วิเคราะห์ GSD ภาคต่อที่ดี รึภาคต่อที่แย่

วิเคราะห์ GSD ภาคต่อที่ดี รึภาคต่อที่แย่.....

Gs หรือ Gundam seed เป็นกันดัมภาคใหม่ในยุค 2000 แน่นอนว่าภาคแรกนั้นไม่ใช่ว่าจะโดนกระแส ด่า ...(คนเรามักลืมง่ายเหอๆ) ภาค Seed นั้นโดนในเรื่องการยำมุขของกันดัมหลายๆภาคเข้าด้วยกัน การดำเนินในช่วงต้นที่ไปซ้ำรอยของ อามุโร่ เรย์.... ใครไม่เชื่อลองกลับไปดูและเปิด อ่านกันดัม ออริจินัล ของ SIC สิ ถึง ช่วงสู้กับกู๊ฟ...ถึงจะไม่เหมือนแต่มีบางจุดที่เหมือนเรียกว่าจุดหลักๆมากเลย....(พอละกันเดี๋ยวกลายเป็นการวิเคราะห์ภาคแรกไป)

มาในภาคต่อ ที่แน่ๆ ว่าในตอนแรกมีหลายคนตั้งตารอเพราะโดยรวมถือว่าเป็นกันดัมที่กระแสแรงพอดู โดยส่วนตัวให้รองมาจาก วิงเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งตัวละคร เนื้อหา แต่กลับภาคนี้ก็มีเสียงหลายกระแส ทั้งอินกับบททั้งด่า จ้องจับผิดงานภาพ ที่เห็นได้ว่า อิมพัวว์เป็นสไตร์ค(ในตอนนี้ฉบับDVD มีการแก้แล้วนะจ๊ะ) Sฟรีดอมเป็น ฟรีดอม ธรรมดา....(ไม่รู้ในตอน 50 แก้ไหมแต่แก้ใน FP แล้ว)



แต่พอเอามาบวกลบ คูณหาร ถอดสมการ ถอดสแคว์รูจ (เฮ้ย..พอ…) สิ่งที่ได้มาคือคำด่ามากว่าคำชม ไม่เหมือนภาคที่แล้ว...ทั้งนี้มีปัจจัยมา จาก สิ่งที่เรียกว่า งานเผา...ภาพตัวละคร ตัวหุ่น ฉากสู้ ด้านเนื้อเรื่อง....เราจะมาแยกย่อยดังนี้....



เริ่มต้นจากงานภาพ แน่นอน ว่าในช่วงตอนต้นของเรื่องจะไม่ค่อยเห็นงานเผา ตอนที่1-3 แต่เริ่มเห็นเค้าๆหลังจากนั้น ว่าเริ่มมีอย่างที่เห็นคือท่ายิงของแซ็คที่เหมือนกันเดะ...อาจจะเป็นจุดอ่อนที่ดันภาคนี้ เนื้อหาดันมาเน้นที่ซาร์ฟและด้าน ซาร์ฟ นั้นมีตัวละครหลักๆ ไม่น้อย แถมดันใช้หุ่นแบบมาร์คโปรดักซ์ผลเลยออกมา ดูเริ่มมีขัดใจเล็กๆ ก็คนขับหุ่นดันเจือกเป็นตัวหลักนี้ ถ้าเป็นตัวเบ๊ คงไม่มีใครสนใจหรือขัดใจมาก แต่ไม่ใช่ใช้บ่อยแบบมุราซาเมะ ท่ายิงสุดฮิต - -. อันนั้นก็มากไป (ถ้าตอนนั้นทำท่ายิงหลายๆแบบ และแต่ละคนมีท่ายิงไม่เหมือนกัน ของลูน่ากับเดียก้า คงดีกว่านี้) และสิ่งที่เริ่มขัดใจ ต่อมา คือการเล่นง่ายๆ ของทีมงานเสมือนดูถูกคนดู ...โดยการลอกฉากต่อสู้เปลี่ยนแค่หุ่นที่ขยับท่าทางเท่านั้น ฉากแรกที่เห็นคือเรย์ ปะทะ นีโอ ในตอนแรกๆของเรื่องที่เอาฉากสู้ของพี่เทพที่สู้กับครูเซ่ในตอนท้ายมาใช้...ก่อนที่จากนั้นเราจะเห็นใช้ในหลายฉากที่ลอกจากภาคที่แล้ว ที่ใช้บ่อยจนขัดตาคือ ท่าปล่อยดรากูล อาคาซึกิ โพว์วีเดน เลเจนด์ (ไอ้ท่าปล่อยที่ยิงเสร็จแล้วโชว์หุ่นส่องประกายตานะ) จนอดคิดไม่ได้ว่า ไอ้ 3 ตัวนี้เป็นพี่น้องกันมัย.... และตอนที่ลุยถล่มป้อมโรเอนกรีน ที่อัสรันบังคับ เซเวียร์ โดดลงมาใช้ดาบคู่ฟันMs แมงมุมนั้น ลอกของฟรีดอมชัดๆ ไม่นับถ้าใช้มีดของอิมพัวว์นะเนี่ย...ส่วนท่าเสียบดะ รึท่าจับดาบคู่ของจัสติส รึโหมดยิงแหลก อันนี้พอเข้าใจว่ามันเป็นเอกลักษณของนักบิน เลยปล่อยผ่าน..(ที่ยอมรับไม่ได้คือลอกท่าทางของหุ่นตัวนั้นมาใส่ตัวนี้แหละ)



นอกจากลอกของเก่ายังมีใช้ฉากสู้ซ้ำ .....แน่นอนว่าอันนี้เพียบ จนยากจะบรรยาย แม้แต่ตอน 50 ไม่วายจะใช้ของเก่าในตอนที่ 42-43 เอามาใช้เลย...ยิ่งทำให้เสื่อมไปใหญ่...ถ้าถามว่าภาคก่อนมีใช้ภาพซ้ำไหม? มีใช้คำ แต่ไม่บ่อยน่าเกลียด ส่วนใหญ่แทบดูไม่ค่อยออกแต่มีน้อย...มากอย่างภาพหลบมิซายด์ของสไตร์ค ที่ใช้ตอนแรกกับบาคูและมีใช้อีกทีตอนเจอกับอะไรจำไม่ได้....แต่ส่วนใหญ่จะน้อย และยิ่งตอนหลังๆ ภาคก่อนจะแทบไม่เผาเลยด้วยซ้ำ..ทำอลังการให้คนดูนั้นลุ้นสนุก ...แต่ภาคนี้ นับฉากสู้ที่เร้าใจได้เลยครับ แถม จำนานความยาวของฉากก็น้อยเสียด้วย.....ให้ความรู้สึกว่าสู้ภาคก่อนในช่วงหลังๆไม่ได้เอาซะเลย..





มาถึงงานภาพตัวละคร ถ้าดู จะเห็นว่าบางตอนนั้นลายเส้นตัวละครไม่สวยเอาเลย อย่างตอนที่13 นะง่ายสุดไปเทียบกับSPได้ .....ผมตอนดูไม่ได้เอะใจ มาเอะใจตอนหลังๆที่ว่าเอะ..หน้าของลักซ์เหมือนเดิมแล้ว...แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากเท่ากับข้างต้น แน่นอน ครับว่ากันดัมไม่ใช่การ์ตูนรัก ฉะนั้นเรื่องหน้าตาตัวละครพยายามวาดให้เหมือนกับลายเส้น อาจารย์ก็พอ...แต่ในใจมันก็ขัดใจนะโดยเฉพาะหนูลักซ์...ฉะนั้นถ้าคิด % ในการหักแต้มก็ไม่ใหญ่เท่ากับ การเผาหุ่นยนต์ นะครับ (ส่วนตัวนะ) แต่ทางที่ดีไม่ควรจะมีเลยจะดีกว่า....



มาถึงจุดด้านที่ยาวที่สุดของการวิเคราะห์แล้วครับ เนื้อเรื่อง.....จะว่าไปโดนหักแต้มเรื่องงานภาพ ฉากสู้ ตัวละคร ถ้าปกติ ก็บอกตามตรงว่าเรื่องนั้นแย่ครับ เพราะมันหัวใจหลักไม่แพ้เนื้อหาเลย นะงานภาพ....ต่อให้เนื้อเรื่องจะดีแค่ไหน ถ้างานภาพไม่ดี ก็ไม่รอด แต่ถึงงั้นผมก็จะพูดต่อไป....



เนื้อเรื่อง...แน่นอนว่าจากบทสัมภาษณ์ก็ดี รึดูเองก็ดัก็ต้องบอกว่า ภาคนี้ซับซ้อนดูยาก สำหรับคนที่ดูไม่คิดก็บอกว่าภาคนี้ห่วยแต่จริงๆ ไม่ห่วยเท่าไร แต่ก็ใช่ว่าจะดียอดเยี่ยม...จุดอ่อนของภาคนี้คือการที่ตัวละครเยอะเกินไปแถมต้องการให้ตัวละครนั้นมีส่วนรวม และการใส่รายละเอียดปลีกย่อยที่มากไปทำให้แน่น...



ภาคนี้นั้นไม่ได้กล่าวจุดเล็กๆ ในโลกของSEED แต่กล่าวถึงภาคโดยรวมของโลก มีการกล่าวถึงที่นั้นที่นี้ ทั้งที่ออร์บ ที่ซาร์ฟ ซึ่งต่างจาก ภาคแรกที่มาจากมุมมองการเดินทางของอาร์คแองเจิ้ล...อย่างที่บอกพอภาพกว้างตัวละครก็เยอะ...ด้วยแทนจะดีกลับเป็นจุดเสีย..ไม่เชื่อคนที่อ่านถึงตอนนี้ถามกับตัวเองเลยครับว่า รู้สึกผูกพันธ์กับลูกเรือมิเนอวาที่เป็นตัวเอก มัย?...



แน่นอน ผมว่าคำตอบส่วนใหญ่คงบอกว่าไม่เท่าที่ควร....ไม่เพราะอะไรนั้นเดี๋ยวแจง ให้ฟัง ก่อนอื่น ต้องขอชมรึเกริ่นก่อนว่า...แน่นอนว่าตอนข่าวออกว่ามีภาคต่อ ตัวเอกนั้นเป็นตัวละครใหม่ และสงครามใหม่ เลยเป็นที่น่าสนใจเพราะว่า..



1 .สงครามครั้งใหม่จะเกิดได้ไง ก็ภาคก่อนเหมือนกับว่าทุกอย่างน่าลงเอยจบดีแล้ว แต่คนที่มีอายุและคิดตามหน่อยดูก็คงรู้ว่าเหลือไฟไว้ โดยเฉพาะบูลคอสมอส....กับปัญหาของชาติกำเนิดที่แตกต่าง



2.ตัวละครใหม่ เป็นใคร แล้วพวกเก่าๆ อัสรัน คีระ...ฯลฯ ละ?....ยิ่งมีรายละเอียดอีกว่า บักชิน เป็นผู้รอดตายจากสงครามที่ออร์บ โอว์ฟังดูแล้วสร้างปมน่าสนใจมาก.....



ยิ่งฉากโปรโมท แน่นอนว่าได้ใจหลายๆคน...ไป แน่นอน พานึกถึงว่าชินจะต้องแก้แค้น ใครเป็นคนยิงฆ่าครอบครัวชิน กลับไม่มีการกล่าวถึงอีก ซึ่งในหนังรึละครหลายๆเรื่องก็เปิดฉาก แบบนี้ เหมือนกับว่าในเรื่องต้องมีเรื่องราวการขยายจากการเปิดฉาก แต่สุดท้ายก็ไม่มี... ซึ่งจุดนี้ก็ไม่ว่าอะไรมากโดยส่วนตัวนะ..



พอถึงฉายจริง...กลับมีความรู้สึกว่า ช่วงที่ดีที่สุดของภาคนี้อยู่แค่ 13 ตอนแรกเท่านั้น....อย่างน้อยขอชมว่า ซันไรซ์ ถึงใช้มุขเก่าอีกครั้งกับการขโมยกันดัมเป็นการจุดเริ่ม แถมต่อด้วยเหตุการณ์ต่อเนื่องที่สามารถสร้างให้กลายเป็นไฟของสงคราม...หากคิดตามการแค่ขโมยกันดัมอย่างเดียวก็อาจจะเป็นแค่การโต้เถียงเจรจา..ไม่นำสู่เป็นชนวนที่ใหญ่มากได้..จึงจำเป็นต้องมีเหตุการณ์ที่ดูเหมือนว่ายิ่งใหญ่และเพียงพอทำสงคราม จึงเป็นที่มาของยูนิอุสที่ตกใส่..เพราะหลังสถานการณ์นั้น บูลคอสมอส เอาไปปั่นน้ำเสร็จสรรพจนได้เป็นสงครามที่ต้องการ..

อันนี้ต้องขอยอมรับอย่างใจจริง...ว่าเจ๋งมาก ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเปิดฉาก วินดัมและการขนนิวเครียร์ไปถล่มหวังปิดเรื่องเลยทั้งๆที่เพิ่ง ยังไม่ถึง10ตอนด้วยซ้ำ...



การที่ทำให้เห็นถึงมิติของโลกในเรื่องนับว่าเป็นจุดดี...แต่อีกนัยยะหนึ่งกลับเป็นจุดอ่อน...อย่างข้างต้นพวกเราผูกพันธ์กับลูกเรือมิเนอวามัย?...ทั้งๆที่ภาคนี้เรียกว่าเด่น แต่ในใจผมกลับไม่ค่อยรู้สึกผูกพันธ์อะไรมาก..เป็นเพราะอะไรลองมาอ่านและคิดตาม มิเนอวาโผล่มาตั้งแต่ตอนที่ 1 จนเรื่อยถึงยูนิอุสตก แน่นอนว่าเพราะสถานการณ์เฉพาะหน้าเรา(คนดู)นั้นยังไม่รู้จักอะไรกับพวกเค้าเท่าที่ควร...รู้นักบินทั้ง 3 มีอดีตเป็นไง ใครเป็นกัปตัน....ชิน ไม่ถุกกับคางาริ แถมพอเรื่องเข้าสู่ยูนิอุสตก กลายเป็นการฉายมิติในวงกว้าง....มีตัวละครเก่ามาแจม...



ผมมองว่ากลับกลายเป็นการทำให้คนดูไม่สนใจ ตัวละครใหม่เลย คอยจับจ้องอีซาคจะกลับมาไหม คีระ ฟรีดอมละ?....สรุปเจอรัศมีเบียดมิด..แต่ไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีนะครับ ในเรื่องการดำเนินเข้าสู่ไฟสงครามแต่ไม่ดีตรงที่ไปดับรัศมีตัวละครใหม่ กว่าจะวกกลับเน้นจุลภาค เน้นพวกมิเนอววา นู่นตอนที่15 .....



แถมในช่วงหลังตอนที่ 15 ที่อัสรันเข้ารวมทีมกับมิเนอวา เป็นอีกช่วงที่น่าจับตามอง...แน่นอนว่ารุ่นพี่อย่างอัสรันน่าสั่งสอนอะไรแก่รุ่นน้องอย่างชินบ้าง...จะได้เห็นการพัฒนาของชิน ซึ่งตรงนี้ก็มีบ้างทั้งการสั่งสอน เรื่องพลัง การตบหน้า....แต่สำหรับในฉากต่อสู้นั้น ผมมองว่าภารกิจช่วงที่เน้นที่มิเนอวา นั้นกลับเป็นภารกิจที่อ่อน ในความรู้สึกของคนดูคือ เหมือนกับไม่ได้เพิ่มความสามารถของนักบินขึ้นมากแม้แต่น้อย...



ที่เห็นว่าชินได้เพิ่มฝีมือคือตอนที่ 12 และหลังจากนั้น ไม่มี...มีลุยกับฝูงวินดัม...ไม่มีการเจอกับเอสไพร็อทคนอื่นอย่างจริงจัง นอกจากพวกสเตล่า...ต่างจากตอนคีระ เลยทำให้เหมือนกับว่าฝีมือชินนั้นไม่มีการพัฒนาเลยทำให้คนดูมองดูยังไง ชินไม่มีทางสู้กับฟรีดอมได้...ทั้งทักษะ และประสิทธิ์ภาพของหุ่น ส่วนอัสรันที่เอาแต่บินไปบินมา...สำหรับตัวผมคิดว่าเค้าเลื่อนชั้นเป็นหัวหน้าแล้วเรื่องการรบนี่ไม่ต้องลงไปยุ่งมาก ปล่อยให้ชินโชว์ไป คอยสนับสนุนช่วยในตอนที่เกิดพลาดพลั้งก็พอ เพราะถ้าเอาจริงผมว่าชินอาจจะไม่ได้เกิด รึนอกเหนือจากนั้นอาจจะเป็นเพราะ ตัวอัสรันเองยังมีเรื่องกลุ้มใจนิดๆด้วยก็ได้ อันนี้คนรู้มีเพียงคนเขียนบทเท่านั้น...



และก็อย่างที่บอกว่า มีเพียงคนที่รู้คือคนเขียนบทและทีมงานเท่านั้น ว่าคิดอะไรอยู่ ที่เจาะจงใส่รายละเอียดให้คับแน่น....หลายเหตุการณ์ที่อยากให้มี แน่นอนว่าบางเหตุการณ์ผมไม่ได้รังเกียจมากนัก.. แต่นั้นก็ทำให้เป็นเรื่องที่พลาด ในการที่จะยัดองค์ประกอบทั้งหมดใส่ไว้ในภาคนี้ ตัวละครใหม่ต้องซัดกับฟรีดอมนะ

ฟรีดอมต้องแพ้ สเตล่าต้องตาย.....ฯลฯ รายละเอียดที่หลากหลาย ที่เข้ามายัดก็ยิ่งเบียด....จำนวนตอน และทั้งๆที่มีเนื้อหารายละเอียดที่มากก็ยัง คงทำตอนย้อนเผาตอนเสียเปล่า บางตอนที่ไม่ต้องมีเลยก็ได้...



ถามว่ารายละเอียดพวกนั้นดีมัย? ดีครับ แต่มันเยอะไป จนเป็นอย่างที่เห็น ถ้าให้ดีผมว่าคุณน่าจะควรแบ่ง รายละเอียดทำภาค 3 แบบต่อเนื่อง เหมือนกับ Zและ ZZ รับรองจะดีกว่า แบบภาคนี้เน้นที่ชินไปเลยอะไรทำนองนั้น....ขยายตอนที่อัสรันอยู่รวมกับมิเนอวา ให้ชินได้สู้ให้เห็นการพัฒนามากกว่านี้...เพิ่มทำงานร่วมกับไฮเน่หลายๆตอนหน่อย ไม่ใช่ว่าลงสนามรบครั้งเดียวไปเกิดใหม่แล้ว ...ฟรีดอมโผล่มาสักช่วง 3ใน 4ของเรื่อง..

และให้ไคล์แมกซ์ของภาคคือการตามล่าAA และการจมฟรีดอมโดยต่อสู้แบบสุดมันส์ ก่อนที่ตอนท้ายตบด้วยการอัสรันรู้ความจริงและถูกเสียบตกทะเล ปิดภาคด้วยการประกาศแผนเดสทีนี่..โดยที่มีพวกคีระมองและบอกว่า “ไม่ให้จบแบบนี้เด็ดขาด”



ถ้าทำแบบนี้ผมว่าดีกว่าแน่นอน....แถมทำให้กระแสไม่ตกด้วย และยังสามารถขยายเรื่องราวได้อีก ...ให้ภาคต่อไปก็เปิดมาซาร์ฟฉากลุยกับโลว์กอส เห็นกันดัมของทางEA ตัวใหม่ๆที่อย่างน้อยไม่ได้มีแค่ตัวหลักๆอย่างเดสทรอย - -...ออกมาเยอะจนคิดว่ามันกระจอกแถมค่าสร้างนี่คงถูกมากแน่ๆ (ทั้งๆที่วิทยาการที่ใส่ไว้หุ่นนี่สุดยอดทั้งๆนั้น).ก่อนที่ช่วงท้ายรึกลางคืนบทพระเอกให้พวกคีระอีกครั้ง...เนื้อหาจากภาคก่อนที่คั่งค้างมาเฉลยในภาคนี้....คีระ-อัสรัน สู้กับชินและเรย์หลายๆครั้ง....ไม่ใช่อย่างที่เห็น สู้กันแค่ครั้งเดียวและตัดไปสู้อีกทีในตอนจบ ...(ถึงมีเหตุผลรองรับก็เถอะ)



และถ้าแบ่งเป็น 2 ภาค และขยายช่วงตอนอัสรันอยู่บนยานมิเนอวา แสดงให้เห็นการพัฒนาของชินมากกว่านี้ก็ยังคงทำให้คนดู อาจจะพอเออ มีลุ้น ว่าอาจจะสูสีกับคีระ...ทำให้สนุกและลุ้นมากกว่านี้ แต่นี่ไม่ เพราะคุณไม่ทำให้เห็นการพัฒนา จนคนดูเค้าดูไงรู้ว่าทั้งชิน และเรย์ ไม่สามารถสู้คีระ อัสรันได้เลย.....เพราะรายละเอียด ที่ต้องการให้ทั้งหมดอยู่ในภาคเดียว เป็นผลหลายอย่างที่ทำให้ดูแล้วรู้สึกขัดใจนิดๆใน บางส่วนอย่าง ตอนชนะฟรีดอมเอาเหตุผลง่ายๆ ความกังวลใจทำให้ทั่วบ้านทั่วเมืองบอกว่าที่ชนะ คีระ เพราะฟลุค.....



พอมาตอนสุดท้ายคนดูนั้นไม่มีใครเห็นใจชินสักคน ทั้งๆที่มีบทอยู่กับคนดูมาตลอดเรื่อง ไม่สิต้องบอกว่าไม่มีใครคิดเห็นใจชินเลยเป็นทุนเดิมอาจจะมีเห็นใจตอนเปิดเรื่องจากนั้น คะแนนสงสารโดนหักเรื่อยๆจากปากหมาของมันเอง พอมาแพ้อัสรันหมดรูปในตอนจบขอโทษนะ เอาแค่บอร์ดนี้ก็พากันสมน้ำหน้า ด่าว่า โง่ ด้วยซ้ำ แข้งเปล่าอัดแลกกับแข้งติดใบมีด - -....(มาคิดอีกที ริวเซ่เจอคู่แข่งแล้วมัง คนที่ใช้กำลังมากกว่าสมองนะ..)



ขอสรุปว่า ด้านเมนหลักของภาคนี้ นั้นไม่ได้เลวร้าย บางคนคิดว่าซันไรซ์ มาเปลี่ยนบทตอนท้ายให้กิลเป็นคนร้ายนั้นผมกลับคิดตั้งแต่ดูตอนเป็นซับแล้วว่า เค้าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อใจที่สุด(ตั้งแต่รอยยิ้มตอนท้ายตอน1แล้ว)..และภาคนี้ยังคงสอดแทรกเรื่องให้คบคิดเหมือนกับภาคแรกอย่างแนวแนวคิดของกิล ที่ดูยังไงก็เสมือน คอมมิวนิตส์ชัดๆ...ในด้านเนื้อหานั้นถือว่าพอผ่าน ที่ว่าพอผ่านอย่างที่ผมว่ารายละเอียดที่มีมากไป....ที่อัดแน่น..จนเป็นอะไรที่ดูแล้วขัดตาขัดใจนิดๆ....จนหลังๆรวบๆไงไม่รู้..และรู้สึกมันไม่ค่อยเต็มที่เท่าไรด้วย ผมว่าถ้าจำนวนตอน มีสัก 60 ตอนบ้างทีอาจจะพอดีๆไม่ต้องมาเร่งรวบเรื่องจนน่าเกลียด รึมีอะไรขัดหูขัดตาแบบตอนนี้ก็ได้...



ขอบอกอีกนิด มีบางคนดูบอกว่าเหมือนพวกคีระ ภาคนี้ทำตัวน่าเกลียด...ซาร์ฟกำจัดโลกอสเพื่อความสงบสุขไม่ช่วยก็ดันมายุ่งขัดขวางอีก และเหมือนมาคว้าผลงานไปคนเดียว...คงต้องแยกให้ออกว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงสงครามนั้นไม่ได้แบ่งฝ่ายให้ใครเป็นพระเอกรึตัวร้าย มีเพียงอุดมการณ์แนวคิดที่ต่างกัน...(ลองกลับไปดูวิงกันดัมก็ได้ เพราะภาคนั้นก็ดูยากและสับสนเช่นกันเพราะ ถ้ามองมุมคนนอกพวกฮีโร่ก็เหมือนผู้ก่อการร้ายดีๆนี่เองในช่วงต้น แถมยังมีเรื่องการเปลี่ยนอำนาจในมุมกว้างซึ่งดูแล้วเข้าใจยากพอๆกับเดสทีนี่นี่เช่นกัน..)



กิลล้างโลว์กอส เพราะเพื่อกำจัดต้นเหตุของชนวนสงคราม เพื่อเหมือนเอาความถุฏต้องมาซื้อใจคนเพื่อไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ ...แต่พวก

คีระเค้าไม่ได้มองตรงจุดนั้น เค้าสู้เพราะไม่อยากมีอนาคตที่ถุกกำหนดเช่นนั้น.....แต่คีระใช่ว่าจะยอมโลว์กอส เพราะเขาบอกเองในตอนท้ายว่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ต่อไป หากมีสงครามครั้งใหม่อีก.....โดยรวมผมให้ภาคนี้ให้ C- อับ....มีแค่เนื้อเรื่องแหละ ที่ทำให้โอเค ทั้งๆที่ส่วนประกอบอื่น..เฮ้อ....น่าขัดอกขัดใจ



แต่ผมว่าระหว่างสันติภาพที่คางาริ พูด ยังดีกว่า สันติภาพสมบูรณ์แบบของรีรีน่า แห่งวิง กันดัม..ด้วยอย่างน้อย คางาริ ก็ยอมรับว่า การรักษาสันติภาพไว้ก็จำเป็นต้องมีพลังเช่นกัน..ซึ่งต่างจากรีรีน่า.. ที่หวังถึงยุคที่ไม่มีอาวุธ แต่ตัวของตัวเองกลับไม่มีกำลังไว้ปกป้องตัวเอง...



แต่ไม่ว่าหลักการของพืซคราฟรึ ออร์บก็ดี...ตัวแปรที่ทำให้เกิดสงครามนั้นก็อยู่ที่ สิ่งมีชีวิตที่อ้างว่าตัวเองประเสริฐกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น..นั้นเอง ตราบใดที่ยังมีมนุษย์ ยังมีความเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ได้ รวมทั้งความคิดที่สวนทาง ไม่มีทางที่สงครามหมดไปหรอก มันก็แค่เชื้อที่รอการระเบิดเท่านั้น....



ป.ล. เมื่อคืนได้ดูเบื้องหลังกว่ามาเป็นภาคเดสทีนี่ที่แถมกับแผ่น 13 ใช้เวลาเตรียมงาน 1 ปี แล้ว 1 ปีทำไมถึงได้ ออกมาแบบนี้ ผมอยากรู้???..... ภาคหน้าขอให้พร้อมเรื่องงานภาพมากกว่านี้นะครับ...



และขอขอบคุณทุกท่านที่อุตสาทนอ่านจนจบ....ยังไงช่วยคอมเมนด้วยว่าดี รึไม่ดี เห็นด้วยตรงไหน...

Anime

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา