ไซบีเรียฮัสกี้กับปลอกคอวิเศษ ตามที่คุณทานูกิเรียกร้องงง
ไซบีเรียนฮัสกี้กับปลอกคอวิเศษ
ณ เมืองหนาวแห่งหนึ่งในซีกโลกเหนือ (กว้างไปป่าววะ) พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหิมะเกือบทั้งปี แน่นอนว่ามันหนาวมาก บรื๋อส์~ หนาวมั่กมากกกกก (จะบรรยายไปเพื่อ?) แต่ในที่หนาวๆแบบนี้ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดอาศัยอยู่ รวมไปถึงไซบีเรียนฮัสกี้ตัวหนึ่งที่ถูกจับยัดให้เป็นพระเอก(มั้ง)ของเรื่องนี้
ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวนี้ใช้ชีวิตอย่างอดอยาก หากินตามบาร์เกย์ เอ๊ยไม่ใช่ หาอะไรกินตามข้างทางประทังชีวิตไปวันๆ เขา(ขออนุญาตใช้ “เขา” ไม่ใช่ “มัน” ไม่ได้กระแดะอยากไฮโซ แต่เพื่อความสุภาพ หึหึ) ได้แต่หวังว่าวันหนึ่ง ฮัสกี้ดีๆเช่นเขาจะได้รับสิ่งดีๆตอบแทนบ้าง
และวันนั้นก็มาถึง... (คิดว่านะ)
ขณะที่ฮัสกี้น้อยๆ (555) กำลังคุ้ยเขี่ยกองหนังสือโป๊......................... เปลี่ยนเป็นกองอาหารดีกว่านะ (ถึงเจ้าตัวจะอยากทำแบบแรกก็ตามที ฮี่ๆๆ) เขาก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอในที่แบบนั้น
มันคือ....................
แอ๊บโดมิไนเซอร์!!!!~~
...........
ซะที่ไหนล่ะ เลิกเล่นมุขแป้กซะทีเด๊ะ ชื่อเรื่องก็บอกว่าปลอกคอวิเศษ เพราะฉะนั้น he ก็เจอปลอกคอวิเศษน่ะแหล่ะ - - (บรรยายได้ไม่น่าตื่นเต้นเอาซะเล้ยยย) แต่ทว่า... ฮัสกี้เคะๆ (หึหึ) ก็ยังไม่รู้ถึงความวิเศษของมัลล์...
“โฮ่งๆ แฮ่~ กรรร..” อืม... เค้าพูดว่างั้นอ่ะ และก็อาจจะพูดอย่างงี้ทั้งเรื่อง เพราะฉะนั้นจะแปลให้เลยละกัน (ลำบากจริง ให้ตัวเอกเป็นหมา)
“ปลอกคอใครฟะ มาทิ้งแถวนี้ รุ่นกำจัดหมัดด้วยรึป่าวเนี่ย... แต่มันกินไม่ได้นี่หว่า ชิชะ ไม่สนหรอก” เจ้าหมาน่อยทำท่าจะเดินจากไปคุ้ยอาหารกองอื่น แต่ด้วยแรงดึงดูดประหลาดทำให้ต้องหันไปมองอีกรอบ
“เหมือนมีรังสีอำมหื่น เอ๊ย อำมหิตแผ่ออกมาเลยเว้ย รีบหนีดีก่า” ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวเดียวของเรื่องคิดได้ดังนั้นก็ใช้ตีนหลังตะกุยๆ 2-3 ทีแล้วทำท่าจะออกเดิน แต่ด้วยแรงอธิษฐาน(?)ของคนแต่งฟิค ทำให้เจ้าหูตั้งเหยียบหิมะลื่นล้มหัวคะมำ และด้วยความบังเอิญ ที่แปลว่า ไม่ได้ตั้งใจ (แต่จงใจ ;D) ทำให้หน้ายื่นๆของฮัสกี้น่อยๆ ทิ่มลงตรงกลางปลอกคอพอดี๊พอดี และพอเจ้าหมาตั้งใจจะสะบัดหัวขึ้น ปลอกคอเจ้ากรรมก็ผลุบเข้าไปสวมคอที่เต็มไปด้วยขนอย่างจัง (เพ่ๆ มันจะบังเอิญมากไปรึป่าวหา)
“เฮ้ย... เจ้าปลอกคอบ้า มาอยู่ที่คอตูได้ไงวะ แง่งงงง ออกป๊ายยย” ไม่พูดเปล่า ฮัสกี้หูตั้งพยายามงับปลอกคอให้หลุดออกไป แต่ก็งับไม่ถึง (กร๊ากก) สะบัดหัวสะบัดหางเป็นหมาบ้ายังไง มันก็ไม่หลุดอยู่ดี จนกระทั่งมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา..
“โอ๊ยยยย พอได้แล้ว เวียนหัวจะตายห่า เดี๋ยวปั๊ดกระทืบด้วยจมูกเลย” สิ้นเสียงนั้น ฮัสกี้ถึงกับตกตะลึงนะจังงังยิ่งกว่ารู้ข่าวดาวพลูโตถูกโหวตออกจากระบบสุริยะ เพราะว่าเบื้องหน้าของเขาปรากฏร่างของยักษ์ตนหนึ่ง....................................... รูปร่างมันไม่สมกับคำว่ายักษ์หรอก แต่จะเป็นยักษ์อ่ะ มีไรมะ ยักษ์ตนนั้นโผล่มายืนเท้าเอวแล้วมองสัตว์สี่เท้าตรงหน้าเหมือนจะหาเรื่อง
“อ้าว เจ้าเก็บปลอกคอนี่ได้เรอะ งั้นเจ้าก็เป็นเหยื่อของข้ารายต่อไปสินะ... หึหึหึหึหึหึหึ เฮ้ยๆๆๆ ไม่ต้องสะบัดซะแรงขนาดนั้น ปลอกคอมันไม่หลุดง่ายๆหรอก เพราะเจ้าคือเหยื่อที่ถูกเลือกแล้ว วะฮะฮ่า”
ทั้งคำพูดและเสียงหัวเราะอันน่าขนลุก ทั้งภาพอันน่าสะพรึงกลัว(?) ทำให้ฮัสกี้ขวัญเสียอย่างแรงจนต้องอาศัยวิชาโกยเถอะโยมวิ่งหนีภาพเบื้องหน้า
“ฮือ... ได้เป็นพระเอกทั้งที ทำไมต้องมาเจออะไรน่ากลัวๆแบบนี้ด้วยฟระ”
“หนีไปก็เท่านั้น...” ยักษ์ตนนั้นยังตามมาอีก ดูเหมือนว่าร่างจริงๆของยักษ์ตนนี้จะเป็นควันออกมาจากปลอกคอ
“แกว๊กกกกกก” ตีนหน้าสะดุดเปลือกกล้วย (หนาวๆแบบนี้มีกล้วยด้วยเรอะ) จนทำให้ล้มคะมำสำลักหิมะ น่าอนาถจิตยิ่งนัก ฮี่ๆๆๆ (แกล้งกันนี่หว่า)
“เอาล่ะ ก่อนที่เจ้าจะกลัวข้ามากไปกว่านี้...” ยักษ์แปลกหน้าเริ่มร่ายมนต์... ไม่ช่ายยย เริ่มต้นชี้แจง “ข้าขอแนะนำตัวก่อน ข้าชื่อโอนิ ;D (ทำไมต้องยิ้ม? ชื่อโอนิผิดตรงไหน โอนิแปลว่ายักษ์นี่ ชื่อมันสิ้นคิดมากเหรอ) ข้าเป็นยักษ์ที่สิงสถิตปลอกคอวิเศษนี้มานานแสนนาน นานจนจำไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อย่านึกถึงมันเลย ข้าจะออกมาเมื่อมีเหยื่อ เอ๊ย มีผู้โชคดีได้สวมปลอกคอนี้ และข้าจะมอบพรให้ 3 ประการ เมื่อสมปรารถนาทุกข้อ ข้าก็จะจากไป............... หาเหยื่อใหม่ ;D”
“โฮ่งๆ บรู๋วววว บ๊อกๆ” โอ๊ะ ลืมเปิดระบบแปล “พร 3 ข้อ?? หมายความว่า จะขออะไรก็ได้อย่างงั้นใช่มั้ย” หางฟูฟ่องนั้นกระดิกไปกระดิกมาอย่างตื่นเต้น
“เยสสสสส แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่ข้าทำได้ด้วยนะ อย่างถ้าขอว่า ‘ขอให้ดวงอาทิตย์มี 2 ดวง’ อีนี่ฉานก็มิอาจจัดให้นะนายจ๋า ขออะไรก็ใช้สมองอันน้อยนิดคิดหน่อยละกัน”
“งั้นถ้าลองขอให้ชั้นกลายร่างเป็นคนล่ะ ทำได้มั้ย” หางฟูๆยิ่งกระดิกเร็วเข้าไปอีก จนอาจเอาไปแทนใบพัดของพัดลมได้เลย
“สามารถถถถถถ อีนี่ทำได้ ณ บัด now เลยนะ โฮะๆๆๆ”
ปุ้ง!!! (ไม่ใช่เสียงตดนะเฟ้ย)
มีเสียงระเบิดเบาๆพร้อมกับกลุ่มหมอกหนาทึบมาบังสายตา และเมื่อไซบีเรียนฮัสกี้ (ตกลงมันไม่มีชื่อใช่มะ ไอ้ตัวเอกเนี่ย..) ลืมตาขึ้นก็พบกับ...
ยักษ์... ยักษ์ในปลอกคอวิเศษ ...... กำลังทำหน้าหื่นๆ ;D และใช้สายตาแทะโลม เอ๊ย สำรวจร่างกายของเขาอย่างไม่น่าไว้วางใจ
“มองหาเสด็จพ่อเมิงเรอะ ........... จ๊ากกกกกกกก อารายเนี่ยยยยยย” เขากระโดดตัวลอยด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นอะไรหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไป
เขากลายเป็นคนแล้ว!!
คนจริงๆ คนที่แปลว่ามนุษย์ (จะแปลเพื่อ?) เขาจ้องมองขาหน้าที่เคยมีขนปกคลุมกลายเป็นสองแขนขาวสะอาด มีขนบางๆ สีน้ำตาลอ่อนประปราย (เอื๊อก...) ช่วงลำตัว ขาหลัง ใบหน้า พอใช้มือสัมผัสจึงรู้ว่ามันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แม้แต่หางฟูฟ่องก็หายไป (แต่ข้างหน้าก็มีหำน้อยห้อยระย้ามาแทน กรี๊ดๆ ลามก)
“นี่... นี่มันเป็นความจริงเหรอเนี่ย” อดีตสุนัขเมืองหนาวอุทานอย่างตกตะลึง เขายังไม่รู้ตัวว่าลืมอะไรไปอย่าง “ยักษ์บ้าๆท่าทางหื่นกามแบบท่านทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วยรึเนี่ยยย” อืม... ปากหมาไม่หาย แต่ก็ยังลืมอะไรไปอย่าง
“บอกแล้วว่าข้าเป็นยักษ์วิเศษในปลอกคอกำจัดเห็บ เอ๊ย ปลอกคอวิเศษ สามารถทำอะไรก็ได้ให้เจ้า 3 ข้อ ตอนนี้เจ้าใช้ไปข้อนึงละนะ”
“มัน... มันยอดมากจริงๆเลยจ๊อดดด” ใครคือจ๊อดวะ เขายังคงตื่นตะลึงกับร่างของตัวเองไม่หาย สายตาสอดส่ายหาอะไรก็ตามที่เป็นเหมือนกระจก จะได้ส่องโฉมตัวเอง บังเอิญว่ามีคนทิ้งกระจกไว้แถวนั้นละกันนะ มันจะได้ไม่ต้องไปหาไกล - - (ความบังเอิญที่ตั้งใจ 555)
“โอ้ว... นี่หน้าของชั้น หล่อไม่เบานี่หว่า” พูดพลางหันซ้ายหันขวา พิจารณาใบหน้าที่เป็นคนของตัวเอง เอ... แต่ยังลืมอะไรไปอย่างนะ “แต่รู้สึกหน้ามันจะไม่ค่อยแมนเท่าไหร่เลยฟ่ะ ถ้าไว้ผมยาวมันจะเหมือนผู้หญิงมั้ยเนี่ยยย ผิวก็ขาว ปากก็แดง ผมนิ่มสลวย(?) แล้วไอ้ร่างนี่ ถ้าพูดกันตามตรงมันก็น่าจะสูงไม่ถึง 170 เซนด้วย จะเสกทั้งทีทำไมไม่เอาให้สูงๆ แมนๆเลยว้า~” อืม... มันยังนึกไม่ออก
“ก็สเปคข้าเป็นแบบนี้นี่นา -3- ถ้าเจ้าจะเอาแบบนั้นก็ได้นะ ขอพรอีกข้อไง รับรองข้าทำให้แน่ ;D” ยักษ์วิเศษลอยไปลอยมาอยู่รอบๆ มิวายทำตาหยาดเยิ้มใส่มนุษย์ที่เพิ่งกลายร่างมาสดๆร้อนๆ
“ไม่เอาร้อก พรข้อต่อไปชั้นจะคิดให้ดีๆก่อนขอ เออ... ว่าแต่ว่า... มันหนาวๆแฮะ หนาวกว่าตอนเป็นหมาเยอะเลย”
“แหงดิ่... เจ้าไม่มีขนหนาคอยปกคลุมเหมือนก่อนแล้วนิ ;D” สายตาของยักษ์ยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างบางนั่น...
“นั่นสินะ มนุษย์ไม่มีขนหนาๆ งั้นก็ต้องใส่เสื้อผ้าน่ะสิ”
“ก็ใช่น่ะสิ ;D” ยังมองไม่วางตา....
“งั้น....”
“ ”
“งั้นทำไมไม่เสกเสื้อผ้ามาให้ด้วยละห๊า!!!~~ มิน่าถึงจ้องตาเป็นมันตั้งกะเมื่อกี้แล้ว ปล่อยชั้นให้โป๊ล่อนจ้อนอยู่ด้ายยยยยย ไอ้ยักษ์หื่นกามมมมมมม”
อืม... เพิ่งนึกได้เรอะ
*-*-*-*-*-*-*-*
หลังจากที่หาเสื้อผ้าใส่ได้แล้ว (คุ้ยๆเอาจากถังขยะ) เขาทั้งคู่ (อดีตหมา+ยักษ์) ก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างทางแล้วคุยกันอย่างจริงๆจังๆ
“เหลือพรอีก 2 ข้อ ชั้นจะขออะไรดีนะ” ชายหนุ่มหน้าหวาน (อิอิ) นั่งเท้าคางพลางตรึกตรอง
“ขอแต่งงานอะฮั้นไงฮร้า~~” ควันขาวๆที่บอกว่าตัวเองเป็นยักษ์ลอยฟ่องไปรอบๆ
“สาดดด... อย่ามาทำเสียงกะเทยควายแถวนี้ได้มะ นี่ถ้าชั้นชกหน้าท่านได้คงทำไปแล้วนะ” ที่พูดแบบนี้เพราะชายหนุ่มได้ลองสัมผัสยักษ์วิเศษดูแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจับต้องได้ เหมือนดั่งไล่จับอากาศ
“จะชกเค้าด้วยจมูกเหรอ กี๊ซซซซซ เดี๋ยวเจอตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นสวนกลับเลย”
“ - -lll ”
ช่างเป็นบทสนทนาที่เคร่งเครียดเสียจริง
“แค่ 2 ข้อ กับอะไรก็ได้ที่ชั้นอยากได้ งั้น............ ขอให้พรเพิ่มขึ้นอีก 5 ข้อได้ม้า~” เขาหันไปทำตาปิ๊งๆกับยักษ์ติงต๊อง ด้วยหวังว่าจะอาศัยใบหน้างามๆนั่นอ้อนจนอยู่หมัด
“จะบ้าเรอะ” ไม่ได้ผลแฮะ... “พรน่ะ สิ้นสุดที่ 3 ข้อ ถ้าขอแบบนี้ได้ ข้ามิต้องมอบพรให้เจ้าอีกนับร้อยนับพันข้อเรอะ ท่าจะสติแตก เป็นมนุษย์แล้วก็หัดใช้สมองมั่งสิ อย่าใช้แต่สัญชาติญาณสัตว์ป่า เอ๊อ...”
“ไรฟะ มาด่ากลับอีก งั้นขอคิดดูก่อนละกัน ชั้นไม่อยากใช้พรให้เสียเปล่า .......... อืม.. จะขอตังค์ก็คงไม่ดี สงสัยต้องหาอะไรกินเองก่อนล่ะ”
“จะขอเงินข้าก็ได้นะ ข้าไม่นับเข้าไปในพร 3 ข้อหรอก” ยักษ์ทำหน้าจริงจังและพูดเสียงเครียด
“จริงเด่ะ! งั้น...”
“แต่ต้องตอบแทนข้าด้วยร่างกายนะ ;D”
“......................................”
ถึงแม้ชายหนุ่มจะกลายเป็นคนแล้วแต่ก็ยังคงคุ้ยถังขยะหากินต่อไป เขาครุ่นคิดอย่างหนักถึงพรที่เหลือ จะขออะไรให้คุ้มดีนะ อาหาร เงินทอง อำนาจ ชื่อเสียง แต่ละอย่างล้วนหมดไปได้ในอนาคต เขาไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ อะไรนะที่เขาขอแล้ว จะอยู่กับเขาไปตลอดกาล ถึงแม้จะไม่มีผู้วิเศษข้างกาย
หลังจากได้อาหารมาเพียงน้อยนิด เขาก็นั่งหมดแรงอยู่ข้างทาง นั่งมองยักษ์บ้ากำลังพลิกการ์ตูน(วาย)ในมืออ่านอย่างมันส์ในอารมณ์
“นี่... เป็นยักษ์วิเศษอะไรกัน ทำไมต้องแค่ 3 ข้อด้วย ไม่เข้าใจเลย”
“อย่าขัดจังหวะสิ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม นั่น... กดแล้วๆๆ ไม่นะ ทาเครุ นายจะทำอะไรชั้น น่า... ไม่เห็นต้องถามเลย เดี๋ยวก็จะรู้เอง ฮึ่มมม ไม่นะ อย่า..... โอ้ อา... บลาๆๆ” ยักษ์พึมพำอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ เพราะอากาศหนาวเหน็บ ประกอบกับท้องว่างมานาน ทำให้สติของเขาค่อยๆลางเลือน
“คุณคะ เป็นอะไรรึป่าว” เสียงใสๆดังขึ้นแทรกอากาศหนาวเข้ามา
“เฮ้ย คุณยักษ์ เลิกพากย์การ์ตูนซักทีดิ๊” มือผอมบางยกขึ้นปัดป่ายเสียงรบกวน
“เอ่อ... ชั้นไม่ได้ชื่อยักษ์ค่ะ คุณมานอนสลบหน้าบ้านของชั้นน่ะ”
“หา... ใครสลบ”
ชายหนุ่มร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมองซ้ายมองขวา ไม่ปรากฏร่างของยักษ์วิเศษที่เคยลอยไปลอยมารอบคอเขา
“คุณน่ะแหล่ะ เป็นอะไรรึป่าวคะ ท่าทางเหมือนคนใกล้ตายแล้ว” เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา “หิวมั้ยคะ ชั้นหาอะไรให้กินก่อนมั้ย”
สิ่งที่เขาต้องการมาอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว โดยที่ยังไม่ต้องขอพร
เขาต้องการ “ความรัก” นั่นเอง...
*-*-*-*-*-*-*-*
ภายในบ้านหลังเล็กนั่นอบอุ่นเหลือเกิน ชายหนุ่มยกเครื่องดื่มร้อนๆค่อยจิบช้าๆ
“เอ่อ... ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยผม ผมนึกว่าจะตายอยู่ตรงนั้นซะแล้ว” เขาผงกหัวเบาๆเป็นเชิงขอบคุณ ใบหน้าขาวแดงเรื่อด้วยความเขิน ดูแล้วน่ารักน่าฟัดยิ่งนัก (มารยา...)
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้เอง เออนี่ แล้วคุณชื่ออะไรคะ” สาวน้อยน่ารักเอียงคอถาม อืม... น่ารักสู้พระเอกของเราได้รึป่าวหว่า กั่กๆๆ
“ผม... ผมชื่อ... เอิร์ธครับ” พูดจบก็หลบตาอีกครั้ง มุมปากยิ้มน้อยๆ อย่างไร้เดียงสา (มารยา again)
“ชั้นชื่อนิวค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ปลอกคอคุณเอิร์ธสวยดีนะคะ”
“อ่า... มันเป็นสร้อยแบบใหม่อ่ะครับ กำลังฮิตที่แถวบ้านผมเลย.. แหะๆ” แน่นอนว่าปลอกคอวิเศษนั่นยังคงติดอยู่ที่คอ
“สร้อยบ้านปู่เมิงสิ ปลอกคอเฟ้ย ปลอกคอหมาซะด้วย ฮี่ๆๆ” มีเสียงแซวออกมาจากปลอกคอ หากแต่คนที่ได้ยินมีเพียงชายหนุ่มเท่านั้น
ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันหงุงหงิงๆ นั่นเอง...
โครม!
เสียงประตูถูกถีบเข้ามาดังลั่นจนคนในบ้านสะดุ้งโหยง มีชายร่างยักษ์ (ยักษ์ที่แปลว่าใหญ่น่ะ ไม่ใช่ยักษ์แบบยักษ์วิเศษเพี้ยนๆในปลอกคอ) 2 คนทำหน้าถมึงทึง และเริ่มตะโกนด้วยเสียงเกรี้ยวกราด
“มาทวงหนี้เว้ยยย จ่ายมาซะดีๆ ค้างมา 2 เดือนแล้วนะพวกแก”
“ใช่แล้ว ถ้าไม่จ่ายล่ะก็ พวกกูจะจับตัวลูกสาวไปละ”
ชายหนุ่มร่างเล็กรีบเข้าไปยืนขวางหญิงสาวเอาไว้ ก่อนที่ชายหน้าโหดจะเข้ามาถึง
“ตอนนี้พ่อของชั้นไม่อยู่หรอก ไว้ให้พ่อกลับมาก่อนนะ แล้วจะหาเงินมาใช้ให้แน่ๆ”
บ้านของนิวอยู่กันเพียง 2 คนพ่อลูก ขณะนั้นพ่อกำลังออกไปทำงาน พวกเขาได้กู้เงินจากผู้ปล่อยเงินกู้รายใหญ่ของเมืองเพื่อมาเปิดกิจการของตน
“ไม่ได้!! อ้างแบบนี้มาหลายรอบแล้ว วันนี้ยังไงก็ต้องจ่าย”
“หรือไม่ก็ แม่สาวน้อยต้องมากับพวกเราซะดีๆ ฮ่าๆๆๆ” ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหมายจะจับตัวหญิงสาว แต่ก็ถูกขัดขวางด้วยชายหนุ่มหน้าหวาน
“หยุดนะพวกแก ชั้นไม่ยอมให้ทำแบบนั้นหรอก” เขาออกตัวปกป้องหญิงสาวเต็มที่ ถึงแม้จะตัวเล็กกว่าเกือบครึ่งก็ตามที “ออกไปจากบ้านนี้เลยนะพวกแก”
“ใครกันแน่ที่จะต้องออกไปห๊า เจ้าหนู” ชายทั้งสองเดินตรงเข้ามาหา แล้วเงื้อมมือขึ้น..
“ยักษ์วิเศษ!!” อืม... ตกลงยักษ์ตัวนี้ชื่อวิเศษใช่มะเนี่ย เห็นเรียกกันแต่ยักษ์วิเศษๆ แล้วจุดยืนของชื่อโอนิมันอยู่ตรงไหนกัน (นอกเรื่องๆ)
ปุ้ง!!
กลุ่มควันหนาทึบพวยพุ่งออกมาจากปลอกคอ ชายฉกรรจ์ทั้งสองชะงักไปทันที
“ชั้นจะขอพรข้อ 2 ล่ะนะ”
“ก็พูดมาเด่ะ ฟังอยู่” ยักษ์ในปลอกคอไม่ได้มีทีท่าตื่นเต้นเอาซะเลย ในมือยังคงมีโดจิน gravitation ภาคใหม่ล่าสุดอยู่
“ชั้นขอให้ไอ้เลว 2 ตัวนี้ ไม่ใช่แค่สองตัวนี้ ไอพวกทวงหนี้ทั้งหลาย จงออกไปให้พ้นจากบ้านของนิว แล้วอย่าหวนกลับมาอีก!!”
“จัดห้ายยยย”
สิ้นเสียงนั้นกลุ่มควันก็ค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงชายหนุ่มและหญิงสาวอยู่ในบ้านกันตามลำพัง
และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาทวงเงินที่บ้านอีกเลย
*-*-*-*-*-*-*-*
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ ชายหนุ่ม(ตกลงจะไม่เรียกชื่อใช่มะ)อดีตไซบีเรียนฮัสกี้ขนฟูก็ปักหลักอยู่ที่บ้านของนิว เขาทำงานที่ร้านของพ่อนิว และซุกหัวนอนอยู่บนโซฟาในห้องหน้าบ้าน
“สุขสบายจังเลยน้า...” เอิร์ธนอนกระดิกตีนพลางพูดกับตัวเองในคืนหนึ่ง ขณะที่ทุกคนหลับกันหมด
“สดชื่นจังเลยน้า หึหึหึ” มีเสียงอีกเสียงดังมาจากข้างๆ ยักษ์วิเศษกำลังนั่งเปิดเว็บอยู่ข้างๆ ถึงแม้เขาจะสงสัยว่าเจ้ายักษ์นั่นไปสรรหาของสารพัดมาจากไหน แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ที่เคยปรากฏทำให้เขาไม่เอ่ยปากถาม
“เหลือพรอีกข้อ ชั้นขอเก็บไว้ก่อนละกันนะ ตอนนี้ชั้นยังไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ งานการก็มี ที่อยู่ก็มี คนรักก็......มี > < อิ๊อิ๊”
“ยังไม่มีผั... คู่ขาไง” พูดจบยักษ์วิเศษก็หันมาทำตากรุ้มกริ่มใส่
“ปากมาก...”
ในขณะที่เขากำลังจะผล็อยหลับนั่นเอง ก็ได้ยินเสียงเหมือนงัดแงะประตู เขาตั้งใจเงี่ยหูฟัง เสียงนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ เขามั่นใจว่าคงเป็นขโมยแน่ จึงค่อยๆ เดินไปที่ประตู ในมือถือไม้แบด... ไม้เบสบอลดีกว่านะ ดูดีกว่า (แถวนั้นเค้าเล่นกันด้วยเรอะ) มือขาวเอื้อมไปจับลูกบิดและเปิดออกอย่างรวดเร็ว
เหนือความคาดหมาย... ขโมยนั่นไม่ได้พรวดเข้ามาในบ้าน แต่ยืนยิ้มเหี้ยมอยู่ตรงประตู เอิร์ธหวดไม้เบสบอลไปทางชายแปลกหน้า แต่ก็หลบได้ ชายร่างใหญ่กระโจนเข้ามาโดดคร่อมร่างเล็ก (หึหึ) ปราศจากคำพูดใดๆ มือใหญ่ตรงเข้าเกาะกุมลำคอขาวที่ยังมีปลอกคอติดอยู่
“ไอ้โจร แก...” ร่างบางสู้แรงของผู้บุกรุกไม่ได้เลย คอระหงถูกบีบรัด ลมหายใจเริ่มขาดช่วง
“ยะ... ยักษ์.... โอนิ” ชื่อของยักษ์วิเศษถูกเค้นออกมาอย่างยากลำบาก
“ยอมเรียกชื่อเค้าแล้วเหรอตะเอง~” กลุ่มควันขาวๆลอยไปรอบๆห้อง
“ไอ้....” เวลาแบบนี้ยังมีหน้ามากวนบาทา เขาอยากจะพูดแบบนั้นแต่ก็พูดไม่ออก
“จะขออะไรจ๊ะ ว่ามาเลย ........................ พูดไม่ได้สินะ งั้นนึกในใจก็ได้ ใจเราสื่อถึงกันอยู่แล้ว วิ้งๆ”
ในขณะที่สติเริ่มดับวูบไปทีละนิด ชายหนุ่มตั้งสมาธิขอพรอย่างแรงกล้า เขาต้องการ... ปกป้องคนรัก ปกป้องบ้านหลังนี้ ที่ที่ให้ชีวิตใหม่แก่เขา เขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งมากกว่านี้ แข็งแกร่งที่ขนาดไม่มีใครมารังควาญได้ ใช่... เขาเคยแข็งแกร่ง เป็นไซบีเรียนฮัสกี้ผู้โดดเดี่ยวที่ไม่เคยแพ้ใคร ตั้งแต่อยู่ในร่างของคน เขาก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ ขาดการป้องกันตนเอง ขาดการต่อสู้กับชีวิตที่เหน็บหนาว
เขาต้องการความแข็งแกร่งนั่นกลับคืนมา!!
“กรรรรร..... โฮกกกกกก” คมเขี้ยวตรงเข้าฝังตรงหัวไหล่ของเจ้าหัวขโมย เสียงกรีดร้องลั่นปลุกให้คนในบ้านตื่นขึ้น พ่อของนิวคว้าปืนยาวใกล้ตัววิ่งออกมา ส่วนนิวโดดลงมาจากที่นอนทั้งชุดนอน สิ่งที่ทำให้เธอตื่นตะลึงคือภาพของชายคนหนึ่งกำลังถูกหมาบ้า เอ๊ย คลุ้มคลั่ง (ต่างกันตรงไหน??) ไล่กัดทั่วตัว จนกระทั่งหนีไป
ชายหนุ่มกลายร่างเป็นไซบีเรียนฮัสกี้เหมือนดังเดิม เขายืนมองคนรักของตนที่กำลังยืนตะลึงไม่หาย
พรข้อสุดท้าย แลกกับการปกป้องคนรัก แลกกับร่างมนุษย์ที่จะอยู่เคียงข้างเธอ ถึงแม้จะดีใจ แต่ก็รู้สึกเศร้าจนไม่อาจอยู่ต่อไปได้
สี่เท้าออกวิ่งพาร่างที่ปกคลุมไปด้วยขนหายลับเข้าไปในทุ่งหิมะไกลสุดสายตา แม้เสียงเรียกของหญิงสาวก็ไม่อาจเรียกเขากลับมา
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
“แล้วก็กลับมาเป็นไอ้หมาน่อยเหมือนเดิม เฮ้อ....” ฮัสกี้ขนปุยนอนหมอบอยู่ใต้ต้นไม้ซึ่งหาได้ยากในเมืองหนาวแบบนี้
“ขอเองนี่หว่า ข้าไม่ผิดนะ” ยักษ์โอนิยังคงวนเวียนๆอยู่รอบๆปลอกคอแสนรัก มีสายของหูฟังยาวลงมาจากหูต่อเข้ากับ walkman คาดว่ากำลังฟัง CD Drama ของ No money อยู่เป็นแน่
“คิดถึงนิวจังเลยยยย”
“ก็หนีออกมาเองนี่”
“ชั้นอยู่ต่อไม่ได้ต่างหากล่ะ กลายเป็นหมาแบบนี้ จะแต่งงานกับเจ้าหล่อนก็ไม่ได้ ได้แต่จ้องมองเธอใช้ชีวิตต่อ แล้วซักวันเธอก็ต้องเจอผู้ชายที่เธอตกลงปลงใจว่าจะใช้ชีวิตด้วย โอ๊ยยยย ไม่อยากจะคิด” พูดพลางก็สะบัดหัวเป็นหมาบ้าไปพลาง
“เอาวัคซีนแก้บ้ามะ เดี๋ยวพาไปฉีด ;D”
“ไอ้....” ไอ้บ้าอย่ามากวนตีนนะเฟ้ยยย ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็ไม่อาจพูดออกมาได้ เพราะยังนึกถึงบุญคุณของยักษ์วิเศษที่ทำให้เขาสมหวังในหลายๆอย่าง ถึงแม้จะเป็นเวลาอันสั้นก็ตามที
“เออนี่...” ฮัสกี้หันไปหายักษ์ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ
“นี่!!!”
“เฮ้ย เบาๆก็ได้ หูไม่ได้หนวก ขัดขวางความสุขซะจริง ถึงตอนคาโน่กำลังปล้ำอายาเสะอยู่เลย ชิ”
“ใครปล้ำใคร จับใครกดตูไม่สนเว้ย แต่สงสัยอยู่อย่างนึง พรก็ขอไปครบ 3 ข้อแล้วไม่ใช่เรอะ ทำไมยังไม่ไปอีกหา...”
“อ้าว... ไม่อยากให้เค้าอยู่ด้วยแล้วเหรอ งี้ดดดดดส์~” พูดจบก็ตรงเข้ามาคลอเคลียๆให้ขนลุกเล่นๆ
“แค่สงสัยเฟ้ย แค่สงสัย”
“คือ... อันนี้จริงจังนะ” ยักษ์วิเศษทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที (แต่ยังเสียบหูฟัง CD อยู่) “ที่ข้ายังอยู่แบบนี้เพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้นน่ะสิ”
“ภารกิจ?”
“ใช่....................................... ภารกิจเผด็จศึกเจ้ายังล่ะ หึหึหึหึหึหึ”
..............
“เรื่องจริงๆมันเป็นแบบนี้” ยักษ์วิเศษเริ่มต้นทำหน้าจริงจังอีกครั้งหลังจากโดนฮัสกี้ไล่งับ (ถึงแม้จะไม่เจ็บก็ตาม) ราวกับติดเชื้อพิษสุนัขบ้า “เพราะเจ้ายังขอพรไม่ครบทุกข้อต่างหาก”
“อ้าว... 3 ข้อครบแล้วไง ขอให้กลายร่างเป็นคน ขอให้ไอ้พวกอันธพาลหายไป แล้วก็ขอกลับมาเหมือนเดิม อย่าบอกนะว่ามีข้อ 3.1 3.2 อีกน่ะ”
“ยังเหลืออีก 1 ข้อต่างหาก”
“หา....... มาจากไหน” หลังจากติดเชื้อบ้าก็ติดเชื้อเอ๋อแดกกะทันหัน
“พรข้อที่ 2 ของเจ้าก็คือขอเพิ่มอีก 5 ข้อ รวมเป็น 8 ข้อ อันนั้นข้าสนองให้แล้วแต่แกล้งปฏิเสธไปงั้นแหล่ะ ยี้ฮิ้ว~~~”
“ก็ไหนบอกว่าทำไม่ได้ไง!!”
“ก็ข้าแกล้งเจ้าไง เก็ทรึยัง 55555555” เสียงหัวเราะอันชั่วร้ายดังกึกก้อง
“แล้ว... ขอนับดีๆก่อนนะ พรข้อแรก ขอเป็นมนุษย์ ข้อสองขอเพิ่มพรอีก 5 ข้อ ข้อสามไล่ไอ้หน้าเหี้ย... เหี้ยม ข้อสี่ขอกลับเป็นไซบีเรียนฮัสกี้ มันก็ต้องเหลือ 4 ข้อสิ ทำไมเหลือแค่หนึ่ง”
“จุ๊ๆๆๆ ผิดแล้ว” ยักษ์น้อย(?)จุ๊ปากแล้วเริ่มแถลงการณ์ “ข้อ 1-3 เป็นอย่างที่เจ้าพูด ข้อ 4 เจ้าขอให้ปกป้องคนรัก ข้าก็ทำแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครกล้าแหยมเธอละ ข้อ 5 เจ้าขอให้ปกป้องบ้านนั้น ข้าก็สร้างบาเรียไว้ให้ ข้อ 6 เจ้าขอให้แข็งแกร่งขึ้น ข้าก็เสกให้เจ้ากลายเป็นหนุ่มกล้ามโตแรงควาย แล้วตอนนั้นเจ้าก็ขออีกข้อ ข้อ 7 คือกลับไปเป็นหมาบ้า เอ๊ย ไซบีเรียนฮัสกี้แบบเดิม เหลืออีกข้อนึงถ้วนๆ ไม่เชื่อลองย้อนกลับไปอ่านประโยคข้างบนได้เลย”
ถึงแม้จะฟังคำอธิบายยาวเหยียดแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ยักษ์วิเศษจึงรักษาโรคเอ๋อโดยการก๊อปมาให้เห็นชัดๆ
คำชี้แจง :: จงแยกบทความต่อไปนี้เป็นพรข้อที่ 4-7 (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
ในขณะที่สติเริ่มดับวูบไปทีละนิด ชายหนุ่มตั้งสมาธิขอพรอย่างแรงกล้า / (ข้อ 4) เขาต้องการ... ปกป้องคนรัก / (ข้อ 5) ปกป้องบ้านหลังนี้ / ที่ที่ให้ชีวิตใหม่แก่เขา /(ข้อ 6) เขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งมากกว่านี้ แข็งแกร่งที่ขนาดไม่มีใครมารังควาญได้ / ใช่... เขาเคยแข็งแกร่ง เป็นไซบีเรียนฮัสกี้ผู้โดดเดี่ยวที่ไม่เคยแพ้ใคร ตั้งแต่อยู่ในร่างของคน เขาก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ ขาดการป้องกันตนเอง ขาดการต่อสู้กับชีวิตที่เหน็บหนาว
(ข้อ 7) เขาต้องการความแข็งแกร่งนั่นกลับคืนมา!! (คำว่านั่น อ้างถึงคำว่าไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นการใช้คำแทนคำนามที่เคยกล่าวมาแล้ว เพราะฉะนั้นประโยคนี้จึงอาจแปลได้ว่า “เขา”ซึ่งเป็นประธานในประโยคต้องการกลับเป็นไซบีเรียนฮัสกี้ที่แข็งแกร่งดังเดิม)
.............................................
“ไง แจ่มมะ ;D” ยักษ์ในมาดของอาจารย์สอนพิเศษยิ้มกว้าง
“นี่กูใช้พรสิ้นเปลืองแบบนี้เลยเหรอฟะ อุตส่าห์คิดซะเป็นเรื่องเป็นราว ใช้คำบรรยายซะหรูกลายเป็นการขอพรโดยไม่รู้ตัวรึ..”
“ก็เค้าเป็นคนซื่อง่า... ขออะไรก็ทำให้~”
“งั้นที่เหลืออีกข้อ ชั้นขอให้เป็นคนแบบเดิม ชั้นจะกลับไปหาที่ร้ากกก”
“ไม่ได้ สิ่งที่เคยขอไปแล้วจะขอซ้ำไม่ได้”
“ทำไมอ้ะ แกล้งกันอีกใช่มะ ไม่ต้องเลยๆ”
“ถ้าไม่เชื่อลองอ่านกฎของการเป็นยักษ์วิเศษในตำรานี่เลย หน้า 69 บรรทัดที่ 7 มาตราที่ 123...”
“โอ๊ยยยยย งั้นขอให้ชีวิตข้าพกรูสุขสบายไปตลอดชาติ แล้วไม่ต้องเจอหน้ายักษ์บ้าแบบนี้อีก”
“ตรู๊ดๆๆๆ คำขอขัดข้องๆ Error Error ในประโยคคำขอจะต้องไม่มีคำว่า ‘และ’ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็น 2 คำขอ แต่เจ้าเหลือแค่ข้อเดียว ;D”
“งั้นขอเพิ่มพรอีก 10 เลย จะได้ขอให้หายอยาก”
“ข้าได้ทำการฝืนกฎของผู้วิเศษมาครั้งนึงแล้ว ว่าด้วยกฎแห่ง 3 พรวิเศษต้องได้แค่ 3 เท่านั้น ดูอย่างยักษ์วิเศษในตะเกียง รึมังกรในดราก้อนบอลสิ ยังขอได้แค่ 3 ข้อเอง ฮี่ๆๆ ;D”
“โว้ยยยยยยยย ไม่ขงไม่ขอแม่งแล้ว เรื่องมากจริงๆ ขออยู่แบบนี้ไปจนตายนี่แหล่ะ วุ้ย!”
“จัดห้ายยยย”
ปุ้ง!!
เสียงระเบิดเบาๆพร้อมกับกลุ่มควัน เป็นเหมือนสัญญาณบอกว่า ยักษ์วิเศษได้ทำตามคำขอของผู้ได้รับพรแล้ว และนี่คือพรข้อสุดท้าย
“เฮ้อ... จบสิ้นซะที นี่ล่ะมั้งที่เค้าเรียกว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ คิดซะว่าสิ่งที่ผ่านมาเป็นฝันแปลกๆละกันนะ ไปหาอะไรกินดีกั่ว..” เขาลุกขึ้นออกเดินมุ่งหน้าไปยังที่ที่คิดว่าจะหาอาหารได้ กองขยะนั่นเอง ชีวิตแบบเดิมๆกำลังหมุนกลับมาอีกครั้ง และคงจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไปๆ
“แล้วมื้อนี้จะกินไรดีล่ะจ๊ะตัวเอง” เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหู
“เฮ้ยยยยยยย” ไซบีเรียนฮัสกี้ตกใจขนาดหนักจนนึกว่าหัวใจจะวายตายเมื่อเห็นกลุ่มควันวนเวียนอยู่รอบ
ตัว เจ้ายักษ์วิเศษนั่นเอง “ยังไม่ไปสู่สุขคติอีกเรอะ โอ๊ยยยย จะบ้าตาย มาทำไมอี๊กกกก”
“อ้าว... ก็เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่ใช่เหรอ * *”
“ใครกัน ใครบอกจะอยู่กับ...”
“ก็พรข้อสุดท้ายไง บอกว่าขออยู่แบบนี้ไปจนตาย คำว่าแบบนี้ ในเวลาขณะนั้น ก็หมายความว่า ข้ากับเจ้า ยังไงละจ๊ะ ^^”
“กว๊ากกกกกก.. ไม่ใช่อย่างง้านนนน โอ๊ย กรรมของเวร เวรของกรรม ทำไมช่างเข้าใจได้ผิดความหมายเช่นนี้ ฮืออออออ.... ไม่อ๊าวววว ใครก็ได้ช่วยเค้าที!!”
“ไปกันเถอะที่รัก ไปล่ามื้อเย็นกันดีก่า วะฮ่ะฮ่า~~”
และแล้ว... ไซบีเรียนฮัสกี้และปลอกคอวิเศษ(รึยักษ์วิเศษ)ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ;D ตลอดไป.... จนกว่าจะตายไปข้างนึง วะฮ่ะฮ่า~~
Happy Ending (แน่ใจนะว่าแฮปปี้)
Fiction