(P.A.D.)part 3 Last war Last Impresstion ตอนที่ 7 Hope for All (-ฟิกนี้ดองนานมา
DEEP SESSION O.S. ส่วนที่ 7 : Hope For All (ความหวังเพื่อทุกสิ่ง)
...............กลางทะเลทรายกองกำลังไม่ทราบฝ่าย................
"ท่านผู้การครับ!! เราจับสัญญาณบางอย่างจากการสแกนได้ครับ เป็นโปรแกรมที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจำนวน4 ไม่สิ 5......มาจากทางทะเลครับ"ทหารคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้ามอนิเตอร์ตะโกนขึ้น
"มาแล้วงั้นรึ เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิดเลย........."บุรุษร่างท้วมในชุดนายพลพูดอย่างช้าๆพร้อมกับยืนขึ้น"สั่งให้หน่วยปืนใหญ่ที่3กับ5แถวชายป่าเตรียมตัวไว้พร้อมรับคำสั่ง.......แล้วให้หน่วยจู่โจมที่ซุ่มอยู่บริเวณนั้นเตรียมออกจากการกำบังได้"
"พวกมันจะไม่ได้มีมาแค่นี้แน่ สั่งให้หน่วยจู่โจมเตรียมยิง...เป้าหมายคือเจ้าพวกแมลง5ตัวนั่น เมื่อมันเข้าสู่พื้นที่สังหารแล้วให้ระดมยิงได้เลย"ชายร่างท้วมเริ่มสั่งการขึ้นพลางหยิบซิการ์ในกล่องเหล็กสีน้ำตาลขึ้นมาจุดสูบอย่างสบายใจ
"ท่านครับ! มีการยืนยันข้อมูลจากPrototype-0ว่า มียานรบจำนวนมากลอยลำอยู่ในน่านน้ำบริเวณนี้ห่างออกไปราว60กิโลเมตรครับ"ทหารนายหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อน
"สั่งให้หน่วยปืนใหญ่ออกจากการอำพรางตัว ถ้าศัตรูเข้ามาในระยะแล้วให้ยิงไปได้เลยโดยไม่ต้องรอคำสั่ง......วันนี้แหละที่ฉันจะเป็นคนเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลก"นายพลหัวเราะดังลั่นราวกับคนบ้าคลั่งเบื้องหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยหุ่นยนต์รุ่นใหม่นับพันๆเครื่องที่ตอนนี้ยังหยุดนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้นทรายท่ามกลางลมทะเลทรายที่พัดไหวอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่สิ่งที่ชายคนนี้สนใจนั้นกลับไม่ใช่กองทัพหุ่นจำนวนมากมายมหาศาลแต่กลับเป็นหลอดแก้วขนาดใหญ่ที่พอจะบรรจุคนได้5อันที่ตั้งอยุ่ตรงข้ามกับหุ่นพวกนั้น.....ในหลอดแก้วเต็มไปด้วยของเหลวสีฟ้าใสดุจอำพันบริสุทธิ์และเงาที่ส่องสะท้อนแสงสีฟ้าออกมานั้นปรากฏร่างที่ดูคล้ายหญิงสาวผมยาว5คน ร่างทั้ง5ลอยอยู่ในหลอดแก้วราวกับสิ่งของที่ไร้วิญญาณซึ่งถูกตรึงไว้กับความฝันที่แสนหวาน..................
"แล้วโบนาดเตรียมการเสร็จเรียบร้อยรึยัง"บุรุษร่างท้วมเอ่ยถามทหารที่ยืนอยู่ข้างกายเขาพลางจ้องมองไปยังหลอดแก้วเหล่านั้นอย่างพออกพอใจ
"ตอนนี้โบนาดเตรียมการเรียบร้อยไป98%แล้วครับ....คาดว่าอีกราว230วินาทีการเตรียมการจะเสร็จสมบูรณ์"
"ถ้าอย่างนั้นผมจะไปที่โบนาด.....ส่งคนของคุณมาขนของพวกนี้ไปที่โบนาดด้วย อย่าลืมล่ะ"ชายร่างท้วมสั่งการพลางชี้ไปยังหลอดแก้วสีฟ้าทั้ง5อันก่อนที่จะเดินไปยังเงาทะมึนสีดำขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจมอยู่ในทะเลทรายกว่าครึ่ง
......................................................................................
ณ เชิงผาริมทะเลนั้นเสียงกระทบกันของโลหะดังลั่นพร้อมกับเงาร่างของคนสองคนที่ต่อสู้กันอยู่..................
"ย้าาาาา......."มิฟูพุ่งเข้าใส่กิตด้วยความเร็วที่มากอย่างเหลือเชื่อราวกับไม่ใช่มนุษย์ คมมีดสีเงินสองเล่มที่กวัดแกว่งอยู่กลางอากาศด้วยท่วงท่าที่งดงามราวกับนางฟ้ากำลังร่ายรำแต่เพียงแค่แรงอัดของลมจากคมมีดนั้นก็ตัดผ่านหินผาได้ง่ายดายดุจฟันลงบนปุยนุ่น
ตอนนี้กิตได้แต่สกัดการโจมตีที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องของมิฟูเอาไว้และพยายามหลบหลีกเป็นระยะๆ แต่ไม่ใช่เพียงความเร็วของมิฟูเท่านั้นแม้แต่พละกำลังของเธอในขณะที่มีดสีเงินนั่นปะทะลงบนดาบสีขาวของกิต ความรู้สึกราวกับถูกปั่นจั่นขนาดยักษ์กระแทกใส่นั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย ทุกครั้งที่ต้องยกดาบขึ้นรับยิ่งทำให้มือของกิตชาและสั่นอย่างควบคุมไม่ได้แต่ในทางตรงกันข้ามมิฟูกลับยิ่งโจมตีใส่เขาด้วยความแรงที่มากขึ้นทุกขณะ
"เธอเป็นอะไรของเธอน่ะ มิฟู"กิตตะโกนพร้อมกับอาศัยจังหวะที่มิฟูถอนมีดกลับพุ่งเข้าหาหมายจะหยุดการเคลื่อนไหวของเธอไว้.......แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ไปถึงตัวของมิฟู.............
หยดเลือดสีแดงฉานนองพื้นความรู้สึกราวกับร่างกายถูกกรีดไปทั่วร่างทำให้กิตถึงกับนิ่งไปด้วยความตกใจ ตรงหน้าของเขานั้นมิฟูยกมือขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปทางเขาก่อนที่นิ้วทั้งห้าของเธอจะกำพร้อมกับกระชากอะไรบางอย่างในอากาศ แต่ไม่ทันที่กิตจะทันได้สังเกตเส้นด้ายสีเงินก็ถูกกระชากกลับหลังจากแทงทะลุตัวเขาไปนับสิบเส้นยิ่งทำให้บาดแผลหนักยิ่งขึ้นไปอีกจนเขาถึงกับล้มคว่ำลงไปตรงนั้น..........
ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องประกายเจิดจ้าบนท้องฟ้าเสียงฝีเท้าที่ย่ำไปบนทรายก็ดังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆพร้อมกับเงาของคนๆหนึ่งเข้ามาบดบังแสงนั่นไป.....เงาที่แลดูมืดมนดุจบดบังทุกสิ่งทุกอย่างให้มืดสนิท ทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ชีวิตให้ดับสิ้นลงชั่วนิรันดร์ และแล้วแสงสะท้อนสีเงินวาววับภายใต้เงานั่นราวกับกำลังบอกให้กิตซึ่งตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะขยับไปไหนได้ทั้งนั้นได้รับรู้ว่า.......บัดนี้ยมทูตผู้ที่จะมอบความตายให้เขานั้นยืนอยู่ตรงหน้านี้แล้ว....................
แต่ไม่ทันที่ประกายแสงจากมีดจะปักลงไปบนกลางอกของเขา ลำแสงที่ดูเหมือนกับปืนใหญ่ถูกยิงออกมาจากชายป่าด้านหลังออกสู่ท้องทะเลก็สว่างวาบขึ้น ในชั่วเสี้ยววินาทีนั้นกิตใช้ด้ามดาบกระแทกเข้าอย่างแรงที่ท้องของมิฟูส่งให้เธอกระเด็นออกจากเขาไป
"ฟู่ๆ...ๆ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ทำร้ายเธอ ไม่ว่าเธอต้องการจะฆ่าฉันหรือไม่ก็ตามที"กิตดันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลพลางมองไปยังมิฟูที่ตอนนี้ก็ลุกขึ้นมาได้แล้วเช่นเดียวกัน แต่แววตาของเธอกลับขุ่นมัวราวกับไม่มีถ้อยคำใดๆจะเข้าถึงจิตใจของเธอได้อีกต่อไปแล้ว........และในพริบตานั้นราวกับว่ากิตเหมือนเห็นภาพหลอนเมื่อมิฟูที่อยู่ห่างจากตัวเองไปหลายเมตรตอนนี้กลับมาอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็วดุจเงาก่อนชั่วเสี้ยววินาทีที่ประกายแสงสีเงินของคมมีดจะปักลงบนอกของเขานั้นกิตรู้สึกได้ถึงน้ำตาของมิฟูที่มากระทบบนใบหน้าก่อนที่มีสีเงินจะถูกย้อมให้กลายเป็นสีเลือด.....เลือดของคนที่เคยรัก.................................
................................................
"หักหัวเรือ20องศา หลบมันให้พ้นให้ได้"กัปตันฮาร์เวิร์ดสั่งด้วยเสียงดังลั่นก่อนที่ลำแสงจากปืนใหญ่จะยิงมากระทบตัวยาน แม้จะหลบได้อย่างฉิวเฉียดแต่แรงสะท้อนจากลำแสงนั้นทำให้ยานถึงกับสะเทือนราวกับถูกขย่ำแต่ก่อนที่ทุกคนในSeagate Angel จะได้ทันตั้งตัวมิไซต์จำนวนหลายสิบลูกก็พุ่งเข้ากระทบตัวยาน
บึ้ม....มม.......เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งยานทำให้บางส่วนเสียงหาย ยานรบหลายลำรอบข้างถูกยิงเสียหายอย่างหนักบางลำหายไปจากจอเรดาห์ไม่มีแม้สัญญาณตอบกลับมา
"ท...ทุกคนไม่เป็นไรนะ"แอร์รี่ที่นั่งอยู่บนสะพานเดินยานพยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้นหลังจากที่แรงระเบิดเมื่อครู่ผลักเธอให้กระเด็นไปกระแทกกับแผงควบคุม เมื่อเธอเงยขึ้นมองที่ที่นั่งกัปตันเก้าอี้นั้นกลับว่างเปล่าก่อนที่เธอจะเห็นร่างของกัปตันฮาร์เวิร์ดฟุบอยู่บนพื้นพร้อมกับบาดแผลที่ศีรษะราวกับกระแทกกับอะไรซักอย่างตอนที่ถูกโจมตี ณ ชั่ววินาทีนั้นความเงียบ ความวังเวง ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวได้เข้าครอบงำทั้งสะพานเดินยาน
บัดนี้ไม่มีผู้ที่จะสั่งการอีกแล้วท่ามกลางความโกลาหลพนักงานที่ประจำอยู่บนสะพานเดินยานกำลังช่วยกันประคองร่างที่ไร้สติของกัปตันตัวเองหลบเข้าไปข้างในทิ้งให้ทุกสนบนสะพานเดินยานต่างสับสน ตอนนี้ไม่มีใครจะมาสั่งการอีกแล้ว สภาพด้านนอกตัวยานตอนนี้ยังคงถูกระดมยิงจากปืนลำแสงจำนวนมากอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ชิตยังคงยิงสกัดเท่าที่ทำได้แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยยานรบลำอื่นๆได้ ยานรบหลายลำเริ่มส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย บางลำนั้นถูกยิงระเบิดไปต่อหน้าต่อตา
ท่ามกลางสถานการณ์ที่สิ้นหวังเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นที่ที่นั่งของกัปตันที่บัดนี้ไม่มีผู้ใดนั่งอยู่อีกแล้ว......ร่างของแอร์รี่ยืนอยุ่บนแผงควบคุมตรงที่นั่งของกัปตัน
Fiction