Fiction Gundam Seed : Love Forever of Kira&Lacus, Athrun&Cagalli
เพิ่งแต่งฟิคเป็นเรื่องแรกนะคะ ยังไงก็ช่วยติชมด้วยค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 1 Start to Fate
ณ แพลนท์ ประเทศเป็นกลาง ผู้นำแห่งการค้าและเทคโนโลยี
คิระ ยามาโตะกับอัสรัน ซาล่า เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน บ้านก็อยู่ติดกัน ยามมีปัญหาก็มักจะเป็นที่ปรึกษาให้กันและกันเสมอ
คิระเป็นลูกชายของเซย์ชิโร่และมิโดริ ยามาโตะสามีภรรยานักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของแพลนท์ ส่วนอัสรันเป็นลูกชายคนเดียวของแพทริก ซาล่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของแพลนท์ ที่มักเข้มงวดราวกับลูกชายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ
คิระมีคนรักชื่อ ลักส์ ไคลน์ ซึ่งเป็นญาติกับอัสรัน ลักส์เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลไคล์น ผู้นำของแพลนท์ และยังเป็นผู้นำด้านธุรกิจด้านบันเทิง เธอเองก็ยังเป็นไอด้อลบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ของตระกูลและเป็นที่นิยมอย่างมาก
เช้าวันเกิดอายุ 16 ปีของคิระ เจ้าของวันเกิดกำลังแต่งตัวเพื่อไปเรียนหนังสือ…เสียงเคาะประตูหน้าห้องของเขาก็ดังขึ้น
“ก๊อกๆ”
“ครับ แม่หรือครับ”
“คิระ วันนี้พอจะหยุดเรียนได้ไหมจ๊ะ” มิโดริผู้เป็นแม่เปิดประตูเข้ามาถามลูกชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คิระมองแม่ด้วยความสงสัย
“ได้ครับ วันนี้ไม่มีวิชาสำคัญมาก พอจะหยุดได้ครับ ว่าแต่มีอะไรหรือครับ สีหน้าของแม่ดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“แม่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ๊ะ เดี๋ยวลูกแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปที่ห้องทำงานของพ่อก็แล้วกันนะ”
“ครับ” คิระมองตามประตูที่ปิดไปพลางสงสัยว่าพ่อกับแม่มีเรื่องอะไรสำคัญมากถึงขั้นที่รอให้เขากลับจากโรงเรียนก่อนไม่ได้ แต่ก็ปฏิบัติตามคำสั่งแต่โดยดี
ก่อนจะออกจากห้อง คิระได้เขียนจดหมายถึงอัสรันบอกว่าวันนี้เขาจะหยุดเรียน ให้ลาครูให้เขาด้วยเพราะเขามีธุระกับพ่อและแม่ มัดไว้ที่ขาของโทรี่ นกยนต์ที่อัสรันให้เป็นของขวัญในวันเกิดอายุครบ 15 ปีของเขา
“โทรี่ เอาจดหมายนี่ไปให้อัสรันทีนะ” โทรี่ยืนนิ่งให้คิระมัดกระดาษเข้าที่ขาแต่โดยดี
“โทรี่ๆ..” โทรี่ร้องขึ้นก่อนบินออกนอกหน้าต่างไป คิระมองตามก่อนปิดหน้าต่างแล้วลงไปฟังธุระสำคัญของพ่อแม่
คิระเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของผู้เป็นพ่อจึงยกมือขึ้นเคาะประตูเสียงดังพร้อมกับเอ่ย
“พ่อครับ”
“เข้ามาสิคิระ” เซย์ชิโร่ขานรับเสียงของลูกชายจากโซฟามุมหนึ่งของห้องทำงาน
“พ่อกับแม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”
“ใช่ คิระ... แล้วนี่ลูกบอกอัสรันหรือยังล่ะ เดี๋ยวเขาก็รอลูกแย่หรอก”
“ผมฝากจดหมายให้โทรี่เอาไปให้เขาแล้วครับ” คิระตอบคำถามผู้เป็นพ่อก่อนเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาด้านตรงข้ามพ่อกับแม่
“คุณคะ” มิโดริหันไปทางสามีด้วยสีหน้าวิตกกังวลยิ่งทำให้คิระสงสัยมากขึ้น
“คิระ พ่อมีเรื่องสำคัญมากเกี่ยวกับตัวลูกจะบอก”
“ครับ เรื่องอะไรหรือครับ” อาจจะเป็นเรื่องทำวิจัยที่ทำร่วมกับพ่อแม่กระมัง เขาคิดในใจและฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเป็นเรื่องแค่นั้นทั้งคู่ก็คงไม่แสดงสีหน้าเคร่งเครียดกันมากขนาดนี้ ยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรต่อ เซย์ชิโร่ก็พูดขึ้นโดยไม่อ้อมค้อม
“ลูกมีน้องสาวฝาแฝดอยู่คนหนึ่ง ชื่อ คางาริ” คิระได้ยินถึงกับตะลึงเพราะคาดไม่ถึงว่าเรื่องสำคัญของพ่อและแม่จะหมายถึงเรื่องที่เขามีน้องสาว
[font size=3]“ผมมีน้องสาวฝาแฝด”[/font]
“จ้ะคิระ ลูกมีน้องสาวฝาแฝดคนหนึ่ง ตอนนี้เขาอยู่ที่อ๊อปกำลังจะเดินทางมาที่นี่ คงถึงวันนี้ตอนบ่ายๆ นั่นแหละจ้ะ” มิโดริตอบแทนก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะอธิบายต่อคิระก็ได้ถามขึ้น
“แล้วทำไมน้องถึงไม่อยู่กับเราล่ะครับ ทำไมไปอยู่ที่อ๊อปคนเดียว” คิระถามด้วยความสงสัย เพราะครอบครัวยามาโตะไม่เคยมีปัญหาด้านการเงินหรือด้านอื่นๆ เลยตั้งแต่เขาจำความได้
“ท่านอุซีมิรับเขาไปเลี้ยงน่ะจ้ะ”
“ท่านอุซีมิ... อุซีมิ นาระ อัสฮา ผู้นำของอ๊อปน่ะหรือครับ งั้นน้องของผมก็คือ คางาริ ยูระ อัสฮา ลูกสาวคนเดียวของเขาสิครับ”
“ใช่ คิระ” เซย์ชิโร่ตอบและคิดว่าลูกชายของเขาคงจะเริ่มเดาเรื่องราวได้คร่าวๆ เมื่อตั้งสติได้แล้ว
“แต่ที่ผมทราบมา ไม่เคยมีข่าวว่าท่านอุซีมิรับลูกสาวบุญธรรมเลยนี่ครับ มีแต่ลูกสาวที่เกิดจากภรรยาที่เสียไปแล้วของท่านคนเดียวเท่านั้น.... ก็แปลว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อกับแม่ แล้วท่านอุซึมิเป็น...”
“ท่านอุซึมิไม่ใช่พ่อแท้ๆของคางาริหรอกนะคิระ” ผู้เป็นพ่อขัดขึ้น แล้วอธิบายเรื่องราวทั้งหมด
“พ่อและแม่แท้ๆ ของลูกกับคางาริเป็นเพื่อนสนิทของพ่อและท่านอุซึมิ ตอนที่ลูกอายุได้สี่ขวบเกิดอุบัติเหตุในห้องทดลองทำให้พ่อแม่ของลูกเสียชีวิต ทั้งคู่ไม่มีญาติที่พอจะดูแลพวกลูกได้ เราจึงรับลูกมาเลี้ยง ส่วนท่านอุซึมิรับคางาริไป โดยที่เราสัญญากันไว้ว่าจะบอกความจริงให้พวกลูกฟังเมื่ออายุครบ 16 ปี”
“คิระโกรธพ่อกับแม่หรือเปล่าที่ไม่ยอมบอกความจริงก่อนหน้านี้” มิโดริถาม
“ไม่หรอกครับ ผมเข้าใจเหตุผลของพ่อกับแม่ครับว่าเป็นรักและห่วงผมมาก... แล้วทางด้านคางาริล่ะครับ พอเขารู้เรื่องนี้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง” คิระถามด้วยเกิดความรู้สึกเป็นห่วงน้องสาวฝาแฝดที่ไม่เคยรู้ตัวว่ามีมาก่อน เซย์ชิโร่ตอบคำถามลูกชายด้วยความโล่งอกที่คิระสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดีด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น
“พ่อคุยกับท่านอุซึมิแล้ว เห็นว่าตอนแรกคางาริก็เสียใจมากเหมือนกันเพราะเขารักและภูมิใจในตัวท่านอุซึมิมาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคิระ ตอนนี้คางาริทำใจยอมรับความจริงได้แล้ว”
“แล้วเราจัดไปรับเขากันเลยไหมครับ” มิโดริยิ้มกับความกระตือรือร้นของลูกชายเพราะรู้นิสัยของคิระดีว่า เขาจะทำหน้าที่ดูแลปกป้องน้องสาวคนเดียวคนนี้อย่างมากแน่นอน
“แต่คางาริคงไม่ได้มาพักกับเรานะคิระ ท่านอุซึมิจัดให้พักอยู่บ้านพักของท่านที่ข้างๆ เราน่ะ” เซย์ชิโร่พูดเสริมขึ้น
“บ้านร้างที่พวกผมเคยเป็นเล่นกันบ่อยๆ นั่นหรือครับ”
“ใช่จ้ะ แม่เปิดให้เขาเข้าไปทำความสะอาดข้างในเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ”
“แล้วคางาริมาคนเดียวหรือครับพ่อ”
“ไม่ใช่หรอก ท่านอุซึมิให้คนมาด้วยสองคน องครักษ์กับพี่เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนคางาริที่นี่ด้วย”
“คิซากะน่ะท่านอุซึมิให้มาคอยอารักขา ส่วนมาน่าเป็นพี่เลี้ยงของน้องลูกจ้ะ เขาคอยดูแลคางาริมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว” มิโดริอธิบายให้ฟังเพิ่มเติม
ครอบครัวยามาโตะได้ทำความเข้าใจกันในครอบครัวถึงเรื่องราวในอดีตแล้ว ก็ช่วยกันจัดงานวันเกิดของคู่แฝดก่อนจะไปรับคางาริที่สนามบินในตอนบ่าย
.................................................................................................
Fiction