(P.A.D.) part III Last War Last Impression ตอนที่ 2 Promise Under The Holy Night

DEEP SESSION O.S. ส่วนที่ 2 : Promise Under The Holy Night (สัญญาภายใต้คืนศักดิ์สิทธิ์)

"เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะกิต...."รอยยิ้มและคำพูดของหญิงสาวผู้ที่เขาไม่คิดว่าจะได้เจออีกแล้วบัดนี้มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเขาเพียงไม่กี่เมตร

"มิฟู.....ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่....ทำไม?...ทำไมเธอยังไม่ตาย?"กิตลุกขึ้นพร้อมกับระดมถามคำถามที่เขาอยากจะถามออกไปในทันที

ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เธอยังคงเดินตรงเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ สายลมที่พัดพาเอาความเย็นจากห้วงแห่งท้องทะเลยามค่ำคืนพร้อมกับแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาทำให้ในหัวของเขาแทบจะลืมทุกคำถามที่เขาถามไปเสียด้วยซ้ำ..........

มิฟูเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งแหงนมองไปยังดวงจันทร์สีแดงบนฟากฟ้า พลางเอ่ยปากกระซิบเขาเบาๆ........

"ที่นี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.....เหมือนกับสัญญาที่เราเคยให้ไว้เมื่อวันนั้น"เสียงพูดที่บางเบาข้างหูของเขาทำให้หายสงสัยถึงผู้ที่อยู่ตรงหน้าว่าเขาไม่ได้ฝันไป.....และหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้คือมิฟูอย่างไม่ผิดเพี้ยน ราวกับว่าเธอได้ดึงวันเวลาและความรู้สึกที่ผ่านมากลับคืนมาให้เขาอีกครั้ง

ทั้งเขาและเธอต่างนั่งลงบนโขดหินเดิมที่พวกเขาเคยนั่งคุยกันเป็นครั้งแรกเมื่อ8ปีก่อน ทุกอย่างแม้เงียบสงบแต่บรรยากาศบริเวณนี้ทำให้ทั้งสองคนเริ่มคิดถึงความหลังต่างๆนานาอีกครั้ง........

"ตั้งแต่ที่เราพบกันที่นี่ครั้งแรก......เธอยังเป็นแค่เด็กผู้ชายอายุ17อยู่เลย จำได้ไหมกิต?........"มิฟูเอ่ยปากถามขึ้นพลางมองไปยังเดือนดาวบนท้องฟ้าที่ส่องแสงลงมาราวกับประกายของเพชรพลอยล้ำค่า

"จำได้สิ....ตอนนั้นเธอเล่นเดินเข้ามาทักเงียบๆจากด้านหลังทำเอาฉันหัวใจแทบวาย"กิตเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ

"นั่นสิเนอะ....ยังจำได้เลยว่าเธอสะดุ้งซะสุดตัวขนาดไหน"

พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อไปเรื่อยๆอย่างสนุกสนานราวกับเรื่องร้ายๆในอดีตที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องโกหก.......แต่แล้วคำถามหนึ่งก็ถูกเอ่ยถามขึ้นจากปากของมิฟูอย่างช้าๆ.....

".....แล้วเธอยังจำสัญญาที่เราให้กันไว้ได้รึเปล่าล่ะกิต?"มิฟูเอ่ยถามขึ้นอย่างช้าๆพร้อมกับมองไปที่เขา......ความเงียบเข้าครอบงำในฉับพลันดุจสายน้ำที่ถูกทำให้กลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา

".....ยังจำได้สิ ฉันยังจำสัญญานั่นได้ดี......"กิตตอบออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหลับตาลงพร้อมกับนึกถึงเรื่องราวในครั้งนั้นอีกครั้ง.....เหตุการณ์ในค่ำคืนก่อนที่ฝันร้ายจะเริ่มขึ้น

.................................................................



17 กรกฏาคม ค.ศ.2011 ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเล : โอกินาว่า : ญี่ปุ่น..................

เสียงของกระดิ่งที่แขวนไว้เหนือบานประตูที่เปิดรับลมอยู่ส่งเสียงอันไพเราะยามสัมผัสสายลมอุ่นที่พัดโชยมา แต่บรรยากาศที่สงบเงียบนี้ก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายด้วยเสียงฝีเท้าคนกลุ่มใหญ่ๆที่เข้ามาในห้องนี้..........

"โอ้โห....ดูสิทุกคน ห้องนี้มองเห็นทะเลด้วยล่ะ ยอดไปเลย"เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มคน12คนที่อยู่ในห้อง

"นี่เงียบๆหน่อยสิ เรามารบกวนบ้านคนอื่นอยู่นะเครเวีย......"เสียงของผู้ชายที่ดูมีอายุมากที่สุดในกลุ่มเตือนขึ้นก่อนที่เขาจะเอาสัมภาระไปเก็บไว้ในตู้

"แหม...ก็นานๆทีจะได้มาเที่ยวทะเลกันเยอะๆแบบนี้สนุกดีออกนี่นา แถมคนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นนายนะแม็กเวล"เครเวียตอบกลับไปตามเสียง แต่จะให้พูดไปแล้วก็คงจะจริงเพราะไม่ทันไรแม็กเวลก็หยิบห่วงยางออกมาเป่าลมจนเกือบเต็มแล้ว (สรุปแล้วก็ชอบทะเลมากกว่าเพื่อนแต่ดันไปว่าคนอื่นนั่นแหละ)

"ว่าแต่ห้องนี้ใหญ่จริงๆเลยนะเนี่ย แต่ยังไงก็ใหญ่สู้ทัชมาฮาลที่บ้านเกิดไม่ได้อยู่ดี...."ชายผิวสีผมหยิกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางกระเป๋าลง.......แต่ไม่มีใครรับมุขของเขาเลยแม้แต่คนเดียวและคนอื่นๆก็จัดการจัดแจงเอาของต่างๆออกจากกระเป๋าของตัวเอง

"ไม่มีใครเขารับมุขเธอแล้วมั้งราจิส......ว่าแต่ว่าใครเป็นคนคิดให้พวกเรามาพักช่วงปิดเทอมหน้าร้อนกันที่ญี่ปุ่นล่ะเนี่ย......"เครเวียถามขึ้นพร้อมกับหยิบเอาเสื้อลายลูกไม้แบบอิตาลีของเธอขึ้นมาใส่ไม้แขวนเสื้อ

"ฉันเองล่ะค่ะพี่เครเวีย....."เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ประตูทางเข้า และเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่นอกห้องก็เข้ามาพร้อมกับในหน้าอันยิ้มแย้มของเธอ

"ที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของคุณพ่อแต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะชอบทะเลกันรึเปล่า....."เด็กสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยระคนกังวลใจ

"ชอบสิ!"เสียงของคนหนึ่งโหลเอ่ยขึ้นพร้อมกันราวกับวงออลเคสตร้าก็ไม่ปาน และรอยยิ้มก็ของเด็กสาวก็กลับมาอีกครั้งซึ่งคำตอบนี้ก็ทำให้เธอดีใจมากเช่นเดียวกัน

"ว่าแต่มีใครหิวกันบ้างรึยังคะ นี่ก็เที่ยงพอดีเลย...จะได้ไปเตรียมอาหาร"เด็กสาวเอ่ยขึ้นราวกับเพิ่งจะนึกได้

"ดีสิงั้นพี่ไปช่วยด้วยก็แล้วกันนะ เดี๋ยวมิฟูทำเองคนเดียวคงไม่ไหวน้า คนตั้งโหลแนะ......เอ้า!พวกเธอก็ต้องไปช่วยด้วยนะ"เครเวียเอ่ยปากขึ้นพร้อมกับลากเด็กชายเคราะห์ร้ายอีกสองคนไปด้วย

"หวา~~~เดี๋ยวก่อนสิพี่เครเวีย....ผมยังจัดของไม่เสร็จเลยน้าาาาาา"เสียงของสองเด็กชายเอ่ยขึ้นราวกับจะยื่นอุทรณ์ต่อศาล แต่แววตาของเครเวียที่มองลงหาเขาทั้งสองยังกับว่าศาลไม่รับอุทรณ์เสียแล้ว พวกเขาจึงต้องจำยอมโดนลากเข้าไปช่วยงานในครัวอย่างช่วยไม่ได้

ภายในครัวเด็กชายทั้งสองก็ยังคงหั่นผักไปบ่นไปไม่หยุดราวกับว่าไม่มีคำว่าไฟแดงสำหรับพวกเขา แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเครเวียเหล่หางตามองใส่ จนทำให้ทั้งสองเย็นสันหลังวาบในทันที..............

"นี่กิต...ทำไมเราต้องมานั่งหั่นผักพวกนี้ด้วย"เด็กผู้ชายคนหนึ่งซุบซิบอย่างเงียบที่สุดให้พอได้ยิน

"มาถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครเล่า หั่นๆไปเหอะน่าไคไหนๆก็ไหนๆแล้ว"กิตหันไปบอกไคอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์เช่นกันเมื่อมองออกไปทางหน้าต่างแล้วเห็นพวกคนที่เหลือเปลี่ยนชุดลงไปเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน

"กิต~~ไค ยังหั่นผิกในตะกร้าไม่หมดอีกเหรอ......"มิฟูหันกลับไปถามทั้งสอง ในมือเธอก็ยังคงคนแกงกะหรี่ในหม้อเรื่อยๆแต่ก็ไม่วายที่น้ำแกงในหม้อจะเดือดจนล้นออกมาจนได้ทำให้ต้องวุ่นกันไปอีกพักใหญ่ทีเดียว...............

และแล้วในที่สุดอาหารสำหรับคนหนึ่งฝูง...เอ้ย!..หนึ่งกลุ่มก็เสร็จเสียที แต่ไม่ทันที่เด็กชายทั้งสองจะได้พัก เครเวียก็สั่งให้พวกเขาเอาอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะอีกจนได้..................และแล้วในที่สุดทุกคนก็มาพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารและกินกันหมดภายในเวลาไม่ถึง15นาที(ถ้าคิดว่ากับข้าวที่ยกมามีแกงกะหรี่3หม้อใหญ่ๆ กับกุ้งทอดแล้วก็ปลาทอดอีก5จาน นี่ยังไม่นับรวมข่าวที่หุงไว้1ถึงเต็มๆล่ะก็นะ)

หลังจากที่ทุกคนกินกันจนอิ่มแล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันออกไปเดินเล่นบ้างไปเล่นน้ำทะเลบ้างส่วนสองกระทายชายหนุ่มของเราน่ะเหรอ....ป่านนี้ก็คงจะต้องล้างจานอยู่มั้ง?

"นี่กิต...เราต้องมานั่งทำกับข้าวแล้วนี่ยังต้องมานั่งล้างจานอีกเหรอ"ไคยังคงบ่นพึมพำไม่หยุดปากทั้งๆที่ตรงหน้ายังคงมีฟิงสบู่ลอยคลุ้งไปหมด

"ฉันขอตอบทีเดียวเลยแล้วกันนะ....ไม่รู้โว้ย!!!! พอใจอ๊ะยัง"กิตตะโกนใส่หูไคไปเต็มๆทีนึงทำให้ไคถึงกับส่ายหัว และสงครามฟองสบู่ก็ทำท่าจะเริ่มขึ้น แต่ก็มีผู้เข้ามาห้ามศึกไว้ได้ก่อนที่ทั้งสองหนุ่มจะจะเริ่มสาดน้ำใส่กัน

"นี่ไค...กิต จานตรงนี้ไว้ค่อยล้างก็ได้นะไหนๆก็มาเที่ยวพักผ่อนแล้วก็พักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่า ไปเล่นน้ำทะเลกันเถอะ"มิฟูพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับชุดว่ายน้ำสีฟ้าของเธอทำให้สองหนุ่มถึงกับหน้าแดงได้แต่พยักหน้าตอบเท่านั้น และแล้วทั้งคู่ก็ถูกลากออกไปข้างนอก

เสียงของสายลมที่ลอยมาจากทะเลพัดเอาละอองน้ำมาทำให้รู้สึกสดชื่นจนบอกไม่ถูก ตอนนี้ทั้งกิต ไค และมิฟูมายืนอยู่ที่ระเบียงริมชายหาดแล้ว ถัดออกไปบนเนินทรายไกลออกไปหน่อยก็เห็นเครเวียจับราจิสฝังทรายเอาดื่อๆและคนอื่นๆที่ยืนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน....แต่ทั้ง3คนไม่รู้หรอกว่ายังมีอีก4คนที่ไม่ค่อยจะสนุกกับทะเลนี่ซักเท่าไหร่ กิตเหลือบไปเห็นกลุ่มคนกลุ่มนึงนั่งหน้าดำคล่ำเคร่งกับงานที่อยู่ตรงหน้า บางคนในนั้นนั่งพิมพ์วิทยานิพนธ์ที่ต้องส่งให้ทันก่อนวันเปิดภาคการศึกษาที่มหาลัย และแน่นอนในกลุ่มย่อมต้องมีแม็กเวลอยู่ด้วยซึ่งตอนนี้ก็กำลังรีบปั่นงานให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หากดูๆไปแล้วก็นึกขำไม่ได้กับภาพที่เห็น....คนที่สวมห่วงยางไว้ตลอดเวลาทั้งที่ต้องทำงาน....

"เฮ้...กิต! ขืนช้าเราไม่รอแล้วนะ"เสียงตะโกนของไคดังขึ้นจนทำให้กิตสะดุ้งพร้อมกับหันไปมองไคกับมิฟูที่ตอนนี้วิ่งออกไปที่ชายหาดแล้ว

"รอด้วยยยยยยยยยยยยยย"กิตตะโกนกลับไปพร้อมกับวิ่งลงจากระเบียงไปที่ชายหาดอย่างไม่รีรอ แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่าความสุขนี้กำลังจะหมดลงในไม่ช้าและไม่มีโอกาศหวนกลับคืนมาได้อีกแล้ว..........

Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา