กระทู้ที่(อาจจะ)ต่อเนื่องจากกระทู้พ.ร.บ.ปืนของทั่น FIIay "บุกจี้ร้านราดหน้า เจ้า

มาจากคม ชัด ลึก วันที่9 ตุลาคม พ.ศ.2546 ขอรับ





บุกจี้ร้านราดหน้า เจ้าของคว้าปืนยิงดับ



หนุ่มวินจยย.พก"มีดสปาต้า" บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านราดหน้า "เคี้ยงเอ็มไพร์" ย่านอ่อนนุช จี้เมียเจ้าของร้านบังคับส่งกระเป๋าเงินให้ ไม่หนำใจ ผลักล้มคะมำ เจ้าของร้านใจเด็ดฮึดสู้คว้าเก้าอี้ทุ่มใส่ กลับถูกไล่ฟันจนต้องหนีกระเจิง สุดท้ายตัดสินใจใช้ปืน .38 ยิง 2 นัดเข้าขั้วหัวใจดับ ตร.แจ้งข้อหาฆ่าคนตาย เตรียมสอบทำเกินกว่าเหตุหรือไม่



เหตุพ่อค้าขายราดหน้าชื่อดังยิงคนร้ายที่บุกเข้ามาชิงทรัพย์ในร้านจนเสียชีวิต เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 8 ต.ค. พ.ต.ท.ไพรินทร์ รัตนประทีป สารวัตรเวรสถานีตำรวจนครบาล (สน.) พระโขนง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ด้านหน้าร้านราดหน้ายอดผัก "เคี้ยง เอ็มไพร์" ตั้งอยู่เลขที่ 29/29 ซ.อ่อนนุช 32 ฝั่งตรงข้ามวัดยาง แขวงและเขตสวนหลวง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู



ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าร้าน เจ้าหน้าที่พบนายสวัสดิ์ เทดี อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ 24/1 ม.2 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อาชีพขับวินรถมอเตอร์ไซค์ปากซอยอ่อนนุช 17 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ราวนมด้านซ้าย และขวา รวม 2 นัด กระสุนฝังในนอนดิ้นทุรนทุรายส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กับนายสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าถือสีดำแบบผู้หญิง มีดสปาต้า 1 เล่ม และกระเป๋าคาดเอวสีแดง บริเวณข้างร้านยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าโนวา สีเทา หมายเลขทะเบียน บตบ 160 กทม. ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บจอดอยู่และพบเสื้อวินจักรยานยนต์ ด้านหลังปักว่า "วินบริการ เบอร์ 84" พับไว้ในตะกร้าหน้ารถ



จากการสอบถามนายชินภาพ ธนาวุฒิกุล อายุ 41 ปี เจ้าของร้านราดหน้าทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสวัสดิ์เข้ามานั่งภายในร้านและสั่งราดหน้า 1 ชาม เมื่อกินเสร็จได้สั่งใส่ถุงอีก 2 ถุง และเดินออกไปด้านนอกร้านเพื่อนำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ข้างร้าน เวลาเดียวกันนั้นมีลูกค้าอยู่นอกร้านซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน



"หลังจากจอดรถเสร็จ ผมเห็นเขาเดินเข้ามา แล้วจู่ๆ ก็มากระชากศีรษะของนางบุญนาค บัวคำ อายุ 42 ปี แฟนผมที่นอนหลับอยู่บนโต๊ะข้างๆ จุดที่ทำอาหารและเอามีดสปาต้าจี้ที่คอ พร้อมกับพูดว่าให้เอากระเป๋าถือมา ช่วงเกิดเหตุในร้านมีน้องเขยและลูกน้องอยู่รวม 5 คน แต่ไม่มีใครทำอะไร ผมได้พูดขอร้องให้ปล่อยแฟนผม ให้เอาทรัพย์สินไปได้ แต่คนร้ายก็ลากนางบุญนาคไปที่หน้าร้าน และผลักล้มลงก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์"



นายชินภาพ กล่าวต่อไปว่า จังหวะนั้นได้โอกาสจึงหยิบเก้าอี้ทุ่มไปที่หลังคนร้ายอย่างแรง คนร้ายจึงหันกลับมา ถือมีดสปาต้าวิ่งไล่ฟัน จึงวิ่งหนีไปไกลกระทั่งนายสวัสดิ์ตามไม่ทัน



"พอผมหันกลับไปดูอีกที เห็นเขาวิ่งกลับไปในร้านแล้วไล่ฟันคนที่อยู่ในร้านจนต้องวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นขึ้นไปหลบบนชั้นบนพร้อมกับล็อกประตูไว้ แต่โชคดีคนร้ายไม่ได้ขึ้นไปทำร้าย แต่หันกลับและจะขับรถหนี ผมเลยรีบวิ่งมาหยิบปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะชั้นล่าง เห็นเขากำลังค่อมรถเตรียมสตาร์ทรถ ผมเลยตะโกนเสียงดังว่า เอากระเป๋าคืนมา ไม่งั้นยิงแน่ คนร้ายก็ชูมีดจะวิ่งมาทำร้ายอีก ผมเลยยิงไป 1 นัด คนร้ายยังไม่ล้มจึงยิงอีก 1 นัด กระทั่งล้มลงอยู่หน้าร้าน "เจ้าของร้านราดหน้า" เคี้ยง เอ็มไพร์" เล่าเหตุการณ์อย่างตื่นเต้น



ด้านนางสุข ศรีหมุด อายุ 41 ปี พนักงานปั๊มน้ำมันบางจากที่ตั้งอยู่ใกล้ร้านดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงเอะอะ จึงวิ่งออกมาดูพบว่าเจ้าของร้านถือปืนอยู่ เล็งไปที่คนร้ายที่กำลังจะสตาร์ทรถแต่ยังไม่ทันสตาร์ท คนที่มุงดูเหตุการณ์ได้ช่วยกันหยิบเก้าอี้ ทุบตีคนร้าย ซึ่งคนร้ายก็ดิ้น และพูดออกมาว่า "กูสู้ตาย" และจะวิ่งไปฟันเจ้าของร้านที่ยืนห่างอยู่แค่ 50 เมตร แต่เจ้าของร้านยิงสวนไป 2 นัดก่อนคนร้ายล้มลง



พ.ต.ท.ไพรินทร์ กล่าวว่าคนร้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากกระสุนตัดขั้วหัวใจ และสภาพศพยังพบว่ามีรอยบาดแผลถูกฟันที่แผ่นหลังอีก 1 แผล ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายสวัสดิ์ เบื้องต้นทราบว่าเคยรับจ้างขับรถจักรยานยนต์รับจ้างจริง แต่ถูกไล่ออก



"นายชินภาพให้การว่า บาดแผลที่หลังของคนร้ายถูกน้องภรรยาฟัน ขณะเดินหันหลังเข้าไปทำร้ายพี่เขย จึงฟันไป 1 ที หลังจากนั้นก็ถูกยิง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำนายชินภาพ เพื่อหาข้อสรุปว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่" พ.ต.ท.ไพรินทร์ กล่าว



รายงานแจ้งว่าผลการตรวจร่างกายของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจระบุว่า สภาพศพของนายสวัสดิ์มีบาดแผลที่ศีรษะ 2 แผล บริเวณหลัง 1 แผล ถูกยิงเข้าที่ราวนมขวาและซ้ายอย่างละ 1 นัด แขน 1 นัด และมีรอยถูกแทง



พ.ต.ท.ประสาท ไชยศิริ กล่าวว่า พิจารณาจากเหตุการณ์แล้ว นายชินภาพทำไปเพื่อป้องกันตัวเนื่องจากผู้ตายมีอาวุธมีดยาวถึง 19 นิ้ว และทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตายและปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่จะต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นการทำพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ ถ้าเป็นการทำพอสมควรแก่เหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะพิจารณาไม่สั่งฟ้อง





..........................................



ของแบบนี้ มันต่างกันเพียงคนละด้านของเหรียญเท่านั้นเอง ผมว่านะ

ลองคิดว่าไอ้มีดที่โจรในข่าวถือถ้าอยู่ในมือคนเดินป่า เค้าก็เอาไว้ถางหญ้า ถางพง

แต่ก็ลองคิดกลับกันว่า ถ้าโจรมันถือปืนมาแทนมีดล่ะ?? ดังนั้นการมีอะไรกับตัวเพื่อป้องกันสถาณะการณ์ฉุกเฉินแบบนั้นไว้ผมว่าจะดีกว่า เพราะ โจรไม่เลือกอาวุธที่อาณุภาพสูงนักหรอก แค่ไม้หน้าสามหรือบางทีอีโต้ในร้านเลยนั่นแหละ เหตุเพราะเพื่อเอาไว้ขู่คนที่ไม่มีอาวุธให้ยอมจำนนแล้วก็ยอมทำตามตนก็พอ ลองคิดดูว่าถ้ามีคนถือคัดเตอร์หันมาหาคุณระยะประชิด คุณกลัวไหม?

แต่อาวุธแบบนั้นบางทีก็ต้องการ"ระยะ"เหมือนกัน ลองคิดดู ถ้าคนเดิมถือมีดคัตเตอร์หันหาคุณแต่ในระยะ5-6เมตร คุณจะวิ่งไหม? มีหลายวิธีจะตายที่จะใช้ป้องกันมีดนั่นเท่าที่ผมคิดได้ เก้าอี้ ไม้กวาด แม้แต่เอาผ้าขี้ริ้วมาพันแขนให้หนาๆเอาไว้รับมีด ก็ยังได้เลย แต่ "จะเอาเวลาไหนมาคิดถ้าไม่เคยเตรียมใจรับสถานะการณ์นี้" จะเสี่ยงบาดเจ็บไปทำไมกับพวกยืมจมูกคนอื่นหายใจ ทำงานมาตั้งตายโดนปล้นแถมอาจโดนเอาชีวิตด้วยงั้นความพยายามที่ทำมาทั้งชีวิตนี่ทำไป เพื่อะไรล่ะ? เพื่อให้พวกมันเอาของเราไปแล้วก็ระให้ระบบจัดการงั้นเหรอ? อาวุธเท่านั้นแหละครับที่พอช่วยได้ โดยเฉพาะปืน ที่ผมยกให้ปืนเพราะ ระยะทาง อาณุภาพ หรือแม้กระทั่งชื่อเสียงความน่ากลัวของมันกินขาด ปืนเปล่าๆไม่มีลูกบางทียังไม่น่ายุ่งด้วยเลย แต่ก็มีพลังอำนาจแบบนั้นไว้ ก็ย่อมต้องมีความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งด้วย(คุ้นๆไหม) สุดท้ายถ้ารัฐยังปราบมาเฟีย โจรก่อการร้าย ส่วย ความฉ้อฉล ให้พ้นจากเมืองไทยไม่ได้ ผมก็ขอเลือกมีปืนเก็บไว้ในบ้านซักกระบอกจะดีกว่าถ้าคิดจะเอาอะไรจากผมไปโดยไม่เสียอะไรก็ข้ามศพผมก่อนเถอะ



....................

น้ำเยอะเกินไปแล้วแฮะ แล้วทั่นคิดว่าอย่างไรบ้างครับกับเรื่องพ.ร.บ ปืน กับ สถานะการณ์แบบนั้นถ้าท่านได้ประสบกับตัว ขอเชิญร่วมกันออกความคิดเห็นหน่อยนะขอรับ





Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา