Mecha Story: Yumeiro Chaser

ฟู่! แล้วก็มีอะไรใหม่ๆมาลงอีกจนได้ จริงๆแล้วข้อมูลที่ได้มามีหลายๆอย่างที่แหล่งข้อมูลขัดกันเอง (อย่างจำนวนลำกล้องของมิสไซล์ลันเชอร์)ผมก็เลยพยายามกรองจนเหลือแค่นี้ล่ะครับ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่ผมไม่ได้พูดถึงโฟตอนบาซูก้าซักกะติ๊ด



XD-01 ดรากูนาร์1, XD-02 ดรากูนาร์2และXD-03 ดรากูนาร์3

หรือ"Dเวพอน" เมทัลอาเมอร์(MA)รุ่นใหม่ของจักวรรดิกิกานอสที่ถูกกองทัพโลกขโมยไปเพื่อใช้พัฒนาMAของตนบ้าง Dเวพอนทั้งสามถูกบรรทุกไปในยานไอดาโฮซึ่งปลอมเป็นยานขนส่งผู้อพยพ เมื่อหน่วยตามล่าของกิกานอสเข้าโจมตี เคน วาคาบะ, แทป โอเซียโน และ ไลท์ นิวแมนบังเอิญได้บูทดิสก์ของดรากูนาร์ทั้งสามมาและได้เข้าต่อสู้กับกิกานอส เมื่อนำดรากูนาร์ไปมอบให้กองทัพโลกแล้วจึงพบว่าAIของDทั้งสามเครื่องได้ลงทะเบียนพวกตนเป็นนักบินไว้แล้ว จึงไม่มีคนอื่นที่สามารถควบคุมดรากูนาร์ได้อีก พวกเคนจึงต้องเป็นทหารของกองทัพโลกอย่างไม่มีทางเลือก



ดรากูนาร์1 หรือD-1ของเคนนั้นเป็นแบบเน้นการต่อสู้ระยะประชิดโดยมีอาวุธหลักเป็นดาบเลเซอร์คู่ซึ่งเอามาประกอบกันเป็นแบบสองปลายได้และเรลกันมือถือแบบ75มม. ดรากูนาร์1ยังมีระเบิดขว้างติดไหล่และมีดเป็นอาวุธเสริม ทั้งยังสามารถสวมเกราะXC-00 คาบาเรียร์0 ซึ่งนอกจากเป็นเกราะเสริมแล้วยังมีเรลแคนน่อน220มม.สองกระบอกเป็นอาวุธเสริมอีกด้วย แต่เกราะนี้ถูกทำลายในภายหลัง ต่อมากองทัพโลกยังได้สร้าง"ลิฟเตอร์ยูนิต"สำหรับดรากูนาร์ทั้งสามเครื่อง ลิฟเตอร์ยูนิตนี้ทำให้ดรากูนาร์บินได้และยังมีมิสไซล์ลันเชอร์เป็นอาวุธเสริมที่ปีกทั้งสองข้าง กรณีของดรากูนาร์1จะกลายเป็นXDFU-01 ดรากูนาร์ลิฟเตอร์1 ระบบAIของดรากูนาร์1ใช้ชื่อคุราร่า



ดรากูนาร์2 หรือD-2ของแทปเป็นแบบใช้ยิงสนับสนุนระยะไกล โดยมีแบ็คแพ็คด้านหลังติดเรลแคนน่อนแฝด280มม.และปืนอัตโนมัติ75มม.สองกระบอก เรลกันมือถือที่ใช้เป็นแบบ88มม.และมีแก็ตลิ่งกันสองลำกล้องเป็นอาวุธเสริม ใช้อาวุธระยะประชิดเป็นมีด D-2ยังมีเกราะที่หนาที่สุดในสามเครื่อง เมื่อจะติดลิฟเตอร์ยูนิตเป็นXDFU-02 ดรากูนาร์ลิฟเตอร์2 จะต้องถอดปืนอัตโนมัติ75มม.ด้านหลังออกก่อน เนื่องจากมีน้ำหนักมาก นอกจากมิสไซล์ลันเชอร์แล้วลิฟเตอร์ยูนิตของD-2จึงมีเครื่องยนต์เจ็ตขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ด้วย ระบบAIของดรากูนาร์2ใช้ชื่อโซเนีย



ดรากูนาร์3 หรือD-3ของไลท์เป็นแบบเน้นการใช้งานด้านอิเล็กทรอนิกจึงมีส่วนหัวเป็นจานเรดาร์ขนาดใหญ่ ตามตัวมีเซ็นเซอร์อยู่เต็มไปหมด และยังมีระบบแจมเมอร์ที่ใช้รบกวนระบบของศัตรู เมื่อรวมกับน้ำหนักที่เบาที่สุดในกลุ่มจึงเป็นยูนิตที่ถูกโจมตีจากระยะไกลได้ยากมาก เนื่องจากเป็นยูนิตสนับสนุนมากกว่าจะใช้ต่อสู้เป็นยูนิตหลักจึงมีอาวุธแค่เรลกันมือถือ50มม.และมีดสำหรับป้องกันตัวเท่านั้น มิสไซล์ลันเชอร์ของXDFU-03 ดรากูนาร์ลิฟเตอร์3จะเป็นแบบแอนติเรดาร์ ระบบAIของดรากูนาร์3ใช้ชื่อแม็กกี้



ในภายหลัง D-1และD-2 ได้รับการปรับปรุงเป็นXD-01SR ดรากูนาร์1คัสตอม และ XD-02SR ดรากูนาร์2คัสตอม โดยเปลี่ยนวัสดุของเกราะทั้งตัวให้แข็งแกร่งกว่าเดิมถึงสามเท่าและยังเป็นแอนติเซ็นเซอร์ D-1ยังมีเกราะเสริมที่ไหล่ทั้งสองข้างและท่อขับดันที่มีกำลังมากกว่าเดิม เรลกันมือถือกลายเป็นแบบ55.6มม.ที่มีอัตราการยิงสูงกว่าเดิม ที่แขนยังมีปืนกล25มม.สองลำกล้องติดไว้ ทั้งนี้ยังมีXC-3 คาบาเรียร์เป็นเกราะเสริมที่พัฒนามาจากคาบาเรียร์0 ส่วนD-2นั้นได้ปรับขนาดของเรลแคนน่อนแฝดเป็น640มม. ส่วนD-3นั้นไม่ได้รับการปรับปรุงเต็มรูปแบบเหมือนอีกสองเครื่อง แต่ก็ได้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบคอมพิวเตอร์และเซ็นเซอร์โดยรวม



กองทัพโลกได้ใช้ข้อมูลของดรากูนาร์ทั้งสามมาพัฒนาMBD-1A ดรากูนซึ่งเป็นMAรุ่นผลิตจำนวนมาก เมื่อเทียบกับดรากูนาร์แบบดั้งเดิมแต่ละตัวแล้วดรากูนนับว่ามีพลังที่เหนือกว่า เพราะรวมคุณสมบัติของDเวพอนทั้งสามเข้าด้วยกัน โดยมีอาวุธเป็นดาบเลเซอร์, เรลแคนน่อน480มม.ติดบ่าและเรลกันมือถือ55.6มม.เป็นอาวุธ ถึงจะเทียบกับD-3ไม่ได้ แต่ดรากูนก็มีระบบอิเล็กทรอนิกที่เหนือกว่าMAทั่วๆไปและยังสามารถติดลิฟเตอร์ยูนิตได้



ในโครงการณ์แรกเริ่มยังมีMBF-01F, MBD-02A และ MBD-03R ซึ่งเป็นดรากูนที่เน้นการใช้งานเฉพาะทางเหมือนดรากูนาร์ด้วย
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา