Review : The Avengers

อ่านก่อนนิดนึง



บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ



และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ



การติชมต่อผลงานของSoma สามารถเขียนได้ในกระทู้อย่างเปิดเผยและตรงๆอย่างไม่ต้องกังวล เข้ามาอ่านReview เล็กๆก่อนตัวเต็ม หรือถ้าใครที่เข้ามาอ่านธรรมดาแต่อยากติชม สามารถเข้าไปติได้ที่Facebook ของกระผมนะครับ



http://www.facebook.com/profile.php?id=100000512771067



The Avengers








แนวหนัง : แอ็คชั่น คอเมดี้(ไม่ได้ล้อเล่น)



ตัวอย่าง








เรื่องย่อ



หลังจากที่โลกิได้ตกลงไปในมิติในอวกาศจากการต่อสู้กับธอร์ เค้าก็ได้รับการช่วยเหลือจากเผ่ามนุษย์ต่างดาวลึกลับ โดยมอบหน้าที่ให้โลกิไปขโมยคอสมิก คิวป์ ที่อยู่ในฐานบัญชาการของหน่วย S.H.I.E.L.D เพื่อที่พวกมันจะมาบุกยึดครองโลกได้ และหลังจากโลกิสามารถขโมยไปได้ ทำให้ นิค ฟิวรี่ ผบ.ของหน่วยต้องไปเรียกซุปเปอร์ฮีโร่มาช่วยกอบกู้นั้นก็คือ ซุปเปอร์โซลเยอร์ Captain America ยักษ์เขียวขี้โมโห HULK และชายสวมเกราะ Iron Man ร่วมด้วย THOR ที่มาขออาสาหยุดยั้งน้องตนเอง พร้อมทั้งสายลับของหน่วย Black Widow และ Hawkeye ทั้งหมดรวมตัวกันในชื่อ Avengers และพร้อมใจหยุดยั้งมหันตภัยโลกครั้งนี้ให้จงได้







มุมมองของ Soma



คำเตือน : ถ้าคุณคิดจะดู The Avengers ควรทำการบ้านชิ้นโตคือการนั่งดูหนังฮีโร่ของ Marvel Studio ทั้งหมด ได้แก่ Iron Man 1,2 , The Incredible Hulk , THOR และ Captain America : The First Avengers เพื่อปูพื้นฐานเรื่องราวของฮีโร่ทั้งหมด เพราะหนังจะไม่มีการย้อนเรื่องราวต่างๆให้คุณดู อาจเกิดความสับสนและไม่เข้าใจตลอดทั้งเรื่องได้ทันที
หลังจากที่ Marvel ใช้เวลาปูพื้นฐานหนังเรื่องนี้กว่า 4 ปี (นับตั้งแต่ปี2008 ที่ Iron Man เข้าฉาย) นี้ก็ถือเป็นอีก 1 โปรเจคที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดอีกเรื่องนี้ในปี 2012 ไม่เว้นแม้แต่ผมด้วยเช่นกันที่กังวลหนังเรื่องนรี้พอสมควรในเรื่องของตัวละครที่เยอะกลัวว่าจะแบ่งบทได้ไม่ทั่วถึง และผู้กำกับก็พึ่งจะกำกับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่2 (แต่เชี่ยวชาญด้านการเขียนบทและกำกับหนังซีรีย์) จนกระทั้งได้ดูก็พบว่าหนังเรื่องนี้ “เอาอยู่ และเจ๋งเกินความคาดหมายมากๆ และมันควรจะเป็นหนังของ Marvel Studio ที่ยอดเยี่ยมที่สุด”







หนังตอบโจทย์สิ่งที่หนังซัมเมอร์ทำได้อย่างดี ซึ่งมันก็คือเรื่องของ “ความบันเทิง” หนังสามารถทำออกมาได้อย่างสนุกมากๆ ตัวละครในหนังสามารถกระจายบทได้อย่างเท่าเทียมกับ มีช่วงโชว์ของ โชว์เอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครให้ทุกคนจดจำกันได้ ไม่มีตัวละครใดรู้สึกว่าไม่เด่น หรืออย่างช่วงที่ตัวละครต้องมากัดกันเองก็ทำบทสนทนาได้เฉียบคมและดูสนุกไปการกัดกันทางจิตวิทยามากๆ โดยเฉพาะคนที่ขโมยซีนที่มากที่สุดคงหนีไม่พัน HULK ที่ต้องบอกว่าใครดูหนังเรื่องนี้ล้วนต้องชื่นชอบหรือสมัครเป็นแฟนเจ้ายักษ์เขียวตัวนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่เรียกว่าขโมยซีนทุกรอบที่ปรากฏตัว หรือจะเป็นป๋าโทนี่ที่เป็นตัวปล่อยมุกตลอดเวลา และหนังยังอุดมไปด้วยมุกตลกที่คาดไม่ถึงและฮาก๊ากอย่างที่สุด ซึ่งมันช่วยให้ลดบรรยากาศความตรึงเครียดของหนังได้อย่างดี แม้บางทีอาจทำให้อารมณ์ของหนังหลุดไปบ้างแต่ก็พอที่จะอนุโลมเนื่องด้วยความฮาของมุกมันได้



ส่วนฉากแอ็คชั่นคงไม่ต้องกังวล เพราะในตลอดทั้งเรื่องก็มีให้มาเป็นระยะๆ ทั้งตื่นเต้นและสนุก แต่ช่วงที่ต้องบอกว่าปล่อยของคือช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนังที่ดุจประหนึ่งหนังสงครามฟอร์มยักษ์ที่มีตัวละครเป็นเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่มาช่วยตะลุมบอนศัตรู โดยแต่ละตัวก็ได้โชว์ความสามารถโชว์พลังผสมผสานกับการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และที่สำคัญหนังยังกล้าที่จะแทรกมุกตลกลงไปในฉากแอ็คชั่นโดยที่ไม่รู้สึกขัดอารมณ์แต่เพิ่มความสนุกเข้าไปอีกต่างหาก จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะบอกว่าฉากแอ็คชั่นในตอนสุดท้ายของหนังเป็นการปล่อยของอย่างที่สุด และยังเป็นฉากแอ็คชั่นที่สนุกที่สุดในหนังของปี 2012 ณ ตอนนี้ด้วย แม้หลายคนอาจจะบอกว่ากลิ่นอายความรู้สึกมันคล้ายๆกับ Tranformers 3 ไหม อาจจะใช่แต่ความรู้สึกผมว่าหนังเรื่องนี้เหนือชั้นกว่าเยอะ



แต่ถึงแม้หนังจะดีขนาดไหน ในเรื่องของบทก็มีจุดน่าติที่ถึงแม้จะน้อย แต่ก็ทำให้อารมณ์หนังสะดุดไปบ้าง เช่น บางจุดขาดเหตุผลไปหน่อย หรือมันไม่ค่อยมีแรงจูงใจให้เชื่อถือว่าตัวละครมีจุดประสงค์อะไรที่มาทำแบบนี้ หรือบทบางช่วงที่เหมือนจะโดดๆไป แต่ว่าเมื่อมองความสนุกของหนังก็สามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ เพราะอย่างไรบทของหนังก็ยังมีเหตุผล มีจุดยืนให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครและเหตุการณ์ในหนังได้สำเร็จ และอีกขุดที่ผมชอบคือหนังพูดถึงประเด็นของการไม่ยอมรับในสังคมกับคนบางกลุ่มแม้ว่าคนเหล่านี้จะมีประโยชน์ขนาดไหนก็ตาม เพียงเพราะมองแค่ผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ไม่ได้มองให้ลึกถึงผลประโยชน์ที่มากกว่านั้น







สรุป : The Avengers คือหนังซัมเมอร์ที่ตอบโจทย์สิ่งที่หนังซัมเมอร์ควรมีได้อย่างดี ความสนุกที่กล่มกล่อมและยอดเยี่ยมจากส่วนผสมทั้ง ฉากแอ็คชั่นที่สนุกและยิ่งใหญ่ บทที่ไม่ได้เขียนลวกๆมีเหตุผลรองรับแม้บางจุดอาจจะพลาดไปบ้าง ตัวละครที่มีเสน่ห์ และมุกตลกที่ทำให้ขำได้ตลอดทั้งเรื่อง ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้คือภาพยนต์ที่คุณไม่ควรพลาด ควรตีตั๋วเข้าไปรับความบันเทิงแบบเต็มแม็กซ์ ขอยกย่อง MARVEL นายทำได้ครับ



เกรด : A+




แล้วเจอกันใหม่ครับ ลาล่ะ555



ปล.ผู้ชายที่สวมชุดเกราะ เมื่อไม่ใส่แล้วจะเป็นอะไร ภาพนี้มีคำตอบ (เครดิต 9Gag)







ปล.2 อีกอย่าง The Avengers ทำรายได้เปิดตัวในไทยนับเฉพาะกรุงเทพและเชียงใหม่ เมื่อวันที่1พฤาภาคมซึ่งเป็นวันแรงงานไปได้ถึง 40 ล้านบาท ทุบสถิติเดิมคือ สไปเดอร์แมน2ที่ 36 ล้านบาทได้สำเร็จ และขึ้นแท่นแชมป์หนังที่เปิดตัวในไทยสูงสุดตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้วครับ
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา