[Pantip]บ้านหนูถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังสั้นค่ะ

ขอโทษนะคะที่ตั้งกระทู้ติดๆกัน แต่อันนี้อยากเอามาให้เป็นอุทาหรณ์น่ะค่ะ^^







เริ่มเลยนะ?









เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นค่ะ

เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

ลูกพี่ลูกน้องของหนู(ผู้หญิง) ได้เข้ามาที่บ้าน (หลังจากไม่ได้เจอกันประมาณ3-4ปี)

เพื่อมาขอใช้สถานที่ในการถ่ายทำหนังสั้น

โดยเข้ามาพร้อมเพื่อน(ผู้ชาย) อีก2คน

ก็เข้ามาถ่ายภาพบ้านไป โดยเลือกถ่ายเฉพาะมุมที่โต๊ะรับแขก

แล้วบอกว่าจะขอถ่ายตรงนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ฉากแม่-ลูกนั่งคุยกัน

จะมาขอถ่ายในอีก2-3อาทิตย์ เป็นเวลา1วัน จะเข้ามากัน2-3คนค่ะ

ที่บ้านหนูก็ไม่ได้มีปัญหาค่ะ

(ที่บ้านหนูมีกันอยู่ไม่กี่คน คือ คุณยาย คุณแม่ และคุณลุงซึ่งรับราชการอยู่ต่างจังหวัดจะกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์)

หลังจากวันนั้น พวกเขาก็จากไป ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก



แต่แล้วเช้าตรู่วันนี้ก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านคุณยาย

(เป็นบ้านติดกัน 2 หลังในบริเวณเดียวกันค่ะ)

เป็นพวกพี่ๆที่โทรมาบอกว่าจะเข้ามาถ่ายทำวันนี้ -->คุณยายก็รับทราบ

ช่วงสายๆพวกเขาก็เหมาเรือลำใหญ่นั่งเข้ามากัน

(บ้านหนูอยู่ริมน้ำ สามารถเดินทางทางเรือได้สะดวก)

แต่เข้ามาประมาณ10กว่าคนค่ะ โดยไม่มีพี่ของหนูเข้ามาด้วย

เพื่อนของเขาที่มาด้วยกันวันแรก ก็มาแค่คนเดียว คนอื่นเป็นคนแปลกหน้าทั้งสิ้น

(มีผู้หญิงแค่ 2 คน คนอื่นเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ากลัวๆหลายคน)

คุณยายหนูตกใจ เลยถามถึงพี่หนู ได้ความว่าติดธุระ มาไม่ได้

คุณยายรีบให้หนูโทรตาม เพราะที่บ้านเราอยู่กันแค่ 3 คน

แต่พี่หนูกลับโทรไปตามคุณแม่ของเค้าให้เข้ามาดูแลแทน

เราก็เบาใจกับลงไปบ้าง และการถ่ายทำก็เริ่มขึ้นค่ะ....



แรกๆที่ถ่ายทำก็เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้

แต่ก็มีอุปสรรคในการถ่ายทำหลายอย่าง ดังนี้

เสียงโทรทัศน์จากในห้องนอนคุณแม่ดังลอดออกมา --->คุณแม่ก็รีบปิดให้

เสียงโทรทัศน์จากบ้านคุณยายดังขึ้นมา --->คุณยายรีบปิดให้

เสียงหมาเห่า --->หนูไปดูหมา

เสียงนกยูงร้อง --->หนูไปเอาอาหารมาให้นกยูง (จะได้วุ่นกับการกิน)

สิ่งเหล่านี้ยังพอควบคุมดูแลได้ หนูรีบจัดการให้เต็มที่

แต่กองถ่ายก็ยังมีปัญหาอื่นอีก คือ

เสียงเรือวิ่ง --->พวกเขาจะให้ไปบอกให้เรือหยุดแล่นก่อน รอให้ฉากนี้เสร็จแล้วค่อยไปต่อ

หนูรีบปฏิเสธ (เกรงใจบ้านอื่นที่เขากำลังเดินทาง อาจจะมีธุระก็ได้)

เสียงปั๊มน้ำของที่บ้านหนูและบ้านอื่นๆ ---> พวกเขาจะให้ปิดปั๊มน้ำ และให้ไปขอให้บ้านข้างๆปิดด้วย

หนูต้องปฏิเสธอีกครั้ง (โธ่พี่คะ ปั๊มน้ำมันจำเป็นสำหรับคนแถวนี้จริงๆค่ะ ท่อประปาเรามาจากใต้ดิน ลึกกว่าคลองหน้าบ้านซะอีก ถ้าไม่ใช้ปั๊มตลอดเวลาน้ำก็ไม่ไหล แล้วถ้าปิดไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต้องรอแค่ไหน เมื่อเปิดมาแล้วก็ไม่ใช่จะใช้น้ำได้ทันทีด้วย)

หนูเพิ่งรู้ว่าการถ่ายหนังสั้นแค่ฉากเดียวมันยุ่งยากขนาดนี้



หลังจากจัดการปัณหาต่างๆได้พอสมควรแล้ว

หนูก็เดินไปดูคุณยายอีกบ้านหนึ่ง จนกระทั่งถ่ายฉากตรงนั้นเสร็จ พวกเขาก็เดินตามมา ถ่ายรอบๆบ้านต่อ (อ้าว ไหนบอกว่าแค่ฉากเดียวไงคะ)

ต่อจากนั้นกองถ่ายก็พักทานข้าวกันที่บ้านคุณยาย หนูก็เลยเดินกลับมาที่บ้าน (คิดว่าเขาถ่ายกันเสร็จแล้วค่ะ)

แต่จากนั้นก็มีเสียงตะโกนมาบอกว่า "น้องๆเดี๋ยวขอถ่ายในห้องนอนน้องหน่อยนะ"

คุณแม่เลยเริ่มไม่พอใจ แล้วปฏิเสธไปว่ามันเป็นห้องส่วนตัว คงจะไม่สะดวก แล้วทีมงานก็ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าด้วย

เฮ้อ หนูคิดว่าคงจะหมดเรื่องแล้วล่ะนะ



แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นค่ะ เพราะมีทีมงานคนหนึ่ง วิ่งมาหาหนูที่บ้าน

แล้วบอกว่า "น้องๆ ขอยืมโคมไฟหน่อย"

หนูก็งง "โคมไฟอะไรค่ะ"

เขาแสดงท่างทางหงุดหงิดแล้วบอกว่า"ก็โคมไฟหัวเตียงในห้องน้องไง"

อ้าว เค้าเข้ามาในห้องหนูตั้งแต่เมื่อไรล่ะเนี่ย หนูทั้งงง+ตกใจ+อึ้ง

ตอนนั้นพูดอะไรไม่ออกค่ะ ไม่คิดว่าเค้าจะเสียมารยาทขนาดนั้น (คงแอบเข้ามาดูในห้องหนูตอนที่หนูเดินไปหาคุณยายน่ะคะ)

แต่ก็ยังงถามไปว่า "พี่จะเอาไปทำอะไรเหรอคะ"

เขาทำหน้าเหมือนหนูเซ้าซี้เขา "พี่จะไปถ่ายห้องที่บ้านโน้นแทนน่ะ"

อ้าว!! ห้องไหนอีกล่ะเนี่ย ไหนบอกว่าฉากเดียวนี่นา ????



หนูก็ตกใจรีบเดินไปบ้านยาย เพราะตอนนั้นยายอยู่คนเดียว

เขาเห็นหนูเดินไปก็รีบมาถามว่า"น้องๆจะไปไหน แล้วโคมไฟล่ะ"

หนูก็เดินมาหายายแบบเอ๋อๆ ไปถามว่ายายให้เขาถ่ายห้องไหนเหรอ

ยายก็งงๆบอกว่าไปรู้สิ ข้างบนแต่ยายไม่ได้ขึ้นไปดู

หนูรีบเดินตามขึ้นไป ขณะที่ทีมงานผู้มุ่งมั่นยังคงตามทวงโคมไฟอยู่

ปรากฏว่าเค้ากำลังจัดห้องนอนของลุงหนูกันใหม่อยู่ค่ะ

ซึ่งเคยเป็นห้องนอนเก่าของคุณตา

รูปหน้าศพคุณตาที่แขวนอยู่ในห้องถูกถอดออกมาวางในที่ๆไม่เหมาะสม

หนูตกใจมาก ถามว่า"พี่คะทำไมถอดรูปคุณตาหนูมาวางตรงนี้ล่ะ ตั้งแต่คุณตาเสียไปหนูยังไม่เคยขยับรูปนั้นเลยน่ะ "

เค้าตอบมาสั้นๆว่า "ขอโทษที พี่ไม่รู้



ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือหนูเห็นป้า ซึ่งเป็นคุณแม่ของพี่สาวหนู ที่พาทีมงานนี้มา ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วย

ความอดทนหนูจึงสิ้นสุดลงค่ะ

หนูรีบวิ่งไปตามคุณแม่ คุณยายมา แล้วบอกการกระทำทั้งหมดของทีมงานนี้

คุณแม่โมโหมากโทรศัพท์ไปโวยพี่หนูอีกรอบ แล้วก็มาโวยที่กองถ่ายว่า "คุณทำอย่างงี้ได้ยังไง ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้านเดินเข้าออก ห้องนั้น ห้องนี้ อย่างสนุกสนาน บ้านนี้ไม่ใช่สวนสาธารณะนะ จะได้มาเดินเล่นกัน ถ้าได้ถ่ายตามที่ตกลงไว้ครบแล้ว ก็น่าจะหมดธุระที่บ้านนี้ได้แล้วนะคะ"

ในที่สุดพวกเขาก็กลับกันสักที แล้ววันนี้ก็ผ่านไปจนได้ค่ะ



แต่แล้วพี่สาวหนูเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้ว่า

กองถ่ายเขายังถ่ายกันไม่เสร็จ จะต้องมาถ่ายซ่อมต่อวันหลัง จะขอมาถ่ายอีกแล้วจะโทรมาติดต่ออีกที่ว่าวันไหน

(อ้าว ยังไม่จบอีกเหรอคะ ตกลงหนังสั้นพี่ๆยาวกี่ชั่วโมงเนี่ย)



เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

หากจะใช้บ้านคุณเป็นกองถ่ายหนังสั้นสักเรื่อง คิดดีๆก่อนนะคะ

ประเด็นที่หนูเจ็บใจ คือ

1.ทำไมพี่สาวหนูที่เป็นคนประสานงาน ไม่มาดูแลเพื่อนๆเลย

2.พี่ๆที่มาถ่ายทำได้มาดูสถานที่ก่อนแล้ว น่าจะทราบว่ามีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก มีเสียงดังรบกวนเสมอ แล้วจะให้หนูห้ามหมา ห้ามนก ห้ามชาวบ้านแถวนั้นได้ยังไงล่ะคะ

3.กองถ่ายนี้มารยาทแย่มากเลยค่ะ



แค่คิดถึงวันที่เค้าจะมากันอีกก็ปวดหัวแล้วค่ะ

จะไม่ให้มาก็ไม่กล้า

คุณยายเออออไปกับเค้าตั้งแต่แรกไปแล้ว

ยังไงดีล่ะเนี่ย



เป็นหนังสั้นของบัณฑิตเพิ่งจบใหม่ค่ะ บอกว่าจะถ่ายเอาไว้ไปประกวดที่ไหนไม่ทราบ









เครดิตค่ะ[URL=http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5106268/A5106268.html]พันทิพดอทคอม[/URL]



ทีหลังจะให้ใครมาทำอะไรในบ้านเราก็คงต้องไตร่ตรองกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้



แล้วก็การกระทำแบบที่น้องคนนี้เล่ามา ไม่น่าจะเป็นของคนที่เป็นปัญญาชนเอาเสียเลย อยากรู้จริงๆว่าเด็กสถาบันไหน แย่จริงๆ
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา