MS Story : *EDIT* รูปมาแล้วจ้า!!!

รูปอยู่ที่Rep15.นะจ้ะ



VF-1 วาลคีรี่

วาริเอเบิ้ลไฟเตอร์รุ่นแรกที่มีการผลิตจำนวนมากโดยประจำอยู่กับยานSDF-1 มาครอส พัฒนามาจากVF-0 ฟีนิกซ์อีกที จุดเด่นของวาลคีรี่ก็คือเป็นอาวุธที่มีความสามารถในการสู้รบมากกว่าอาวุธอื่นๆ โดยปกติแล้ววาลคีรี่จะเป็นเครื่องบินรบความเร็วสูง แต่สามารถแปลงร่างเป็นโหมดเกอร์วอล์ค (GERWALK = Ground Effective Reinforcement of Winged Armament with Locomotive Knee-joint)ซึ่งเป็นโหมดเครื่องบินแต่กางส่วนแขนและขาออกมา ทำให้โหมดนี้สามารถใช้ท่อขับดันที่ส่วนขาช่วยในการลอยตัวและมีขอบเขตการยิงของปืนกลที่กว้างกว่า กล่าวได้ว่าใช้งานเหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ และ โหมดแบทรอยด์ซึ่งเป็นหุ่นรบรูปแบบมนุษย์ที่ใช้ในการรบภาคพื้นดิน

โดยปกติแล้วอาวุธหลักของวาลคีรี่ก็คือปืนกลแบบสามลำกล้อง, ปืนเลเซอร์ และ มิสไซล์ต่อต้านหุ่นรบ แต่เนื่องจากปกติแล้วมาครอสมักจะเจอกับกองทัพเซนทรานที่มากันแบบมืดฟ้ามัวดินเป็นประจำ ภายหลังจึงใช้ไมโครมิสไซล์พ็อดซึ่งใช้ในสถานการณ์ที่ศัตรูมากันเยอะๆได้ดีกว่า

รูปแบบที่พบเห็นโดยทั่วๆไปของวาลคีรี่ก็คือVF-1A (รุ่นพลทหาร), VF-1J (รุ่นนายทหาร) และ VF-1S (รุ่นจ่าฝูง) ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างทั้งสามรุ่นนอกจากสีและประสิทธิภาพก็คือเลเซอร์ติดหัว โดยVF-1Aมีหนึ่งกระบอก ส่วนVF-1JและVF-1Sมีสองและสี่กระบอกตามลำดับ ส่วนรุ่นย่อยๆก็มีVF-1D (แบบสองที่นั่ง) VE-1 (สำหรับงานอิเล็กทรอนิก) VF-1B (รุ่นปรับปรุง เป็นVF-1Aแต่มีหัวของVF-1S) VT-1 (สำหรับฝึกโดยเฉพาะ)และVF-1X (รุ่นปรับปรุงพิเศษ) นอกห่ออีกหนึ่งรุ่นก็คือVF-1R (มีเลเซอร์สามกระบอก) ซึ่งอยู่ในโรโบเทคแต่ไม่ปรากฏในมาครอส

วาลคีรี่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้อีก นั่นก็คือบูสเตอร์ขนาดใหญ่ซึ่งทำให้โหมดเครื่องบินของวาลคีรี่สามารถออกนอกบรรยากาศโลกได้ด้วยตัวเอง แล้วก็FASTแพ็ค ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ประกอบด้วยมิสไซล์เสริม, ถังเชื้อเพลิงและบูสเตอร์เสริม ทำให้ประสิทธิภาพของวาลคีรี่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและมีชื่อเล่นว่า"ซูเปอร์วาลคีรี่" ทั้งนี้ยังมีFASTแพ็ครุ่นที่ติดตั้งบีมแคนน่อนซึ่งเรียกว่า "สไตรค์วาลคีรี่" แต่FASTแพ็คทั้งสองก็มีน้ำหนักมากจึงทำให้ประสิทธิภาพของวาลคีรี่ลดลงบนโลก (ในเกมมาครอส2036จะมีVF-1AR,VF-1JR และ VF-1SRซึ่งเป็นรุ่นที่ติดตั้งFASTแพ็คแบบถาวรไว้ด้วย แต่เนื่องจากเกมนี้ใช้เนื้อเรื่องสายเดียวกับมาครอส2 ทำให้ปัจจุบันถูกตัดออกจากประวัติศาสตร์ไปแล้ว)

อุปกรณ์เสริมอีกชิ้นก็คือ GBP-1S ซึ่งเป็นเกราะเสริมสำหรับกลายเป็น"อาเมอร์วาลคีรี่" ซึ่งมีเกราะที่หนาและเสริมอาวุธด้วยมิสไซล์พิสัยสั้นจำนวนมาก แต่เนื่องจากมันหนักและมีขนาดใหญ่มาก วาลคีรี่จึงต้องอยู่ในโหมดแบทรอยด์เท่านั้นจนกว่าจะปลดเกราะนี้ทิ้ง

แม้ว่าภายหลังจะมีวาริเอเบิ้ลไฟเตอร์รุ่นใหม่ๆอย่างVF-4 ไลท์นิ่งทรี ออกมา แต่วาลคีรี่ก็ยังคงมีการใช้งานต่อมาเรื่อยๆ ในปี2045 กว่าสามสิบปีหลังจากที่วาลคีรี่ออกรบครั้งแรกในปี2009 วาลคีรี่ราวหนึ่งในสี่ก็ยังคงมีการใช้งานอยู่



ออร์กัส

ในมาครอสภาคTVนั้น อาจจะมีคนสังเกตเห็นวาลคีรี่หน้าตาแปลกๆอยู่ตัวนึงชื่อ "ออร์กัสวาลคีรี่" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแค่โจ๊กเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องต่อมาของอ.โชจิ คาวาโมริ นั่นก็คือSuper Dimension Century Orguss ซึ่งมีออร์กัสเป็นหุ่นตัวเอก

ออร์กัสนั้นเป็นหุ่นรบที่ดัดแปลงมาจากซากเครื่องบินบร็องโค(เป็นเครื่องบินที่มีขาแบบเกอร์วอล์ค)ซึ่งเคย์ คัตซึรากิเอาไปชนกับกำแพงมิติซึ่งหุ้มโลกไว้ ชื่อออร์กัสนั้น จาบี้ มนุษย์ไดโนเสาร์เป็นคนตั้งตามชื่อเทพสงครามของเขา ออร์กัสต์สามารถแปลงร่างได้เหมือนวาลคีรี่ แต่เพิ่มโหมดรถถังเข้ามาเป็นโหมดที่สี่ (โหมดหุ่นยนต์เรียกว่าออกรอยด์)

อาวุธหลักของออร์กัสก็คือมิสไซล์กันที่แขนขวา(ภายหลังกลายเป็นบีมกัน)และมิสไซล์ลันเชอร์ขนาดเล็กที่แขนซ้าย ตัวออร์กัสเองมีความคล่องแคล่วสูงเพราะติดตั้งระบบต่อต้านแรงดึงดูดของชาวเอมานน์ไว้ ทำให้ใช้ท่อขับดันเพื่อเร่งความเร็วเท่านั้น ออร์กัสยังมีระบบที่ตอบสนองต่อการควบคุมของเคย์ได้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย ออร์กัสทูว์ซึ่งเป็นรุ่นที่สร้างขึ้นมาภายหลังไม่มีระบบนี้



เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับออร์กัส (Super Dimension Century Orguss) เป็นเรื่องที่สองในชุดSuper Dimensionต่อจากมาครอส(แต่ไม่เกี่ยวข้องกัน แม้จะมีหุ่นหน้าตาคล้ายๆกันออกมาก็เถอะ) เป็นเรื่องเดียวในซีรี่ส์นี้ที่ไม่ถูกฝรั่งรวมไว้ในRobotech เท่าที่รู้ออร์กัสประสพความสำเร็จพอสมควรนะครับ ก่อนจะมาเจ๊งสนิทในเรื่องต่อมา นั่นก็คือเซาเธิร์นครอส (Super Dimension Cavalry Southern Cross เท่าที่รู้เป็นเรื่องที่ผู้สร้างตั้งใจจะให้ดังยิ่งกว่ามาครอสเสียอีก แต่ดันเจ๊งสนิท ได้ฉายแค่26ตอน) เรื่องราวเป็นการผจญภัยของเคย์ คัตซึรากิ ในโลกที่มิติคู่ขนานต่างๆเข้ามาเหลื่อมกันในโลกใบเดียวอันเป็นผลจากระเบิดมิติเวลา โลกของออร์กัสจึงมีชนเผ่าแปลกๆอยู่เต็มไปหมด อย่างจาบี้นั้นเป็นมนุษย์ไดโนเสาร์ที่มาจากมิติที่มนุษย์ไดโนเสาร์ครองโลกแทนมนุษย์ รวมถึงสภาพภูมิศาสตร์แบบแปลกๆชนิดที่เดินอยู่กลางทะเลทรายดีๆแป๊บเดียวก็อาจจะไปยืนติดเกาะกลางทะเลได้



ยานชั้นราไคลัม และ ยานชั้นคลอป

ยานรบที่พัฒนาโดยEF โดยผสานแนวคิดของยานชั้นอเล็กซานเดรียของทิทานส์และยานชั้นอากาม่าของเอวโก้เข้าด้วยกัน เน้นการใช้งานร่วมกับMSมากกว่าในฐานะยานประจัญบาน มีอาวุธหลักเป็นป้อมปืนใหญ่มหาอนุภาคแบบสองลำกล้องสี่ป้อม, มิสไซล์ลันเชอร์หกลำกล้องและป้อมปืนสองลำกล้องขนาดเล็กกว่าอีก22ป้อม สามารถบรรทุกMSได้8เครื่อง จุดเด่นก็คือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนแปดเครื่องที่มีครีบระบายความร้อนแฝดขนาดใหญ่ซึ่งช่วยให้ราไคลัมเร่งความเร็วได้สูงกว่ายานรบอื่นๆ

ยานชั้นราไคลัมลำแรกนั้นเป็นเรือธงของกองกำลังลอนด์เบลภายใต้การบังคับบัญชาของกัปตันไบรท์ โนอา ซึ่งต่อมาภายหลังก็มีการสร้างยานในชั้นนี้ออกมาอีก โดยแต่ละลำก็เป็นระดับเรือธงของกองกำลังEFทั้งหมด เท่าที่ค้นได้ก็คือ จอมพลทิอันม์(ตั้งชื่อตามจอมพลทิอันม์จากสมัยOYW ปรากฏตัวในภาคF90), รากัสต้า (ปรากฏตัวในภาคF91) และ แจนเดออาร์ค (โจนออฟอาร์ค?) ซึ่งเป็นยานธงของEFภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลมูราบาก สเทิร์นในครั้งสงครามซันสคาร์ ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงโดยติดตั้งบีมชิลด์ไว้ด้วย

แม้ยานชั้นราไคลัมจะมีการสร้างมาเป็นเรือธงเท่านั้น แต่ก็ยังมียานชั้นคลอป(บางครั้งก็เรียก ราคลอป แต่หลายคนแซวว่ามันชื่อแครป-Crap-ขยะ ต่างหาก) ซึ่งเป็นรุ่นดาวเกรดของราไครัมอยู่ด้วย คลอปมีอาวุธและเครื่องยนต์ที่ด้อยกว่าราไคลัมและมีจุดปล่อยMSเพียงจุดเดียว ทำให้ดูแล้วคล้ายกับมุไซของซีอ้อนซักหน่อย จริงๆแล้วคลอปยังด้อยกว่ายานซาลามิสด้วยซ้ำไปเพราะติดตั้งป้อมปืนไว้ด้านข้างลำยานเท่านั้น จึงยิงใส่เป้าหมายที่อยู่ตรงๆยากและส่วนโรงเก็บMSก็ถูกโจมตีได้ง่ายโดยเฉพาะในขณะที่ปล่อยMSลงสู่สนามรบ ทำให้EFต้องใช้คลอปคู่กับซาลามิสตลอดช่วงหลังของศักราชUC (และได้ตำแหน่งบักเห่ยในหมู่ยานรบไปครองร่วมกันอย่างงดงาม...)



ดราก้อนฟลาย และ ดิช

ดราก้อนฟลายนั้น พูดง่ายๆว่าเป็นพาหนะประจำตัวเด็กส่งเอกสารของกองทัพEF หลังจากที่อนุภาคไมนอฟสกี้สำแดงฤทธิ์ในการปิดกั้นการสื่อสารด้วยวิทยุได้อย่างมีประสิทธิภาพ EFก็หาหนทางอื่นเพื่อใช้สื่อสารในพื้นที่ที่มีอนุภาคไมนอฟสกี้หนาแน่น ผลที่ได้ก็คือเครื่องบินดราก้อนฟลาย(หรือที่ซีอ้อนเรียกว่า"คอมมิว")ซึ่งเป็นเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยใบพัดที่มีน้ำหนักเบามากแต่มีปีกที่ใหญ่ ซึ่งทำให้ดราก้อนฟลายใช้ทางวิ่งสั้นจนสามารถใช้ดาดฟ้าของยานพสุธาบิ๊กเทรย์เป็นรันเวย์ได้ หน้าที่ของดราก้อนฟลายก็เหมือนกับนกพิราบสื่อสารในสมัยโบราณนั่นเอง

ส่วนดิชนั้นเป็นเครื่องบินขนาดเล็กแบบใช้งานแบบอเนกประสงค์รวมถึงEWAC (Early Warning And Control), EW (Electronic Warfare) และงานขนส่ง โดยมีจานเรดาร์ขนาดใหญ่บนหลังซึ่งแม้จะใช้ประโยชน์ได้น้อยลงในสนามรบที่เต็มไปด้วยไมนอฟสกี้ ดิชก็ยังมีประโชน์ในการสำรวจพื้นที่ก่อนการสู้รบ เพราะไม่ได้ออกแบบมาสำหรับสู้รบ จึงมีอาวุธแค่ปืนกลขนาดเล็กสำหรับป้องกันตัวเท่านั้น ครั้งหนึ่งจอมพลเรวิลเคยใช้ดิชบินไปยังหน่วยไวต์เบสเพื่อพบกับอามุโร่ด้วยตัวเองมาแล้ว

- Edit by Kuruni(12 ธ.ค. 2547-21:50:36)
Anime

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา