(P.A.D.) part II Last Love And Last Emotion ตอนที่14 Hope Faint

Source Code บรรทัดที่ 14 : Hope Faint (ความหวังที่เลือนลาง)

ดาบที่ปลิวว่อนจากฟากฟ้าบัดนี้ได้หวนกลับคืนสู่ผืนดินอีกครั้งหนึ่ง.....พร้อมกับเปลวไฟและควันที่จางหายไป ภายใต้ควันไฟที่จางลงปรากฏหลุมขนาดใหญ่เบื้องหน้า...............

สองร่างนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงใต้ร่างทั้งสองมีเศษของข้อมูลที่เป็นสีแดงฉานไหลออกมาไม่ขาดสายหากแต่จะเรียกมันว่าเลือดคงไม่ผิดนักและบัดนี้บทสรุปได้ออกมาแล้ว......

"ถ้า....ทุกอย่าง....ม...มันต้อง...ลงเอยแบบ...นี้ ทำไม....เรา...ต้องมาสู้กันด้วย กิต"ไคพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาปนกับเลือดที่เขาสำลักออกมาไม่หยุด

"ทุกอย่าง.....มันจบลงแล้ว.....ไม่มีผู้ชนะที่ไม่ได้อยู่บนความพ่ายแพ้ของคนอื่นหรอก"แม้ว่าคำพูดที่กิตพูดออกมาจะฟังดูเหมือนกับเขาไม่เป็นอะไรแต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้มีสภาพต่างไปจากไคเท่าใดนักและเสียงของเขาเริ่มที่จะแผ่วเบาลงไปทุกขณะราวกับวิญญาณห่วงสุดท้ายกำลังจะถูกมัจจุราชยื้อแย่งไปต่อหน้า

"หึ! คำพูดปรัชญาแบบนี้ไม่ค่อยจะเข้ากับนายเลยนะกิต......อุ๊บ!...แค่ก"ถึงไคจะพยายามพูดแต่นั่นก็ยิ่งทำให้เขาทรุดหนักลงเรื่อยๆแววตาของไคเริ่มลางเลือนความหนาวเย็นเข้าครอบคลุมทั่วร่างตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงประสาทสัมผัส

"ความรู้สึกก่อนตายเป็นแบบนี้เองงั้นเหรอเนี่ย.....ถ้างั้นตอนนั้นมิฟูคงจะรู้สึกแบบเดียวกับที่ฉันกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้มั้ง......"เสียงที่ไคพูดแผ่วเบาราวกับถอนหายใจ

"ความทะเยอทะยาน......มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย.....ความต้องการของฉันมัน....ไร้สาระใช่ไหมกิต ฉันถูกหลอกให้ทรยศเพื่อนๆ...เพียงเพื่อแลกกับอำนาจ.....ที่ไม่มีวันเป็นจริง.....อุ๊บ! แค่ก....เพิ่งจะรู้สึกตัวเมื่อสายแบบนี้ ทั้งๆที่ตัวเองเลือกทางเดินทั้งหมดจนถึงตรงนี้ด้วยตัวเองแท้......"ไคถอนหายใจเหือกใหญ่พร้อมกับเงยหน้าขึ้นแหงนมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบนท่ามกลางเศษซากของกำแพงตึกที่ถล่มลงมาไม่ขาดสาย

แม้ท้องฟ้านั้นจะไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริงในโลกแห่งนี้แต่แววตาของเขาที่สะท้อนออกมาราวกับกำลังจะบอกกับตัวเองให้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ได้ทำไป เรื่องต่างๆที่ได้คิด ได้กระทำ ได้ตัดสินใจ.......ความทรงจำทุกอย่างเริ่มย้อนเข้ามาเหมือนกับกลอหนังกลับ เขาหลับตาลงอย่างช้าๆพร้อมกับเสียงหายใจที่ริบหรี่ซึ่งมากับประโยคสุดท้ายของเขา

"นี่กิต...ถ้าฉันจะขอโทษตอนนี้จะสายไปรึเปล่านะ......"ไคพูดพร้อมกับยิ้มออกมา และแล้วร่างของเขาก็เริ่มที่จะลางเลือนเสมือนเม็ดทรายที่ถูกสายลมพัดพาไปอย่างช้าๆ

ร่างของไคกลายเป็นละอองปลิวไปตามสายลมที่พัดผ่านพร้อมกับภาพของซากตึกที่ยังคงพังถล่มลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน การระเบิดยิ่งรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆราวกับจะบอกถึงอวสานของที่แห่งนี้พร้อมกับการรอคอยความตายอย่างสิ้นหวังของอีกหนึ่งคน

"........ลาก่อน.......ทุกคน........"กิตพูดอย่างช้าๆเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงพลางมองไปยังผงละอองที่ปลิวขึ้นไปยังฝากฟ้าเบื้องบน และหลับตาลงเพื่อรอคอยความตาย....................................

..........................................................



แม้การต่อสู้ ณ ที่แห่งนี้จะจบลงแล้วแต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยังคงสู้อยู่ สู้เพื่อมีชีวิตกลับไป.........

ห่างจากปากทางออกเพียงไม่กี่ร้อยเมตรภาพของเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งที่บัดนี้ร่างของเขาสะบักสะบอมเกินกว่าจะลุกยืนไหวท่ามกลางซากของหุ่นที่เกลื่อนกราดและกำลังรบนับร้อยที่ยังคงรายรอบเขาจากทุกด้านเหมือนกับจะเป็นการเอ่ยเป็นนัยๆว่าเขาจะพ่ายแพ้

"แฮ่ก~~แฮ่ก..........."เสียงหอบหายใจยาวที่ดูขาดห้วง ดาบในมือของเขาทั้งสองข้างที่แตกร้าวเกินกว่าจะทานไหว บาดแผลทั้วร่างและความเหน็ดเหนื่อยจนถึงขีดจำกัด สภาพนี้ไม่ต้องให้โดนทำร้ายเพียงแค่ถูกสายลมพัดก็แทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว

ชิตยังคงยืนนิ่งพร้อมกับเอาดาบของเขายันพื้นเอาไว้ ท่ามกลางกองเศษเหล็กกองมหึมาที่เขาได้ทำลายไปก่อนหน้านี้แต่การต่อสู้ที่ยืดเยื้อยิ่งทำให้อ่อนระโหย เขาเหลือบมองไปยังหุ่นที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้พร้อมกับกวัดแกว่งดาบอย่างคนไร้ซึ่งกำลัง

และแล้วแขนกลของหุ่นตัวหนึ่งก็เข้ามาถึงตัวเขาพร้อมกับจับคอเขายกขึ้น ดาบที่แตกร้าวทั้งสองเล่มร่วงหล่นจากมือของผู้ถือครองมันราวกับกำลังจะบอกว่าชะตาของเขาถูกกำหนดให้มาถึง...เพียงแค่นี้........................

..........................................................



Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา