Indiana Jones 4 อะไรฟะเนี่ย!!!!!+ย้อนประวัติลุงอินดี้ (Spoil)
จะกล่าวถึงชายที่ชื่อSteven Spielberg พ่อมดของวงการHollywood ผู้สร้างสรรค์หนังอย่าง Jurasic Park,ET,Saving Private Ryan และหนังอีกมากมาย
จะกล่าวถึงชายที่ชื่อGeorge Lucas ผู้กำกับผู้สร้างตำนานสงครามอวกาศที่โด่งดังที่สุดในโลกHollywood นั่นคือ Star Wars
จะกล่าวถึงชายที่ชื่อHarrison Ford นักแสดงมากฝีมือ ผู้แสดงเป็นกัปตันบ้าเลือดอย่าง ฮาน โซโล ในStar Wars นายกรัฐมนตรีที่โดนจี้เครื่องบินใน Air Froce One หรือแม้แต่นายตำรวจโลกอนาคตอย่าง ริค ในBlade Runner
แต่ผลงานที่สร้างชื่อของป๋าฟอร์ด กับไม่ใช่เรื่องที่ผมกล่าวถึงไปน่ะสิ
จะย้อนอดีตไปนานหน่อย ก่อนจะเกิดสงครามอวกาศสุดโด่งดัง ป๋าลูคัส แกบอกว่าแกอยากได้หนัง2แบบ แบบแรกคือการผจญภัยแบบการ์ตูนยุคคุณปู่ยังหนุ่มอย่างFlash Gordon (ซึ่งมันก็คือStar Wars) และหนังผจญภัยตามหาขุมทรัพย์ และเค้าก็ได้ตกลงกับPhilip Kaufman ร่างบทของนักโบราณคดีคนนึงที่ไปผจญภัยขึ้นมา แต่ถูกพับโปรเจคไว้ เพราะลูคัสจะเอาStar Wars ให้เสร็จก่อนฃ
หลังจากStar Wars เข้าฉายประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย ลูคัสจึงได้หาเวลาพักผ่อน ไปออกเดทกับเพื่อนซี้อย่างสปีลเบิร์ก (?) และเมื่อทั้งคู่เปิดอก เผยความในใจออกมาทั้ง2ฝ่าย (?) แท้จริงนั่นสปีลเบิร์ก แกมีความฝันว่าอยากจะกำกับหนังตระกูลสายลับหน้าหม้อ เจมส์ บอนด์ 007 ซักเรื่อง (แกอยากกำกับตอนThunder Ball มาก)
แต่ลูคัสก็ได้พูดออกมาว่า ลื้อก็ทำหนังบอนด์แนวใหม่ไปเลยสิ สปีลเบิร์กเห็นแสงสว่าง จึงร่วมมือกับลูคัสเขียนบทหนังขึ้นมา โดยใช้ไอเดียหนังขุมทรัพย์ของลูคัส สร้างเป็นบทหนังใหม่ขึ้นมา
เค้าว่าผมเป็นฝาแฝดกัน??
ต่อมาการคัดเลือกนักแสดงที่เป็นพระเอก ตอนแรกสปีลเบิร์กแกบอกว่า แกต้องการลุงHarrison Ford มาเล่น แต่ลูคัสแกเบื่อขี้หน้าครับ เพราะฟอร์ดร่วมงานกับลูคัสมาแล้วถึง2เรื่อง นั่นก็คือ Star Wars และ American Graffiti ลูคัสจึงเสนอชื่อTom Selleck แต่เจ้าตัวติดสัญญาซีรีย์เรื่อง Magnum, P.I. จึงทำให้ลูคัสโอเคกับฟอร์ด ให้มาเล่นบทพระเอกของหนังที่มีชื่อว่า
Tom Selleck
Magnum, P.I.
Raider of The Lost Ark : ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
อันRaider of The Lost Ark มีเรื่องย่อว่าดร.อินเดียน่า โจนส์ อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้เชี่ยวชาญโบราณคดี และชอบตามล่าขุมทรัพย์ทั่วโลก เค้าต้องตามหาหีบที่บรรจุบัญญัติ10ประการเอาไว้ ที่ถ้าใครครอบครองจะได้อำนาจทั้งปวง ซึ่งดร.โจนส์ต้องหาให้ได้ก่อน กองทัพนาซีที่จะชิงมันไป
ภาคตำรับอินเดียน่าโจนส์ที่ดูกี่รอบก็ยังขลัง มันมีทั้งตื่นเต้น ตลก สนุก มันส์ ครบรส ตัวขุมทรัพย์หีบนั้นก็มีเรื่องราวที่มีพลังที่พอจะให้เราเชื่อถึงพลังของหีบได้ และยิ่งกว่านั้นคือบางฉากในภาคนี้ยังมีความน่ากลัวซะด้วยสิ ทำให้ดูตอนเด็กๆนี้กลัวเลยทีเดียว ตัวบทหนังมันเล่นได้ลงตัวหมดเลยครับภาคแรกเนี่ย แอ็คชั่นหนังถึงจะเก่าแต่ทำถึงใจเช่นกัน ป๋าฟอร์ดแกเล่นได้เป็นตัวของตัวเองมาก มีทั้งความฮา และความรู้ในด้านต่างๆอย่างให้เราเชื่อสนิทใจเลยทีเดียว ด้านดนตรีประกอบก็คลาสสิค (ถ้าใครเคยดูหนังตระกูลนี้ผมเชื่อว่าคุณพอจะฮัมทำนอง Theme หลักของเรื่องได้ง่ายๆเลย) ถ้าผมบอกตรงๆผมก็บอกได้เลยว่า อินดี้คือหนังต้นตำรับของหนังล่าขุมทรัพย์ในยุคหลังๆทั้งหมดเลยล่ะ ส่วนตัวผมชอบภาคนี้เป็นอันดับ2ครับ ใครที่ยังไม่เคยดูขอแนะนำให้หามาดู ถึงเก่าแต่หนังมันเก๋าครับ (เกร็ดเล็กๆ คุณจำลูกน้องของอินดี้ที่เข้าไปเอาขุมทรัพย์ตอนแรก แล้โดนเหล็กแทงตายได้ไหม เค้าคือด็อกอ๊อกในสไปเดอร์แมน2ครับ)
หนังฮิตถล่มทลายด้วยรายได้ที่อเมริกาฟาดไป 242ล้านเหรียญ (383เหรียญทั่วโลก) จากทุนสร้างเพียง 18ล้านเหรียญเท่านั้น!!!!!
แน่ล่ะพาราเมาส์ของไม่หยุดกำไรแค่นี้แน่ เข็นภาคต่อล่ะเฟ้ย!!!!
Indiana Jones and the Temple of Doom : ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 2 ตอน ถล่มวิหารเจ้าแม่กาล
อันIndiana Jones and the Temple of Doom มีเรื่องย่ออยู่ว่าหลังจากอินดี้ไม่สามารถเจรจากับมาเฟียเซียงไฮ้เรื่องของได้ เค้าได้เอาตัวรอดขึ้นเครื่องบินพร้อมกับ ผู้หญิงนักร้องชื่อวิลลี่ ที่เผอิญซวย กับเด็กที่เป็นผู้ช่วยดร.โจนส์อย่าง ชอตราว แต่เนื่องด้วยเครื่องบินมันคือเครื่องบินของไอ้พวกมาเฟีย อินดี้จึงถูกปล่อยเกือบเอาชีวิตไม่รอด จนเค้ามาที่อินเดีย และทราบว่า ศิลาประจำหมู่บ้านได้หายไปพร้อมกับเด็กๆอีกหลายคน อินดี้จึงต้องลุยเมื่อตามหาศิลาและเด็กๆคืนมา
ถ้าอินดี้ภาคที่แล้วเน้นฮาน้อย ภาคนี้ก็เน้นฮามากขึ้นครับ ด้านฉากผจญภัยอะไรยังดูสนุกและหนักแน่นเช่นเดิม แต่สิ่งที่ขาดไปในความรู้สึกของผมคือความดิบความน่ากลัวแบบภาคแรก ทำให้รู้สึกจุดจบของตัวร้ายมันดูไม่สะใจเท่าที่ควร ส่วนตำนานศิลามันดูด้อยพลังแปลกๆ คือไม่ค่อยน่าเชื่อถือและน่าค้นหาเท่าที่ควร อารมณ์ภาคนี้น่าจะบอกได้เลยว่า ภาคนี้เหมาะกับเด็กๆมากที่สุด เพราะความน่ากลัวมันไม่ค่อยมี (ถ้าไม่นับฉากกินอาหารในวังนะ) แนวเรื่อจะออกคล้ายๆผจญภัยแดนมหัศจรรย์อะไรเทือกนี้มากกว่า ส่วนตัวผมว่าภาคนี้สนุกครับ น่าเสียดายตรงเรื่องราวของขุมทรัพย์เนี่ยแหละ
หนังฮิตถล่มทลาย(อีกแล้ว)รายได้อเมริกาฟาดไป179ล้านเหรียญ(ทั่วโลก333ล้านเหรียญ) จากทุนสร้าง28ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่ทำรายได้น้อยที่สุด (เพราะภาค4ตอนนี้รายรับรวมพุ่งทะลุไป152ล้านเหรียญแล้ว)
แน่ล่ะยังไงหนังมันก็กำไรตั้ง151ล้านเหรียญ ภาค3มีรึจะไม่สร้าง
Indiana Jones and the Last Crusade : ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด
อันIndiana Jones and the Last Crusade มีเรื่องย่อว่า อินดี้ได้รู้เรื่องว่าพ่อตัวเองโดนลักพาตัวไปโดยพวกนาซี เพราะเค้าทราบเบาะแสของจอกกาลีซ จอกที่พระเยซูใช้ในพระกายาหารมือสุดท้าย และรองรับโลหิตของพระเยซูตอนโดนตรึงกางเขน อินดี้จึงต้องไป่ชวยพ่อของตนเอง
ผมล่ะโคตรชอบภาคนี้เลย ดูกี่รอบก็ไม่เคยเบื่อ (ถึงแม้รอบที่ดูจะน้อยกว่าDie Hard เท่าตัวก็เถอะ) มันสามารถผสมความขลังของขุมทรัพย์แบบภาคแรกได้อย่างน่าเชื่อถือ และผสมความฮาแบบภาค2ได้อย่างสนุก และภาคนี้ขอบอกก่อนเลยว่า ความฝันสปีลเบิร์กแกเป็นจริง แกเลยทำภาคนี้เต็มกำลัง เพราะปู่ Sean Connery เจมส์ บอนด์ 007 คนแรกสุดนั่นเอง เพราะสปีลเบิร์กแกอยากกำกับเจมส์ บอนด์ มาตั้งแต่แรกแล้ว พอร่วมงานกับคอนเนอรี่ แกเนื้อเต้นสิครับ ภาคนี้เลยดูสนุกมากมายสำหรับผม และรู้เลยว่า อินดี้จะฮาเต็มแม็กซ์ต่อเมื่ออยู่กับคนแก่หรือรุ่นเดียวกัน ส่วนตัวผมชอบภาคนี้ที่สุดในบรรดา3ภาคของอินดี้ครับ (ฮามุขฮิตเลอร์แจกลายเซ็นสุดแล้ว)
หนังฮิตถล่มทลายอีกครั้ง ด้วยรายได้ที่อเมริกา 197ล้านเหรียญ ทั่วโลกตอนนี้ภาคนี้เยอะสุดครับ (แต่อนาคติาจจะโดนภาค4โค่น)นั่นคือ494ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง48ล้านเหรียญ
แต่ทว่าสงสัยวปีลเบิร์กและลูคัสแกคงเบื่อ เลยไม่กำกับหนังต่อ (ผมไม่นับซีรีย์Young Indiana Jones นะ) นานแสนนานนนนน
หลังจากจบตำนานหนังภาค3ไป สปีลเบิร์ก ลูคัส และฟอร์ด ต่างก็แยกย้ายกันไป จนกระทั้งลูคัสแกก็อยากทำตอนใหม่ของอินดี้แกเลยจ้าง Jeb Stuart ผู้เขียนบทหนังสุดที่รักของผมอย่างDie Hard มาเขียนบทให้ แกเขียนบท แต่ทว่า บทของแกหลุดโลกมาก เพราะมันมีมนุษย์ต่างดาวบุกโลก!!! ตอนหลังมีสงครามกับมนุษย์ต่างดาวด้วย!!!! ลูคัสแกโอเคครับ (แน่ล่ะเอ็งบ้าหนังไซไฟ) แต่สปีลเบิร์กกกับฟอร์ดแกเซย์โนทันที บอก จะบ้าเรอะนี่มันหนังขุมทรัพย์นะโว้ย มามั่วมนุษย์ต่างดาว ต่อให้สปีลเบิร์กกำกับผมก็ไม่เล่น บทเลยพับไปเลย (แต่บทหนังอันนี้ก็ใช้ในภาค4เหมือนกันเช่นมดกินคน) ลูคัสแกเลยหันไปทำStar Wars ต่อ และแกก็ทำซีรีย์ Young Indiana Jones แต่ซีรีย์นี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ลูคัสแกได้ไอเดียกระโหลกแก้วมาก็ช่วงนี้แหละ แกก็เริ่มหาข้อมูล จนกระทั้งข้อมูลมีมาก และแกก็ได้คุยกับสปีลเบิร์ก ซึ่งสปีลเบิร์กเห็นด้วย จึงเริ่มหาคนเขียนบท ตั้งแต่ M. Night Shyamalan (ฉากจบคงเป็นทุกอย่างเพียงแค่ความฝันของอินดี้ หรืออินดี้ตายตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว) Stephen Gaghan (เขียนบท Traffic) Tom Stoppard (Empire of the Sun) รวมถึง Frank Darabont !!!! (ส่วนตัวอยากรู้มากถ้าหมอนี้เขียนบทสมบูรณ์ขึ้นมา เราจะได้เห็นอะไรมันส์ๆแหงมๆ หรืออาจจบแบบThe Mistก็ได้นะ OwOb )
ซึ่งแฟงค์มีความใกล้เคียงมากที่สุดในบทปัจจุบัน แต่มันขาดหายอะไรไปหลายอย่าง สุดท้ายคนเขียนบทก็ตกมาในมือของ Jeff Nathanson และได้David Koeppมาช่วยเกลา และสุดท้ายก็เป็นบทของภาค4ในที่สุดเพราะว่าฟรอ์ดแกบอกว่า ถ้าไม่รีบทำในปี2008 ผมไม่เล่นแล้วนะ หนังจึงรีบทำเป็นรูปเป็นร่าง สุดท้าย
การห่างหายไป19ปีของชายใส่หมวกถือแส้หนัง ตอนนี้เค้ากลับมาแล้ว!!!
Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull : ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 4 ตอนอาณาจักรกะโหลกแก้ว
เรื่องย่อ
การผจญภัยครั้งใหม่ล่าสุดเริ่มต้นขึ้น ในทะเลทรายเซ้าธ์เวสต์ในปี 1957 ในช่วงที่สงครามเย็นถึงจุดแรงสุด อินดี้พร้อมด้วยแม็ค คู่หูคู่ใจ หลบหนีพวกเจ้าหน้าที่โซเวียตที่ชั่วร้ายที่สนามบินอันห่างไกลมาได้อย่าง หวุดหวิดบัดนี้ ศาสตราจารย์โจนส์เดินทางกลับถึงบ้านที่มาร์แชลล์คอลเลจ เพียงเพื่อจะพบว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายกลับยิ่งเลวร้ายมากขึ้น คณบดี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาบอกว่าการกระทำของอินดี้ทำให้เขาตกเป็นเป้าของ ความสงสัยคลางแคลง จนรัฐบาลกดดันให้ทางมหาวิทยาลัยไล่เขาออก ระหว่างเดินทางออกนอกเมือง อินเดียน่าได้พบกับ มัตต์ เด็กหนุ่มสุดเฮี้ยวที่ทั้งขุ่นแค้นและมีข้อเสนอให้กับนักโบราณคดีจอมผจญภัย ของเรา ซึ่งก็คือถ้าอินเดียน่ายอมช่วยมัตต์ในภารกิจที่มาพร้อมกับเดิมพันส่วนตัว อินดี้อาจได้ค้นพบสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์โบราณ คดี
นั่นก็คือหัวกะโหลกคริสตัลแห่งอกาเตอร์ วัตถุแห่งความยั่วยวน ความเชื่อเรื่องผีสาง และความหวาดกลัวตามตำนานแต่ขณะที่อินดี้และมัตต์ออกเดินทาง เพื่อมุ่งหน้าไปยังสุดมุมที่ห่างไกลที่สุดของเปรู ดินแดนแห่งสุสานโบราณ นักผจญภัยที่ถูกลืม และนครทองคำที่ร่ำลือกัน พวกเขารู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าไม่ได้มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่ออกค้นหาสมบัติ ล้ำค่า กองทัพโซเวียตก็กำลังตามค้นหาร่องรอยของกะโหลกคริสตัล และผู้นำสายลับพวกนี้ก็คืออิริน่า สปัลโก้ สาวสวยสุดเย็นชาและแสนร้ายกาจ ผู้นำกลุ่มทหารระดับหัวกะทิที่ออกตระเวนไปทั่วโลกเพื่อค้นหากะโหลก คริสตัลที่ชวนขนลุก ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้สหภาพโซเวียตครองโลกได้ ถ้าเพียงแต่ไขปริศนาของมันได้
อินดี้และมัตต์ต้องหาทางหลบหลีกกลุ่ม ทหารโซเวียตจอมโหด และค้นหาร่องรอยปริศนาลึกลับ ต้องรับมือกับทั้งศัตรูและเพื่อนๆ ที่มาพร้อมแรงจูงใจที่น่ากังขา และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาต้องหยุดกะโหลกคริสตัลที่ทรงอำนาจไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่ ร้ายกาจที่สุด
มุมมองของSoma
ก่อนจะดูหนังเรื่องนี้เพื่อความสนุกที่ครบถ้วน ควรไปดูภาค1-3ก่อนนะครับ จริงๆหนังเรื่องนี้รอมานานแล้ว แต่เมื่อดูจบ คำพูดแรกที่ผมพูดออกมาคือ อะไรฟะเนี่ย!!!!ทำไมถึงอุทานคำนี้ออกมาเดี๋ยวเล่าให้ฟัง หนังเรื่องนี้ต้องขอบอกก่อนนิดนึงว่า ถ้าท่านได้ดูหนังอย่าง The Mummy หรือ National Treasure ก่อนอินเดียน่าโจนส์ คุณจะรู้สึกว่าหนังภาคนี้สู้ไม่ได้เลย แต่โดยส่วนตัวผม ผมขอบการไขปริศนาสนุกๆแบบ National Treasure (ภาคแรก ภาค2ยังไม่ได้ดู -w- ) แต่ต้นแบบมันจริงๆยังคงเป็นลุงอินดี้อยู่ หนังเรื่องนี้สามารถดูได้ทั้งครอบครัวนะครับ อาจมีฉากรุนแรงบ้างนิดหน่อยๆ
หนังเรื่องนี้ฉากผจญภัยช่วงแรก ทำออกมาได้ไม่ค่อยเต็มสตีมครับ มันดูขาดๆแปลกๆ คือมันไม่สุดง่ะ อย่างช่วงแรกของหนังผมว่า มันยังไม่ค่อยถึงนะถ้าเทียบกับภาคเก่าๆ แต่ก็สนุกได้ หนังจะไปเคาะสนิมเรื่องนี้ได้ก็เอานู่นเลยครับกลางเรื่อง โดยเฉพาะฉากขับรถชิงกระโหลกในป่า ฉากนี้ทำออกมาได้บอกเลยว่า นี้แหละเก๋าแบบอินดี้ มันทั้งระทึก ทั้งฮา พอมาครึ่งหลังเรื่องมันก็สนุกดีเหมือนกันในส่วนตัวผม แต่สู้ฉากขับรถในป่าไม่ได้แฮะ -w-
ขอจุดผิดหวังแบบเต็มสตีมของหนังเลยดีกว่า คือเรื่องขุมทรัพย์กระโหลกแก้ว ให้ตายเถอะแม่คุณ!!! ผมจะบอกให้เลยล่ะกัน (ผมเตือนตั้งแต่ชื่อกระทู้แล้วนะครับว่ามันสปอย)มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ผมว่ามันทะแม่งๆตั้งแต่เจอศพมนุษย์ต่างดาวแล้วล่ะ พอเจอศพแบบจังๆนี้ ผมคิดไปว่า อาจมีโมลเดอร์กับสกัลลี่โผล่มาก็ได้นะ ส่วนเรื่องวคามลับของขุนทรัพย์เนี่ยส่วนตัวผมว่ามันขาดความขลังแบบที่ภาคแรกกับภาค3ทำมา มันขาดมิติที่จะให้เราติดตามไปหน่อยผมว่า ยิ่งตอนเฉลยทั้งหมดนี้ยิ่งแล้วใหญ่ นี้ตูดูอินดี้หรือThe X-Fileฟะ!!!! ให้ตายเถอะครับผมล่ะเกลียดการเฉลยแบบนี้ที่สุด มันไม่ใช่อินดี้อะครับ จะบ้าเรอะหนังที่เล่นกับสิ่งลี้ลับโบราณบนโลก มันมีUFOด้วย!!!! มันมีเอเลี่ยนด้วย!!!!! The X-File ชัดๆ
ส่วนเรื่องความฮา ผมว่ามุขมันใช้ได้เลยล่ะ บางมุขเดาได้ (อย่างมุขอ๊อซซี่เรียกคนมาช่วย) ชอบมุขการทะเลาะกันของอินดี้กับมาเรียนที่สุด เพราะมันดูน่ารักแบบขำๆ ส่วนลูกอินดี้ ชอบเวลาแกจะทำอะไรแล้วแกต้องหวีผมตลอด(ฮา) หรือมุขงูที่กลับมาหลอกหลอนอินดี้อีกครั้ง เรื่องความฮานี่ผมว่าสอบผ่านเลยทีเดียว
เอฟเฟคจะใช้ในส่วนของตัวสถานที่ลึกลับ และฉากผจญภัยบางฉาก ที่ทะแม่งจริงๆคือ ฉากUFOสวยครับ แต่ว่ามันไม่ใช่อะกิ๊ก มันม่ายช่ายด้านดนตรีประกอบ ยังคงเส้นคงวาครับ เพียงแต่ผมว่าธีมหลักอินดี้ใช้น้อยกว่าภาคอื่นๆไปหน่อยแฮะ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่ในรูปแบบของอินดี้
สุดท้ายดารา ฟอร์ดนี้ไม่ต้องพูดถึงแล้วครับ แก่แล้วยังเก๋าของจริง บู๊อะไรแกเล่นลืมแก่เหมือนกัน ส่วนน้องไชอาพระเอกจากทรานฟอเมอร์ผมว่า บทนี้ดูไม่ค่อยใช้แกเท่าไร มันดูทะแม่งๆนิด แต่แกเล่นได้คงเส้นคงว่า กวินเน็ธนั้นเล่นตัวร้าวที่สวย (อ้าว) ส่วนตัวผมว่าผมหมั่นไส้ตัวร้ายของเรื่องน้อยกว่าพวกเกรียนFBI หลายเท่าเลยแฮะ ที่ชอบคือการนำนางเอกภาคแรกมาเล่น แล้วสรุปหนังทั้งหมดได้ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
สรุป : ถือว่าเป็นการกลับมาแก้คิดถึงของปู่อินดี้ได้สมน้ำสมเนื้อเหมือนกัน ความฮา ฉากผจญภัย เพียงแต่มันยังไม่ใช่ มันน่าจะมากกว่านี้เท่านั้นเอง ขุมทรัพย์ที่ไม่น่าหลุดโลกขนาดนั้น ฉากแอ็คชั่นช่วงแรกเร้าใจน้อยไปนิด จริงๆอยากจะให้เกรดAนะครับ มันติดตรงไอ้ช่วงท้ายของหนังที่ผมรับไม่ได้จริงๆ ฉะนั้นปู่อินดี้ภาคนี้ผมให้แค่เกรด B พอครับ
เครดิต
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=10000tip&group=2
http://movie.mthai.com/view/16/20881-indiana_jones_and_the_kingdom_of_the_crystal_skull.movie
http://www.imdb.com
http://www.indianajones.com
อึ้งพอควรฉากจบหนัง ผมรับไม่ได้มากๆเลยล่ะครับ -w- เอาเป็นว่าหนังดูสนุกในฐานะหนังผจญภัยครับ ครั้งหน้าจะเจอกันในนาเนีย2นะครับ สุดท้ายก็ขอบอกว่าใช้มุขเดิมน้อ ลาล่ะ555
ครั้งหน้าพบกับThe Chronicles of Narnia : Prince Caspian เจ้าชายหล่อ สิงโตเท่ กับดินแดนสารพัดสัตว์
ลูคัสบอกว่า อินเดียน่าโจนส์อาจมีภาค5 สงสัยคงจะเป็นชื่อภาค ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า5 ตอนปี่พระอภัยที่สาปสูญ!!!!!
Miscellaneous