Mecha Story: รวมลูกกระจ๊อกใน00

รวมข้อมูลมาพักใหญ่ๆ ก็คงพออ่านได้เพลินๆแล้วมั้ง แต่ถ้ายังมีผิดก็ช่วยบอกกันหน่อยนะครับ













VMS-15 ยูเนียนเรียลโดและSVMS-01 ยูเนียนแฟลก

MSซึ่งเป็นกำลังหลักของยูเนียน ในปี2307นั้น เรียลโดเป็นMSที่ล้าสมัยแล้ว ลักษณะที่ต่างจากแฟลกซึ่งเป็นรุ่นต่อมาก็คือส่วนลำตัวซึ่งมีลักษณะคล้ายเครื่องบินมากกว่า เรียลโดสามารถแปลงร่างระหว่างโหมดMSและยานได้ แต่ต้องเลือกโหมดจากภาคพื้นดินเท่านั้น ไม่สามารถแปลงร่างขณะต่อสู้ได้ อาวุธของเรียลโดประกอบด้วยลิเนียร์ไรเฟิล120มม. มีดคลื่นความถี่สูง และพลองติดแขนซึ่งใช้หมุนเพื่อป้องกันตัวเอง เรียลโดยังมีรูปแบบโฮเวอร์แทงก์ ซึ่งเปลี่ยนท่อนล่างเป็นโฮเวอร์คราฟท์สำหรับใช้งานภาคพื้นดิน ติดปืนแก็ตลิ่งและร็อคเก็ตลันเชอร์ไว้ที่แขนกับพลาสม่าแคนน่อนที่ด้านหลัง

แม้จะยังเป็นกำลังหลักของยูเนียน แต่เรียลโดก็ค่อยๆถูกปลดระวางและแทนที่โดย SVMS-01 ยูเนียนแฟลก ซึ่งแฟลกสามารถแปลงร่างขณะปฏิบัติการอยู่ได้แล้ว แฟลกใช้อาวุธคล้ายกับเรียลโดแต่มีปืนกล20มม.ที่ท้องและสามารถติดมิสไซล์ไว้กับขาได้ ในต่อมายังเปลี่ยนมีดคลื่นความถี่สูงไปเป็นพลาสม่าซอร์ดที่มีอานุภาพมากกว่าเดิม แฟลกยังมีรุ่นพิเศษคือSVMS-01E แฟลกคัสตอมของเกรแฮม เอเคอร์ ซึ่งมีสมรรถนะที่เหนือกว่ารุ่นปกติมาก สามารถเร่งความเร็วได้เป็นสองเท่าของแฟลกและหุ้มด้วยบีมโค้ต ส่วนอาวุธนั้นเปลี่ยนลิเนียร์ไรเฟิลเป็นรุ่นต้นแบบที่มีอานุภาพมากกว่าเดิม จุดอ่อนของแฟลกคัสตอมอยู่ที่ขณะที่เร่งความเร็วสูงสุดนั้นจะเกิดแรงกดถึง12G นอกจากนั้นเกราะของแฟลกคัสตอมยังบางกว่ารุ่นปกติด้วย ในเวลาต่อมาจึงมีการผลิตเพิ่มขึ้นโดยเรียกว่าSVMS-01O โอเวอร์แฟลกโดยใช้ลิเนียร์ไรเฟิลที่สมบูรณ์แล้ว นอกจากนี้ยังมี SVMS-01SG แฟลกรุ่นติดเกราะภาคพื้นดิน หรือ"เชลแฟลก" เชลแฟลกมีเกราะป้องกันที่หนาขึ้นและไม่สามารถแปลงร่างได้ เชลแฟลกไม่มีมีดใช้แต่ติดตั้งลิเนียร์แคนน่อน200มม.เพิ่มเข้าไปจึงมีพลังทำลายสูงขึ้นมาก

หลังจากที่ยูเนียนได้จิงซ์ 10 เครื่องจากลากูนา ฮาวีย์ก็ได้จัดการแยกชิ้นส่วนและเอาGNไดรฟ์เทาไปติดไว้กับSVMS-01X ยูเนียนแฟลกคัสตอมทูว์ หรือ "GNแฟลก" เนื่องจากโครงสร้างเดิมของแฟลกไม่ได้เตรียมไว้สำหรับGNไดรฟ์ เมื่อจะใช้GNบีมเซเบอร์ที่เป็นอาวุธจึงต้องใช้สายเคเบิลเชื่อมต่อภายนอก นอกจากนี้GNแฟลกยังไม่มีระบบต้านแรงGแบบMSรุ่นก่อนหน้าอีกด้วย













AEU-05 AEUเฮเลียน[b]และ[b]AEU-09 AEUอินัคท์

MSซึ่งเป็นกำลังหลักของAEUซึ่งมีนโยบายในการพัฒนาMSโดยตามแบบของยูเนียน เฮเลียนนั้นเป็นMSแบบแปลงร่างได้ซึ่งใช้เรียลโดเป็นต้นแบบ ในปี2307นั้น เฮเลียนกลายเป็นMSที่เริ่มล้าสมัยและรอถูกปลดระวางแทนที่โดยAEU-09 AEUอินัคท์ ใช้อาวุธแบบเดียวกับเรียลโด แต่ก็เคยติดตั้งลิเนียร์ชิลด์ซึ่งเป็นโล่สำหรับสร้างสนามแม่เหล็กแรงสูงเพื่อใช้จับกุมกันดั้มของCBด้วย เฮเลียนนับว่าเป็นMSที่แพร่หลายที่สุดในโลกและมีเฮเลียนจำนวนมากที่ถูกผู้ก่อการร้ายนำไปใช้ ซึ่งรุ่นย่อยที่สำคัญก็คือAEU-05G ซึ่งเป็นเฮเลียนสำหรับใช้งานภาคพื้นดินโดยมีเกราะที่หนากว่าปกติและแปลงร่างไม่ได้คล้ายเชลแฟลกของยูเนียน ใช้ลิเนียร์ไรเฟิลที่ใช้มีลำกล้องสั้นกว่าเดิม ซึ่งเฮเลียนภาคพื้นดินนี้เป็นแบบที่กลุ่มก่อการร้าย PMCทรัสต์ใช้งาน ในภาค00Pยังมี AEU-05/92 เฮเลียนอินิทเทียม ซึ่งเป็นแบบที่ใช้ปืนลำกล้องเรียบแบบมือถือแทนลิเนียร์ไรเฟิลด้วย

ส่วนอินัคท์เป็นMSรุ่นใหม่ซึ่งสร้างให้ใกล้เคียงกับแฟลกของยูเนียนจึงมีสมรรถนะสูงกว่าเฮเลียนมาก ทั้งยังสามารถรับพลังงานจากพลังแสงอาทิตย์ของลิฟต์อวกาศมาได้อีกด้วย รุ่นเปิดตัวของอินัคท์นั้นแตกต่างจากรุ่นที่ผลิตจริงคือมีเขาเสาอากาศที่หัวสามเขา ซึ่งเครื่องนี้ถูกเอ็กเซียทำลายในวันเปิดตัว แต่ก็เป็นรูปแบบของAEU-09T อินัคท์รุ่นจ่าฝูงซึ่งผลิตในเวลาต่อมา อินัคท์ที่โดดเด่นที่สุดก็คือAEU-09Y812 เครื่องของอาลี อัลซาเซสซึ่งPMCทรัสต์ดัดแปลงมาจากเครื่องต้นแบบของอินัคท์ นอกจากสมรรถนะที่สูงกว่ารุ่นอื่นแล้วยังสามารถใช้อาวุธได้หลากหลายกว่ามาก โดยอาวุธหลักเป็นลิเนียร์ไรเฟิลยังเป็นเบลดไรเฟิลซึ่งติดดาบคาร์บอนเอาไว้ เดิมทีอินัคท์เครื่องนี้มีสีน้ำเงินแต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยฉาบวัสดุสำหรับป้องกันพลาสม่าเพื่อรวมร่างกับMA อกริสซาซึ่งใช้สนามพลังพลาสม่าฟิลด์เพื่อสังหารนักบินโดยไม่ให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย











MSJ-06 II เทียเรน

ขออ่านแบบฝรั่ง เทียเรนเป็นMSซึ่งเข้าประจำการเป็นกำลังหลักของสันนิบาตปฏิรูปมนุษย์แทนMSJ-04 แฟนตอน เมื่อเทียบกับMSซึ่งเป็นกำลังหลักของมหาอำนาจอีกสองกลุ่มแล้วเทียเรนมีจุดเด่นที่เกราะป้องกันที่หนาแต่มีความคล่องแคล่วด้อยกว่าและใช้อุปกรณ์ที่ล้าสมัยกว่า ลักษณะสำคัญของเทียเรนก็คือค็อกพิตที่คับแคบและไม่มีจอภาพ นักบินจะมองผ่านกล้องซึ่งเชื่อมกับหมวกนักบินโดยตรงแทน รุ่นมาตรฐานของเทียเรนก็คือMSJ-06 II-A ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้งานภาคพื้นดิน อาวุธของเทียเรนประกอบด้วยปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ200มม.สำหรับติดแขน ดาบคาร์บอนแบบคาตาร์และปืนกล30มม.ที่บริเวณไหล่

ส่วนรุ่นอื่นๆที่สำคัญก็คือMSJ-06 II-C แบบการขับเคลื่อนสูง ซึ่งลดน้ำหนักด้วยการถอดเกราะบางส่วนทิ้งไปแล้วติดตั้งเครื่องยนเจ็ตที่ขาและปีกด้านหลังเพื่อให้บินได้ แต่เนื่องจากโครงสร้างและน้ำหนักของเทียเรนทำให้ความคล่องแคล่วกลางอากาศต่ำมากจึงมักใช้วิธีโฮเวอร์ในระดับต่ำมากกว่า ปีกด้านหลังสามารถหมุนปรับตำแหน่งได้ MSJ-06 II-E แบบใช้ในอวกาศ ซึ่งเสริมท่อขับดันแบบหมุนปรับตำแหน่งได้ตามจุดต่างๆเพื่อให้ใช้งานในสภาพไร้น้ำหนักได้ เกราะโล่ที่ขาถูกปลดออกไปเพื่อติดตั้งถังน้ำซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ปฏิบัติการได้นานขึ้น ปืนลำกล้องเรียบที่ใช้จะระบายความร้อนได้ดีกว่ารุ่นภาคพื้นดินเพื่อให้ใช้ในอวกาศได้ เทียเรนรุ่นใช้ในอวกาศนี้มีรุ่นย่อยคือ MSJ-06 II-ET รุ่นจ่าฝูง ซึ่งเสริมประสิทธิภาพของเซนเซอร์และติดตั้งโล่ไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้าง

MSJ-06 II-LC รุ่นปืนใหญ่ระยะไกลซึ่งแต่งส่วนลำตัวให้ยื่นออกไปด้านหน้ามากกว่าเดิมเพื่อติดตั้งปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ300มม.ได้ เนื่องจากไม่มีส่วนหัวจึงติดเซนเซอร์โมโนอายไว้ที่ลำตัวทั้งสองด้านแทน เมื่อจะยิงปืนใหญ่นี้ เทียเรนจะยื่นขาตั้งออกมาและไม่สามารถขยับไปไหนได้ MSJ-06 II-AC รุ่นต่อต้านอากาศยานซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ต่อสู้กับMSแบบแปลงร่างได้ของมหาอำนาจอีกสองฝ่าย โดยติดตั้งอาวุธต่อต้านอากาศยาน เช่น ปืนใหญ่ลำกล้องเรียบสี่กระบอก มิสไซล์ต่อต้านอากาศยานสี่ลำกล้อง คาร์บอนเบลดติดตั้งปืนวัลแคน60มม.หกลำกล้อง ทั้งยังเสริมเซนเซอร์ให้เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูที่มาจากภาคอากาศและติดเครื่องปล่อยควันไว้

รุ่นพิเศษสุดของเทียเรนก็คือMSJ-06 II-SP เทียเรนเทาซีซึ่งได้รับการออกแบบให้สามารถปฏิบัติการได้ในทุกสภาวะได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ด้านบนของหัวมีเซนเซอร์โมโนอายเสริม ที่เอวด้านหลังติดถังน้ำซึ่งเป็นเชื้อเพลิง เนื่องจากสมรรถนะค่อนข้างสูงมากจึงมีเพียงมนุษย์ดัดแปลงอย่างโซมา พีริสที่สามารถดึงความสามารถของเทาซีมาใช้ได้เต็มที่ เทียเรนเทาซียังใช้ค็อกพิตแบบจอปกติแทนแบบสวมหัว



แถมด้วยของที่ไม่พอเขียนเต็มรูปแบบ



RGM-96X เจสตา

รุ่นสมรรถนะสูงของเจกันซึ่งสร้างไว้เพื่อเป็นยูนิตสนับสนุนของยูนิคอร์นกันดั้มซึ่งมีจุดอ่อนที่สามารถใช้NT-Dได้เพียง5นาที หน้าที่ของเจสตาก็คือคอยกันพวกลูกกระจ๊อกไว้เพื่อให้ยูนิคอร์นสามารถทุ่มกำลังทำลายศัตรูที่แข็งแกร่งได้ในเวลา5นาทีนั้นเอง



สไตรค์ยังไม่(ยอม)ตาย...





GAT-FJ108 ไรโกกันดั้ม

อาจมีบางคนจำได้เพราะปรากฏเป็นเงามืดในOfficial Siteของญี่ปุ่นตั้งแต่SEEDภาคแรก ไรโกกันดั้มเป็นกันดั้มของสหพันธ์เอเชียตะวันออก(ที่ถูกแอตแลนติกกับยูเรเซียนแย่งบทมาตลอดจนถึงFrame Astrayถึงนึกขึ้นได้)ที่พัฒนามาจากสไตรค์โดยบ.ฟุจิยามะ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเอลสไตรเกอร์ของคอสโมแกรสเปอร์และช่วยแอ็คทายออนพัฒนาอนาเธอไทรอัลสไตรเกอร์ของสไตรค์E เท่าที่ปรากฏ ไรโกกันดั้มต่างจากสไตรคืตรงที่ใช้VPSแบบสไตรค์Eและมีแพ็คพิเศษของตัวเองคือสเปคคิวลัมสไตรเกอร์ซึ่งพัฒนาต่อมาจากเอลโดยปรับปรุงให้สามารถบินได้ดีขึ้น โดยเฉพาะท่อขับดันหลักที่ติดไว้กับไพลอน(ฮาร์ดพ้อยน์)ซึ่งสามารถปรับตำแหน่งได้ และคาลิเบิร์นสไตรเกอร์ซึ่งพัฒนาต่อมาจากซอร์ดโดยย้ายบีมบูมเมอแรงไปไว้ที่แขนขวาและติดบีมเซเบอร์ขนาดใหญ่"คาลัดบอร์ก"ไว้เป็นดาบต่อต้านยานรบเล่มที่สอง (บักชินคงอยากได้แน่)



ผู้ที่ถูกลืมอีกท่าน



ซิกูประจำตัวของซิสต์ เอรเวส ลูกครึ่งโคออดิเนเตอร์-แนเชอรัล(ซึ่งมีความสามารถเทียบได้กับโคออดิเนเตอร์ และไม่เป็นหมันเหมือนโคออฯรุ่นที่สองคนอื่นๆ...คำตอบง่ายๆแบบนี้ทำไมฟุคุดะไม่รู้จักใส่ไว้ในอนิเมะเนี่ย?) ซิกูเครื่องนี้ยังติดแอสซอล์ทเชราด์(ซึ่งเป็นเงามืดมาตั้งแต่SEEDภาคแรกเหมือนไรโก)ซึ่งต้างจากของจินน์และดูเอลเพราะไม่ได้คลุมทั้งตัวและติดท่อขับดันเสริมไว้ จึงไม่ทำให้ความเร็วตกลงแต่อย่างใด ส่วนอาวุธนั้นเพิ่มโล่ติดวัลแคนเข้าไปเป็นสองอัน และยังสามารถติดไว้ที่ไหล่แต่ละข้างได้อีกรวมเป็นสี่อัน
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา