Rx-121-1 Gundam Tr-1 [Hazel Custom] by Sakamoto Miwa

ขอยกทั้งกระทู้มาจาก board thaigundam เลยละกัน

สวัสดีครับ คราวนี้ผมนาย Sakamoto Miwa มีผลงาน(ห่วยๆ) มาให้ท่านชมอีกแล้ว

เรามาเกริ่นถึงข้อมูลเจ้า MS ตัวนี้กันสักกระติ๊ด ด้วยข้อมูลจาก gundamsite7.com โดยพี่ Know

RX-121-1 GUNDAM TR-1 "HAZEL CUSTOM"

สังกัด: Titans Test Team (Black Otter Team)

ผู้พัฒนา: Konpeitoh Arsenal

นักบิน: เรือเอก Wes Murphy

ความสูง: 18.1 meters

น้ำหนักตัวเปล่า: 41.5 tons

นำหนักพิกัด: 63.0 tons

Generator output: 1420 kW (+390 kW)

Thruster output: 18,000 kg x 1, 27,000 kg x 2, 17,500 kg x 2, 1,870 kg x 4

วัสดุของเกราะ: titanium alloy ceramic composite, Luna Titanium alloy

รัศมีของ Sensor: 10,200 meters

อาวุธ: beam saber, beam rifle, shield

อุปกรณ์เสริม: shield boosters, multipurpose launchers (option)

Profile: หลังจากที่ Gundam TR-1 "Hazel" ของเรือเอก Wes Murphy ได้รับความเสียหายจากการต่อสู้กับพวก Zeon ที่หลงเหลืออยู่อย่างหนัก มันได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงขึ้นใหม่โดยอาศัยชิ้นส่วนจาก GM Quel ที่ประจำอยู่ที่ Konpeitoh และชิ้นส่วนสำรองของ Hazel ที่อยู่บน Aswan. "Hazel Custom" นั้นสะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลจากการสู้รบและเทคนิคการปรับปรุงต่าง ๆ ที่สะสมมาจาก original Hazel อุปกรณ์เสริม enhancement parts ที่มีรูปทรงภายนอกไม่แตกต่างจากของเดิมเท่าไหร่นั้นได้มีการปรับปรุงสมดุลย์ระหว่าง parts และโครงสร้างภายในของตัวเครื่องจักรเพื่อให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือแม้ว่ารูปทรงภายนอกจะดูไม่แตกต่างจากของเดิมเท่าไหร่ แต่น้ำหนักที่ลดลงและไอพ่นขับดันที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้อัตราเร่งโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ได้มีการติดตั้งจอภาพมอนิเตอร์แบบ 360 องศาและระบบที่นั่งแบบ linear seat เพิ่มขึ้นภายใน cockpit เพื่อใช้ในการทดสอบเป็นหลัก และ software ระบบปฏิบัติการก็ได้รับการ upgrad ด้วย ดังนั้น MS นี้จึงมีความก้าวหน้ากว่า original Hazel เป็นอย่างมาก และรหัสประจำหุ่นก็ได้เปลี่ยนแปลงจาก RX-121 เป็น RX-121-1

เนื่องจาก shield booster ของเดิมนั้นสูญหายไปในการต่อสู้ในครั้งก่อน Hazel Custom จึงติดตั้งโล่ห์แบบธรรมดาไว้ในช่วงแรก การสูญเสีย shield boosters นั้นทำให้ความคล่องแคล่วของ Hazel Custom ลดลง แต่ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นก็เพียงพอที่จะชดเชยในสิ่งที่ขาดหายไป ในขณะเดียวกันเนื่องจากตารางการซ่อมแซมปรับปรุงที่เร่งรัดมาก ทำให้ไม่มีเวลาในการทำสีให้เป็นแบบของ Titans ดังนั้นเกราะส่วนใหญ่จึงยังคงมีสีเทาอยู่ตามแบบเดิมที่ผลิตออกมา

Technical Notes: คุณสมบัติพื้นฐานของ Hazel Custom อันได้แก่ประสิทธิภาพของ generator and thruster นั้นเหมือนกันกับ GM Quel เครื่องยนต์ปฏิกรณ์ปรมณูในส่วนขา (thermonuclear rocket engines) นั้นมี output ข้างละ 17,500 kg และ backpack นั้นติดตั้ง movable booster pod แบบเดิมแบบเดียวกันกับ original Hazel เตาปฏิกรณ์ (thermonuclear reactor) ภายใน pod นั้นทำหน้าที่ทั้งเป็น generator เสริมที่มี output ขนาด 390 kW และ hybrid jet/rocket engine ที่มีแรงขับ 18,000 kg Hazel Custom ยังคงมี support actuator units และ enhancement parts ในแบบของ original Hazel อีกทั้งยังสามารถติดตั้งอุปกรณ์อื่นแบบเดิมได้ทั้งหมด multi weapon latch สามารถเชื่อมต่อตรงบริเวณกระโปรงส่วนหน้าตรงกลางเพื่อเป็นอุปกรณ์สนับสนุนเหมือนกันกับ sub arm unit หรือ flexible beam rifle unit และ multipurpose latch อีกชุดหนึ่งติดตั้งอยู่บริเวณเหนือ cockpit hatch

รูปแบบของ Hazel Custom's High Mobility Form นั้นจะเป็นแบบเดียวกันกับ original Hazel และในแบบ Assault Form นั้นจะติดตั้ง booster pod แบบเดียวกันกับที่ติดตั้งอยู่บน Galbaldy Beta High Mobility Type ซึ่ง shield booster ทั้ง 2 ชุดนั้นจะติดตั้งอยู่บริเวณ movable booster pod และที่ตัว mobile suit นั้นจะติดตั้ง extendable shield แบบของ Galbaldy Beta แทน

คราวนี้ก็เป้นโมตัวที่ 10 แล้วสำหรับโมทำสีจริง ต่อจากเจ้า Z'gok ลายเสือ(หรือจะเรียกลายตุ๊กแกดีหว่า?)คราวก่อน

งานคราวนี้ผมค่อนข้างที่จะเผาพอสมควร เพราะว่ามันใกล้ที่จะเปิดเทอมแล้ว ผมจึงต้องรีบทำให้เสร็จ โมฯตัวนี้ใน Scale 1/144 สำหรับผมถือว่าทำเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียงเดือนกว่า ซึ่งปกติ Scale นี้ผมใช้เวลาทำประมาณ 3-4 เดือน(ก็เวลามันไม่ค่อยมีนี่) ซึ่งจุดผิดพลาดต่างๆ ก็จะเห็นได้ อย่างเช่นปากของ hazel ผมไมได้ใส่ Super Clear [Gloss] ลงไปใน Super Clear [Flat] ตอนพ่นตรงหัว สีแดงที่คางจึงซีดลงไป เห็นได้ชัด ซึ่งผมจะเอาไปแก้ไขในส่วนปากนี้ทีหลัง(แต่พวกท่านจะไม่ได้ดูหรอกเหอะๆๆ)และใช้ข้อผิดพลาดตรงนี้ไปแก้ไขในโมฯตัวต่อๆไป แล้วก็กระโปรงหลัง ตอนผมพ่นเคลือบด้านก็ลืมปัดฝุ่นออก พอพ่นเสร็จเพิ่งจะเห็น ก็สายซะแล้วฝุ่นก็เลยเกาะอยู่อย่างงั้น (จริงๆเขาต้องเสียบคาไม้พ่นเอาไว้อย่างงั้นแต่บ้านผมไม่มีเนื้อที่พอที่จะทำอย่างนั้นจึงต้องพ่นแล้ว แกะออกจากไม้แล้ววาง ฝุ่นจึงเกาะได้ง่าย)

เอาละมาพูดถึงการทำสี

ผมใช้ Mr.Surfacer 1000 สีเทาพ่นลงไปก่อน ทุกชิ้น จากนั้นจึงใช้ Mr. Base White พ่นเฉพาะชิ้นที่เป้นสีขาว กับชิ้นที่พ่นสีสด ซึ่งพ่นให้ขาวขึ้นได้ยากพอสมควรจึงใช้เวลาตรงนี้นานมาก ชิ้นที่เป็นสีแดงผมใช้แดง Shine Red ส่วนดำตามตัวผมใช้ German Gray(ชื่อสีมันเทาแต่พ่นออกมาดำเมี๊ยมเลย) สีเหลืองใช้ Orange Yellow สีเขียวใช้ Yellow Green แล้วจากนั้นใช้ Super Clear[Gloss] พ่นทั่วทุกงานเพื่อเตรียมลงเส้นด้วย สี Enamel ดำของ Tamiya และติดสติกเกอร์ จากนั้นปิดด้วย Super Clear[Flat]ผสมSuper Clear[Gloss]เพียงเล็กน้อย ก็จบ

ในอนาคตท่านจะได้เห็นตัวนี้ติด G part "HRUDUDU" ซึ่งผมจะทำมาให้ได้ชมกันทีหลังนะครับ(และแก้ไขสีปากด้วย)