิดไฟล์ผิด เบลอไปหน่อยน่ะ :p ข้างล่างนี่ต่างหากของจริง

FX-550 สกายแกรสเปอร์

เครื่องบินที่พัฒนาขึ้นมาเป็นยูนิตสนับสนุนของสไตรค์ กันดั้ม เพราะแม้ว่าระบบมิชชั่นแพ็คทำให้สไตรค์มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงมาก แต่มิชชั่นแพ็คแต่ละแบบก็เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะเท่านั้น(ยกเว้นIWSPซึ่งใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งก็ไม่ออกมาในอนิเมะซะอีก)

เพื่อแก้ปัญหานี้จึงมีเครื่องบินสกายแกรสเปอร์ออกมา แม้จะใช้งานเป็นเครื่องบินต่อสู้แบบปกติได้เพราะติดตั้งปืนกล,ปืนใหญ่และมิสไซล์ลันเชอร์ไว้ แต่ที่มันเป็นหน่วยสนับสนุนของสไตรค์ก็เพราะสกายแกรสเปอร์สามารถติดตั้งมิชชั่นแพ็คและนำไปส่งให้สไตรค์เปลี่ยนในสนามรบได้

สกายแกรสเปอร์ยังใช้ประโยชน์จากมิชชั่นแพ็คที่าสวมอยู่ได้อีกด้วย โดยสามารถใช้เอลแพ็คเป็นบูสเตอร์เพิ่มความเร็วและสามารถใช้อาวุธทั้งหมดของลันเชอร์ได้ (ของซอร์ดนี่คงใช้อะไรไม่ได้มั้ง ส่วนIWSPไม่น่าจะแบกไหวนะ)

แม้ว่าสกายแกรสเปอร์จะใช้งานได้บนโลกเท่านั้น แต่ในMSVของSEEDมียานFXet-565 คอสโมแกรสเปอร์ซึ่งใช้ในอวกาศด้วยครับ(รูปสุดท้าย) คอสโมจะไม่มีมิสไซล์ลันเชอร์กับปืนกลแต่มีปืนกลแก็ตลิ่งสองกระบอกแทน

Gฟอลคอน

ตัวโปรดของผมจากภาคนี้เลยนะ(ชอบมากกว่ากันดั้มซะอีก) ยานรบขนาดใหญ่ของEFที่สร้างมาเพื่อใช้งานร่วมกับกันดั้มทั้งสามตัวในสมัยสงครามอวกาศครั้งที่เจ็ด เมื่อประกอบร่างกับGฟอลคอนแล้ว กันดั้มจะสามารถใช้อาวุธของGฟอลคอนคือมิสไซล์นำวิถีและบีมแคนน่อนแบบสาดกระจายได้ ซึ่งทำให้กันดั้มXและแอร์มาสเตอร์ที่มีอาวุธค่อนข้างจำกัดกลายเป็นยูนิตที่ใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนกันดั้ม เลโอปาร์ดที่มีอาวุธมากอยู่แล้วก็จะบินได้ ทั้งนี้Gฟอลคอนยังทำหน้าที่เป็นยูนิตเพิ่มความเร็วของกันดั้มทั้งสามอีกด้วย

Gฟอลคอนเครื่องหนึ่งที่รอดมาได้ถึงยุคหลังสงครามเป็นของพาล่า ซิส สำหรับกันดั้มในยุคหลังสงคราม Gฟอลคอนสามารถประกอบร่างกับกันดั้มDXได้โดยไม่ต้องปรับแต่งใดๆเลยและภายหลังคิด ซาลซามิล นายช่างอัจฉริยะแห่งฟรีเดนก็ดัดแปลงให้ประกอบร่างกับกันดั้ม แอร์มาสเตอร์ เบิร์สท์และกันดั้ม เลโอปาร์ด เดสตรอยด์ได้ คาดว่าถ้าภาคนี้ไม่ถูกหั่นซะก่อนเราคงจะเห็นความสามารถของGฟอลคอนมากกว่านี้ครับ

OZX-GU01A กันดั้มเจมินัส 01และOZX-GU02A กันดั้มเจมินัส 02

กันดั้มจากโปรเจ็คท์G-UNITที่ถูกพัฒนาอย่างลับๆที่สถานีทรัพยากรMO-Vโดยมีต้นแบบมาจากกันดั้มทั้งห้าตัวที่ถูกส่งไปยังโลกในตอนแรก ซึ่งตอนแรกทางMO-Vกะจะส่งG-UNITทั้งสองเป็นส่วยแลกกับการคุ้มครองจากOZ(เจมินี่ สัญลักษณ์ราศีเมถุนของOZ?) แต่ในขณะที่OZสายเทรซนั้นไม่ระแคะระคายเรื่องG-UNITเลย จึงไม่ได้ส่งกำลังมาคุ้มกันอย่างที่ควรเป็น หน่วยพิเศษOZไพลส์ซึ่งขึ้นตรงต่อรอมเฟลเลอร์กลับค้นพบความลับนี้เข้าจึงส่งกำลังมาพยายามแย่งชิงไป

แม้ว่าเจมินัสจะดูเป็นMSธรรมดาๆเมื่อเทียบกับกันดั้มทั้งห้า แถมยังไม่ได้ใช้เกราะกันดาเนี่ยมทั้งตัว แต่จริงๆแล้วเจมินัสเหนือกว่ากันดั้มทั้งห้าด้วยความสามารถในการปรับแต่งพาร์ตให้เข้ากับสภาวะต่างๆได้ แล้วก็"PXซิสเต็ม"ซึ่งซึ่งเมื่อใช้งานจะเร่งความสามารถของเจมินัสถึงขีดสุดพร้อมๆกับกระตุ้นให้สมองของนักบินหลั่งสารจำพวกเอนดอลฟินและอดรีนาลีนออกมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการสู้รบได้ ซึ่งในระดับสูงที่เรียกว่า"PXโอเวอร์ไดรฟ์"นั้นพลังของเจมินัสและนักบินเรียกได้ว่าเข้าสู่ระดับเหนือมนุษย์เลยทีเดียว

จุดอ่อนของPXซิสเต็มก็คือทั้งร่างกายของนักบินและMSต้องรับภาระหนักมากในการใช้ระบบนี้จึงสามารถใช้ได้ในเวลาจำกัดเท่านั้น (ของเจมินัสคือ1.36นาที) ถ้าเกินกว่านี้ทั้งนักบินและเจมินัสก็จะเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะนักบินนั้นอาจเกิดอาการช็อกได้

นักบินทดสอบของเจมินัสทั้งสองก็คือพี่น้องอาดินและโอเดล เบอร์เน็ต ซึ่งเจมินัส02ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการที่โอเดลช่วยเจมินัส01ของอาดินจากกับระเบิดและถูกOZไพลส์เอาไปสร้างใหม่เป็นOZ-10VMSX กันดั้ม แอสคิวลาปิอัส ส่วนเจมินัส01ก็ถูกปรับปรุงเป็นOZX-GU01LOB กันดั้ม LOบูสเตอร์ในภายหลังครับ(เจ้าตัวนี้มีอีกชื่อว่ากันดั้ม ล็อบสเตอร์)

AMX-001(MSN-08) คิวเบเลย์รุ่นต้นแบบ

AMXก็คือโค้ดในฐานะที่เป็นMSรุ่นทดลองตัวแรกของแอ็กซิส ส่วนMSN-08นี่ก็เพราะมันเป็นร่างMSของMAN-08 เอลเมสไงล่ะครับ (อาจจะงงนิดหน่อย เพราะซาซาบิที่ออกมาในปี0093ยังใช้แค่MSN-04เลย)

แนวคิดของคิวเบเลย์ก็คือ"เอลเมสในร่างMS" พัฒนาโดยเจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยฟลานากันในช่วงกลางปี0080 แม้ว่าขนาดอันใหญ่โตของระบบไซคอมมิวในยุคนั้นจะทำให้มันมีขนาดเทอะทะถึง25เมตรก็ตาม ระบบอาวุธและการขับเคลื่อนของคิวเบเลย์ก็ทำงานได้ตามที่ต้องการอย่างสมบูรณ์ นับเป็นก้าวแรกของการพัฒนาMSสำหรับนิวไทป์ของแอ็กซิส

ส่วนที่แตกต่างกันกับตัวจริงนอกจากขนาดกับรูปร่างก็คือ โปรโตฯนี่ยังไม่มีเกราะกระโปรง"tail binder"ครับ แต่ใช้วิธีเก็บฟันเนลไว้ในตัวเลย นอกจากนี้แขนทั้งสองข้างยังเป็นปืนมหาอนุภาค ในขณะที่ของตัวจริงเป็นบีมกัน

รีไซเคิล(เพิ่งได้ไลน์อาร์ตมาน่ะ)

อิเดี้ยน

หุ่นยนต์ลึกลับที่ชาวโลกขุดพบ ณ อาณานิคมบนดาวโซโลพร้อมๆกับยานโซโลชิป กล่าวได้ว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในจักวาล ประกอบด้วยสามส่วนคืออิเดโอ โนวา,อิเดโอ เดลต้า และ อิเดโอ บัสเตอร์ ซึ่งทั้งสามส่วนจะรวมร่างกันเป็นอิเดี้ยน [ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะครับ ส่วนโนวา(ของคอสโม)จะเป็นห้องควบคุมหลักและบัสเตอร์(กาชา)จะคุมมิสไซล์ แต่งานต่างๆจะสามารถโอนกันได้]

พลังงานของอิเดี้ยนก็คือพลังงานลี้ลับอันไม่สิ้นสุดที่เรียกว่า"อิเด"นั่นเอง นักบินจะสามารถตรวจสอบระดับของอิเดได้จากสัญลักณ์ของอิเด เกจ แม้เกราะของอิเดี้ยนจะไม่หนาสมกับขนาด105เมตรของมัน แต่อิเดจะกางบาเรียร์โดยอัตโนมัติเมื่อได้รับความเสียหายถึงระดับหนึ่ง แต่เพราะความไม่เสถียรของอิเด บาเรียร์อาจจะหยุดทำงานได้ทุกขณะแม้จะใช้บาเรียร์ไปแค่วินาทีเดียวก็ตาม

อาวุธที่เป็นพื้นฐานของอิเดี้ยนก็คือเกรนแคนน่อนและมิสไซล์ ซึ่งไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร แต่อาวุธลับของอิเดี้ยนกลับมีพลังทำลายล้างและระยะยิงที่ไม่จำกัดเพราะใช้พลังงานอิเดโดยตรงนั่นเอง ชิ้นแรกก็คือ"อิเดี้ยน ซอร์ด"ซึ่งเป็นการยิงพลังงานจากฝ่ามือทั้งสองข้างของอิเดี้ยน อิเดี้ยน ซอร์ดสามารถผ่าทำลายดาวเคราะได้สบายก็จริงแต่ขอบเขตการโจมตีแคบมาก ทำให้ด้อยประสิทธิภาพลงเมื่อต้องสู้กับศัตรูมากๆ

และนั่นก็คือสาเหตุที่มี"อิเดี้ยน กัน"ไงล่ะครับ โดยอิเดี้ยน กันจะเชื่อมต่อกับส่วนกลางของอิเดี้ยนโดยตรง และยิงคลื่นพลังงานไปเป็นวงกว้างมากในขณะที่พลังทำลายไม่ด้อยไปกว่าอิเดี้ยน ซอร์ดแม้แต่น้อย แต่จุดอ่อนของอาวุธทั้งสองก็คือต้องการพลังงานอิเดในระดับสูงมาก และทำให้ระดับของอิเดลดลงด้วย ซึ่งเมื่อลดลงมาถึงระดับนึง อิเดี้ยนจะแยกร่างออกมาเองเลยทีเดียว

ฮะๆ ตอนหน้าก็รีไซเคิลGPซีรี่ส์อีกสินะ...แต่คราวนี้คงไม่ใช่รีไซเคิลล้วนๆหรอก

รูปปิดท้าย