(P.A.D.) part II Last Love And Last Emotion ตอนที่1 Intro To The End (สานต่อจากภ

(P.A.D.) Protect And Destroy Part II :Last Love And Last Emotion



Source Code บรรทัดที่ 1 :Intro To The End



ประเทศไทย ......28 พฤศจิกายน 2016......

ค่ำคืนกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ในอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งซึ่งมีแสงไฟสลัวๆเปิดทิ้งไว้ ชายหนุ่มที่กำลังอยู่ภวังหลับกับความฝันที่เขาไม่อยากที่จะนึกถึงมันอีก นั่นคือภาพของคน12คนที่ถูกตรึงไว้บนผนัง รอบตัวของพวกเขาถูกมัดไว้ด้วยสายไฟระโยงระยางและสายเคเบิลต่างๆ อย่างไร้ทางที่จะหลุดไปจากมันได้ เสียงของกระแสไฟฟ้าดังลั่นอยู่เบื้องหน้าของเขาและมุ่งตรงไปยังคนทั้ง12ที่ยังคงอยู่บนผนังอย่างไร้หนทางหนี กระแสไฟที่มากมายมหาศาลฉีกป่นร่างของพวกเขาออกเป็นผงธุลีภายในพริบตา

"ไม่............!"ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้น มือของเขาสั้นระริกจนไม่สามารถจะควบคุมได้

"แฮ่ก....แฮ่ก.......ทำไมถึงฝันแบบนี้ได้ให้ตายสิ ไม่มีเวลาแล้ว...เราจะโอ้เอ้อยู่ไม่ได้อีกแล้ว"ชายคนนั้นลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินไปที่คอมพิวเตอร์ที่อยู่ข้างเตียงของเขา

"ตลอด5ปีที่ผ่านมาฉันเฝ้าเตรียมการทุกอย่างเพื่อที่จะพาพวกเราทุกคนกลับมา"เขามองไปที่รูปถ่ายที่วางไว้ข้างเครื่องคอมฯ แล้วหยิบขึ้นมาดู

"ไม่ต้องห่วงนะมิฟูฉันจะช่วยเธอออกมาให้ได้ .....เพราะฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องถูกจับ"แสงไฟสลัวๆฉายไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นที่อยู่ในเงามืด เขาคือกิตนั่นเอง!



10:30นาฬิกา.....29 พฤศจิกายน 2016 ที่ร้านขายคอมพิวเตอร์ Release Comp

"ติ้ง~~ต๊อง" เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้นขณะมีคนเข้ามาในร้าน

"ไง มิ้น.....สบายดีรึเปล่า" กิตซึ่งเข้ามาในร้านพูดกับมิ้นด้วยท่าทีที่ซึมๆเหมือนเหม่อลอย

"แปลกแฮะ....ทุกทีเข้ามาต้องพูดจาหาเรื่องฉันไม่ใช่รึไง วันนี้กินยาผิดมารึเปล่า" มิ้นซึ้งกำลังจัดของเข้าที่เข้าทางอยู่หันกลับมาพูดกับกิตซึ่งเดินเข้าไปที่โต๊ะซ่อมเครื่องคอมพ์ตรงมุมหลังร้าน

"เปล่า....ไม่มีอะไรนี่ แล้วคอมพ์เครื่องนี้ของใครเหรอ จะให้ฉันช่วยซ่อมรึเปล่า...."กิตซึ่งยังออกอาการเหม่อๆอยู่พูดขึ้นเมื่อเห็นคอมพ์เครื่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ "พอดีเลย...เขาเอาตั้งไว้เมื่อเช้าน่ะเห็นว่า ตัวFeedback มันรวนๆนิดหน่อย......อ้อ..จริงสิแล้วรู้ไหมว่านี่เครื่องของใคร" มิ้นพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น

"ก็ของชิตไงที่ปีที่แล้วที่เขามาเป็นสมาชิกของเราจำได้รึยัง "

"อ๋อ.....ของน้องเขางั้นเหรอ" กิตยังทำท่าทีเชื่อยชาเหมือนกินยาเบื่อหนูอยู่เหมือนเดิม

"ไหนขอดูหน่อยซิ ว่าข้างในเป็นยังไง" กิตเริ่มจัดแจงเปิดโน่นเปิดนี่ไปเรื่อยๆ

"อืม.....อัตราการFeedback ยังไม่ค่อยจะนิ่งนะ แถมการรับส่งข้อมูลยังไม่เสถียรเท่าไหร่ด้วย....แต่ช่างเถอะแค่นี้ไม่หนักหนาเท่าไหร่เดี๋ยวเดียวก็เรียบร้อย"

เขาหาอุปกรณ์ติดตั้งต่างๆทั้งโปรแกรมไดรเวอร์ และปรับฟังก์ชั่นต่างๆให้เหมาะสม

"จริงสิ....ใส่เจ้านี่เข้าไปด้วยจะดีกว่า"พูดจบเขาก็จัดการเอาแผ่นดิสก์สีเงินแผ่นหนึ่งติดตั้งลงไปในเครื่อง หลังจากที่เขาซ่อมเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปหลังร้านเพื่อหาอะไรกินซักหน่อยซึ่งเป็นเวลาเหมาะเจาะพอดีที่ชิตเดินเข้ามาในร้าน

"หวัดดีคับพี่มิ้นเครื่องของผมเสร็จรึยังเนี่ย" ชิตเดินเข้ามาในร้านเพื่อมารับเครื่องคอมพ์ของเขาที่มาฝากไว้เมื่อเช้า

"เรียบร้อยแล้วล่ะจ๊ะ.....ส่วนค่าบริการไม่ต้องนะพี่ไม่คิดตังค์จ้ะ" มิ้นซึ่งกำลังจัดชั้นวางของอยู่หันมาพูดพร้อมกับของที่ยังถืออยู่เต็มมือ

"ขอบคุณมากครับ...งั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะครับเพราะต้องเอาไปใช้แล้วคงต้องรีบกลับล่ะครับ"แล้วชิตก็เดินออกจากร้านไปพร้อมกับเครื่องคอมพ์ของเขา

หลังจากที่ชิตเดินออกจากร้านไปได้ซักพักแล้วกิตก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับขนมปัง4แผ่นที่ยังจุกแน่นอยู่ในปาก

"อ้าว....เมื่อกี้รู้สึกเหมือนมีคนเข้าร้านไม่ใช่เหรอ"กิตถามมิ้นทั้งๆที่ในปากยังคงคาบขนมปังอยู่

"ก็น้องเขามาเอาเครื่องไปแล้วน่ะ.....ว่าแต่เธอเถอะคราวหลังกินให้เรียบร้อยก่อนออกมาก็ได้นะ ฮิๆ...."มิ้นหัวเราะออกมาแบบเบรคไม่อยู่

"อย่างงั้นเหรอ....." นั่นเป็นประโยคที่กิตพูดออกมาแทนที่จะว่ามิ้นกลับเหมือนทุกทีที่เคยทำ ซึ่งมิ้นก็เริ่มสงสัยบางอย่างในตัวของกิตบ้างแล้ว



วันนี้ก็เหมือนกับทุกๆวันที่ผ่านมาแต่หากเพียงไม่มีเสียงหัวเราะ หรือ รอยยิ้มของ กิตให้เห็นเลยจนกระทั่งถึงตอนเย็น ซึ่งมิ้นก็เริ่มที่จะสงสัยมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่



19:30นาฬิกา .......เวลาบนหน้าปัดนาฬิกาในร้านบอกเวลาตามหน้าที่ของมัน

ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องปิดร้านแล้วกิตก็ถอนหายใจออกมาเหือกใหญ่พร้อมกับจัดแจงเก็บสัมภาระต่างๆของตัวเองลงกระเป๋าเช่นเดิม แต่หน้าตาของเขาไม่ค่อยจะสู้ดีนักดูเหมือนเหม่อลอยหนักยิ่งกว่าตอนเช้าเสียอีก

"เดี๋ยวสิกิตไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ เดี๋ยวพี่โอ๋ก็กลับจากที่ทำงานแล้ว"มิ้นถามขึ้นหลังจากที่กิตกำลังจะเดินไปที่ประตู

"เอ่อ....ไม่ล่ะขอบใจนะ" แต่ขณะเดียวกับนั้นเองมิ้นก็เข้ามาคว้าข้อมือของกิตไว้ได้ก่อนที่เขาจะออกไปที่ประตู

"เกิดอะไรขึ้นกับเธอรึเปล่า หือ...กิต "มิ้นพยายามที่จะถามให้รู้แน่ชัด

"เปล่า...ไม่มีอะไร ฉันแค่เหนื่อยเลยอยากจะกลับไปนอนเร็วๆก็แค่นั้นเอง"แม้ว่ากิตจะตอบด้วยน้ำเสียที่เป็นปกติแค่ไหนแต่สายตาของเขาไม่ได้เป็นปกติตามไปด้วย มันเป็นสายตาของคนที่กำลังเตรียมใจรอรับชะตากรรมอะไรซักอย่าง

"อย่ามาหลอกฉันเลยดีกว่านะ...ตลอด5ปีที่ผ่านมาฉันรู้นิสัยเธอดีกว่าตัวเองเสียอีก นี่เธอคิดจะไปทำอะไรกันแน่" มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่นัยตาของเธอกลับแสดงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

"ไม่มีอะไรหรอกน่า....อย่าคิดมากสิ เพราะฉะนั้นจะหลีกทางให้ฉันกลับได้รึยัง"กิตซึ่งถูกมิ้นมองด้วยสีหน้าแบบนั้นถึงกับพูดอะไรแทบไม่ออก ได้แต่บอกปฏิเสธไปเรื่อย

"ไม่!.....จนกว่าเธอจะพูดความจริงกับฉัน สายตาของเธอมันฟ้องอยู่ทนโท่ว่าเธอกำลังจะจากไป.....จากไปแบบไม่มีวันกลับ" น้ำเสียงที่หนักแน่นของเธอตอนนี้แทบจะไม่มีเหลืออีกแล้ว มันเป็นเสียงที่สั่นคลอนไร้ความมั่นใจมีเพียงแต่ความวิตกปนออกมากับเสียงพูดเท่านั้น

"ฉันแค่....เอ่อ...จะไปพาเพื่อนๆของฉันกลับมาแค่นั้นเอง อย่ากังวลเกินเหตุไปหน่อยเลยน่า"กิตพยายามที่จะไม่ให้มิ้นเป็นห่วงมากไปกว่านี้

ไม่ทันที่กิตจะได้พูดอะไรต่อมิ้นก็เข้ากอดเขาเอาไว้

"ไม่ยอมหรอก...ไม่ยอมให้เธอจากไปไหนทั้งนั้น ถ้าเธอจะไป...สัญญากับฉันก่อนว่าเธอต้องกลับมา"มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย

พลั๊ก......! เสียงของสันมือกระทบเข้าที่ท้ายทอยของมิ้น มันทำให้มิ้นถึงกับทรุดลงโดยที่กิตยังคงประคองเธอไว้

".....ขอโทษนะ..ฉันคงจะให้สัญญาอะไรไม่ได้อีกแล้ว" นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของกิตก่อนที่มิ้นจะหมดสติไป

เขาเดินออกไปจากร้านโดยไม่หันกลับมาออกอีกพร้อมสายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาอย่างไม่รู้ที่สิ้นสุด หนทางข้างหน้าของเขามีแต่ความมืดดำสนิทที่จะทำให้เขาต้องพบกับความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่าที่รอคอยเขาอยู่เบื้องหน้า



จบSource Code บรรทัดที่1: Intro To The End
Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา