Review : Chronicle

อ่านก่อนนิดนึง



บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ



และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ



การติชมต่อผลงานของSoma สามารถเขียนได้ในกระทู้อย่างเปิดเผยและตรงๆอย่างไม่ต้องกังวล เข้ามาอ่านReview เล็กๆก่อนตัวเต็ม หรือถ้าใครที่เข้ามาอ่านธรรมดาแต่อยากติชม สามารถเข้าไปติได้ที่Facebook ของกระผมนะครับ



http://www.facebook.com/profile.php?id=100000512771067



Chronicle








แนวหนัง : ดราม่า ไซไฟ



ตัวอย่าง








เรื่องย่อ



แอนดรูว เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอและปลีกตัวจากสังคมได้ไปงานเลี้ยงแห่งนึงตามคำชวนของ แมท เพื่อนสนิทของเค้าเพียงคนเดียว และจากการมางานเลี้ยงเค้าได้รับการเชิญชวนจากสตีฟให้ลงไปที่หลุมลึกลับแห่งนึง และที่แห่งนั้นคือสถานที่ที่พาหนุ่มทั้ง3คนไปพบกับพลังอำนาจบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเค้าตลอดไป







มุมมองของ Soma



ด้วยคำชมอันมหาศาลของหนังเรื่องนี้ มันทำให้ผมรู้สึกสนใจกับหนังที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพลังวิเศษเรื่องนี้ที่ถ่ายทำแบบ Handheld ว่ามันมีดีอะไรนักถึงเป็นที่ถูกใจของหลายๆคน ก็เลยต้องไปขอพิสูจน์ด้วยตัวเอง และเข้าใจทันทีว่าทำไมหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นที่ถูกใจของใครหลายๆคน







ถ้าใครตั้งใจไปดู Chronicle ด้วยความหวังว่ามันจะเป็นหนังแอ็คชั่นถล่มทลายปาน X-Men ภาคใหม่ ผมคงไม่ขอแนะนำอย่างแรง รวมถึงผู้ที่มีภูมิต้านทานการถ่ายทำหนังแบบ Handheld ด้วย Chronicle ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นระเบิดพลังทำลายล้างโลกหรือโชว์ความสามารถพลังพิเศษ แต่หากมันคือหนังดราม่าที่พูดถึงปัญหาสังคมเหี่ยวกับ “เยาวชน” ผ่านเรื่องราวของพลังพิเศษนั้นเอง



หนังได้ใช้เรื่องราวชีวิตของ แอนดรูว เป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งหมดและสื่อถึงปัญหาสภาพสังคมที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเยาวชน โดยหนังได้แสดงถึงปัญหาทางครอบครัว ปัญหาเด็กเกเรและใช้ความรุนแรงในสังคม สร้างความกดดันให้แก่ตัวแอนดรูว ฉะนั้นเมื่อเค้าได้พลังพิเศษมาแล้วมันก็เหมือนกับการที่เด็กที่อุดมไปด้วยความโกรธแค้น ความรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า มีอาวุธในกำมือ ซึ่งมันก็คือสิ่งที่เราๆท่านๆเห็นในข่าวต่างประเทศ ที่มีเด็กบุกยิงนักเรียนในโรงเรียน หนังเรื่องนี้เหมือนจะสื่อถึงปัญหาในเรื่องของเยาวชนจุดนี้นั้นเอง เมื่อเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะพอได้รับพลังมันก็เหมือนกับการได้อาวุธ ฉะนั้นหนังเรื่องนี้จึงกึ่งๆเป็นภาพสะท้อนของวลีเด็ดในสไปเดอร์แมนอย่าง "พลังที่ยิ่งใหญ่ มารพ้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง" ซึ่งถ้าเราไม่รับผิดชอบ ผลที่ตามมาก็จะเป็นดั่งในหนัง



หนังได้เล่าถึงปัญหาของตัวแอนดรูวได้อย่างดี จนทำให้เรารู้สึกทั้งเกลียดและสงสารในชะตากรรมของตัวแอนดรูวอย่างมาก และหนังก็ยังแสดงถึงช่วงความคึกคะนองของวัยรุ่นได้อย่างดี จนบางครั้งเรารู้สึกว่า “เฮ้ย เรามีพลังเราก็ทำแบบนั้น” บางฉากก็เรียกเสียงฮาได้อย่างดี ส่วนเรื่องของพลังพิเศษหนังก็มีให้เราดูพอประมาณ แม้จะไม่ใช่พลังพิเศษที่ดูแล้วแปลกประหลาดไม่มีเรื่องไหนเคยมีก็ตามที และฉากสุดท้ายของหนังต้องขอพูดว่าจัดเต็มอย่างสุดๆ ชนิดว่าถ้าใครอดกลั้นอยากดูฉากระเบิดพลังกันจะเต็มที่กับฉากสุดท้ายแน่นอน







สำหรับเนื้อเรื่องเกี่ยวกับจุดกำเนิด หรือ ไอ้นั้นคืออะไร ไอ้นี้คืออะไร คงไม่ต้องหวังอะไรมากเพราะตามลักษณะของหนังแนวนี้อยู่แล้วคือ เรื่องพวกนั้นต้องปล่อยให้เป็นความลับต่อไป เพราะหนังถ่ายทอดในมุมมองผู้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น (ใครดูหนังแนว Handheld มาจะเข้าใจดี)



อีกจุดที่อยากชมคือเรื่องของนักแสดงที่แต่ละคนแสดงได้ถึงบุคลิคของตัวละครอย่างดี โดยเฉพาะแอนดรูวที่แสดงถึงความเป็นเด็กที่ไม่เอาไหน เด็กที่จนมุม จนเรารู้สึกสงสารและกลัวเด็กคนนี้ในบางเวลาจริงๆ มันดูเหมือนคนที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา และสามารถอุ้มหนังทั้งเรื่องได้อย่างดี เชื่อว่าพ่อหนุ่มนี้มีอนาคตในการแสดงที่ดีแน่นอน







สรุป : หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่พูดถึงเกี่ยวกับปัญหาของเยาวชนผ่านเรื่องของพลังวืเศษได้อย่างดี และเข้าถึงได้ไม่ยากเย็น หนังอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหนังแอ็คชั่นบู๊ระห่ำบ้าเอฟเฟค (ที่กว่าจะมีก็ปาไปท้ายเรื่อง) หรือ หนังที่เหวี่ยงกล้องกันทั้งเรื่อง ถ้าไม่ได้ซีเรียสจุดนี้ขอแนะนำให้ไปดูหนังเรื่องนี้ครับผม



เกรด A




แล้วพบกันใหม่ ลาล่ะ555
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา