MS Story : 10/10/2546 (นึกชื่อตอนไม่ออกน่ะซี่)
ถ้างงกับตรงไหนที่เกี่ยวพันกับกันดั้มของภาคนี้ก็รอตอนต่อไปละกัน (กำลังสองจิตสองใจว่าเอาพวกAstrayก่อนดีหรือเอาเจ้าห้าตัวแรกก่อนดี)
AMX-101 กาลุส J
หนึ่งในMSที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อโจมตีโลกในสงครามนีโอ ซีอ้อนครั้งที่หนึ่ง เมื่อเทียบกับไดรเซนแล้วกาลุส Jด้อยประสิทธิภาพกว่า แต่เพราะผลิตได้ง่ายเลยมีการสร้างมาใช้งานในจำนวนจำกัด
กาลุส Jมักใช้งานเป็นคู่กับซุซ่า โดยมักใช้ในการสู้รบในตัวเมืองหรือภารกิจเก็บกวาดหลังจากที่ซุซ่าทำการทิ้งระเบิด อาวุธของกาลุส Jนั้นเน้นในระยะประชิดมากกว่า โดนมีอาวุธเบาๆคือมิสไซล์และปืนพลังงานไว้ใช้ในระยะไกล ส่วนแขนของกาลุส Jสามารถยืดออกไปในระยะสั้นๆเพื่อเพิ่มพลังหมัดได้(คล้ายๆหมัดของสโคปด็อก) นิ้วของมือซ้ายยังมีปืนกลขนาดเล็กซ่อนเอาไว้อีก
เครื่องแรกที่ปรากฏในเรื่องขับโดยมัชชิม่า เซโร่ครับ
AMA-01X จามุล ฟิน
MAแบบแปลงร่างได้ของนีโอ ซีอ้อนที่พัฒนาขึ้นมาในช่วงสงครามนีโอ ซีอ้อนครั้งที่หนึ่ง นักบินคือทีม3-D อันประกอบด้วย เดล,ดิวน์และ แดนนี่
เห็นจากรูปนั่นส่วนหัวและแขนไม่ใช่ชิ้นส่วนจริงๆของจามุล ฟินนะครับ จริงๆแล้วการพัฒนาของจามุล ฟินยังไม่เสร็จ แต่ยูนิตต้นแบบสามเครื่องก็ต้องติดตั้งหัวและแขนแบบ"แก้ขัด"ไปก่อนแล้วเอาไปใช้งานเลย แต่ถึงยังงั้น จามุล ฟินก็เป็นMSที่มีความเร็วสูงและทรงพลังมาก โดยอาวุธหลักของจามุล ฟินก็คือไฮเปอร์เมก้าแคนน่อนซึ่งสามารถยิงถล่มยานแม่ได้จากนอกระยะเซ็นเซอร์(ใช้พลังในการยิง6MWในร่างMS แต่ร่างMAจะเพิ่มขึ้นมาเป็น30.1 MW!) ส่วนร่างMSจะสามารถใช้บีมกันติดแขนซึ่งสามารถใช้เป็นบีมเซเบอร์สำหรับรบในระยะประชิดได้ด้วย
ร่างMAของจามุล ฟินสามารถเสริมอุปกรณ์ที่เรียกว่า"เมก้า บูสเตอร์"ได้ ซึ่งเมก้าบูสเตอร์นี้จะมีอาวุธเสริมติดเอาไว้ นอกจากนั้นยังใช้เพิ่มความเร็วของจามุล ฟินด้วย ร้ายที่สุดคือเมก้าบูสเตอร์เพิ่มพลังทำลายของไฮเปอร์เมก้าแคนน่อนอีกต่างหาก (ชาร์จเต็มที่ใช้พลังในการยิงถึง40.5 MW พอๆกับไฮเมก้าแคนน่อนเลย)
ตามที่ตั้งใจไว้ ร่างที่สมบูรณ์ของจามุล ฟินจะสามารถติดตั้งบูสเตอร์ขนาดยักษ์ซึ่งติดตั้งเตาปฏิกรณ์แยกไว้ในตัว ซึ่งทรงพลังขนาดใช้ในเขตดาวพฤหัสได้อย่างไร้ปัญหาเลยทีเดียว
GAT-01 สไตรค์ แด็กเกอร์และGAT-01D ลอง แด็กเกอร์
จิมในจักวาลCE? เจ้าคู่นี้เป็นMSที่มีพื้นฐานมาจากกันดั้มพันธมิตรโลก โดยสไตรค์ แด็กเกอร์นั้นเป็นMSรุ่นผลิตจำนวนมากที่ใช้พื้นฐานของสไตรค์ กันดั้ม
เนื่องจากเป็นMSรุ่นผลิตจำนวนมาก สไตรค์ แด็กเกอร์เลยไม่มีระบบมิชชั่น แพ็คและเกราะปรับสภาพแบบสไตรค์ กันดั้ม อาวุธก็ประกอบด้วยอุปกรณ์พื้นฐานคือวัลแคน,บีมเซเบอร์(มีเล่มเดียวตามรอยรุ่นพี่คือจิมเด๊ะๆ)และบีมไรเฟิล ในด้านประสิทธิภาพแล้วสูงกว่ากินน์ของZAFT สไตรค์ แด็กเกอร์ได้ปฏิบัติการครั้งแรกในปีCE 71ในการรบกับZAFTที่ปานามาและถูกผลิตมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนลอง แด็กเกอร์เป็นMSประสิทธิภาพสูงที่ใช้พื้นฐานของดูเอล กันดั้ม(เทียบกับUCก็คงเป็นจิม สไนเปอร์ ทูว์สินะ) และมีชื่อดั้งเดิมว่าดูเอล แด็กเกอร์ แต่ถูกเปลี่ยนชื่อเมื่อไอแซ็ค จูลขโมยดูเอล กันดั้มไป(แหะๆ ภาคนี้การขโมยกันดั้มเป็นเรื่องธรรมดาๆมาก) ขณะที่สไตรค์ แด็กเกอร์เป็นMSรุ่นผลิตจำนวนมากของนักบินธรรมดา ลอง แด็กเกอร์กลับพัฒนาขึ้นมาสำหรับมนุษย์ดัดแปลงโดยเฉพาะ(อย่างพวกที่ขับกันดั้มรุ่นใหม่ของพันธมิตรสามตัวนั่นไง)
เนื่องจากลอง แด็กเกอร์นั้นใช้ข้อมูลที่ได้จากการการต่อสู้ระหว่างสไตรค์ กันดั้มและดูเอล กันดั้มด้วย เลยมีเกราะเสริมประสิทธิภาพคือ"ฟอเทรสตรา"(Fortrestra) ซึ่งจำลองมาจากเกราะของดูเอล กันดั้ม(Assault Shroud แปลตรงๆได้ว่าเกราะหุ้มสำหรับจู่โจม) ซึ่งมีอาวุธเป็นปืนใหญ่ติดไหล่เหมือนกัน แต่มีพลังทำลายสูงกว่า แต่เนื่องจากมีเกราะหนากว่าเลยมีความคล่องแคล่วน้อยกว่า
เนื่องจากพันธมิตรโลกขาดแคลนมนุษย์ดัดแปลง การทดสอบของลอง แด็กเกอร์เลยใช้โคออร์ดิเนเตอร์ชื่อ อีเลฟเว่น โซเซียสเป็นนักบินแทน ซึ่งในภายหลัง อีเลฟเว่นได้เกิดสติแตกและได้ขโมยลอง แด็กเกอร์หนีไป ซึ่งพันธมิตรโลกก็ได้ว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้าง เซอร์เพนท์ เทลให้ออกตามล่าอีเลฟเว่นและลอง แด็กเกอร์ ซึ่งภายหลังได้นำไปสู่การต่อสู้ระหว่างอีเลฟเว่นกับไก มุราคุโมะ(นักบินของกันดั้ม แอสเทรย์สีน้ำเงิน)
ZGMF-600 GuAIZ
อีกครั้งนึง ผมเกลียดชื่อMSในเรื่องนี้โว้ย! ขอเรียกว่าไกซ์ละกัน
เจ้านี่ก็คงเป็นเกลกุ๊กของจักวาลCEล่ะนะ มันเป็นMSที่พัฒนาขึ้นมาแทนกินน์ที่เริ่มล้าสมัยซะแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพันธมิตรโลกได้ปล่อยสไตรค์ แด็กเกอร์ที่เหนือกว่ากินน์ออกมาสู่สนามรบ
ไกซ์นั้นหน้าตาเป็นMSของZAFTแต่ใช้เทคโนโลยีที่เอามาจากกันดั้มของพันธมิตรโลก ไม่ว่าจะเป็นบีมไรเฟิลแบบมาตรฐาน,กงเล็บบีมของดูเอล กันดั้มซึ่งติดไว้ที่โล่แล้วก็กงเล็บตะขอซึ่งจำลองมาจากตะขอ"แพนเซอร์ ไอเซ่น"ของสไตรค์ กันดั้ม โดยทั่วไปไกซ์จะมีสีเขียว แต่เครื่องจ่าฝูงจะทาสีเทาแทน
ที่บอกว่าเจ้านี่เป็นเกลกุ๊กก็เพราะมันแข็งแกร่งกว่าสไตรค์ แด็กเกอร์หรือแอสเทรย์ M1ของอ็อบมาก แต่เนื่องจากเข้าสู่การผลิตในช่วงท้ายๆของสงครามเลยมีจำนวนน้อยเกินกว่าที่จะพลิกสถานการณ์ได้
รีไซเคิล จากตอนแรกสุดของMS Story :D
FA-78-1 ฟุลอาร์เมอร์ กันดั้ม
ในช่วงท้ายของOYW EFกะจะสร้างเกราะเสริมพลังให้กันดั้ม เรียกว่าFull Strike Weapon System (FSWS) ผลจากการออกแบบในทีมพัฒนาMSของFedก็เป็นเจ้านี่แหละครับ
ตามคอนเซ็ปท์แล้ว เจ้านี่เป็นเกราะที่จะปกคลุมทุกส่วนของกันดั้ม+เพิ่มอาวุธหนักๆอย่างมิสไซล์หรือบีมแคนน่อนลำกล้องแฝด พูดง่ายๆก็คือเจ้าFAกันดั้มนี่จะอึดแถมตีหนักอีกต่างหาก
ทว่า เจ้าเกราะนี่ก็ไม่เคยแม้แต่จะถูกสร้างนะครับ เพราะจากการคำนวณแล้ว มันหนักอึ้งเลย เนื่องจากกันดั้มไม่ได้เตรียมไว้สำหรับเกราะหนักๆแบบนี้ ถ้าสวมเข้าไปอามุโร่พลิ้วไม่ออกแน่ๆ โครงการFAกันดั้มก็เลยจบลงแค่กระดาษ
FA-78-2 เฮฟวี่กันดั้ม
โครงการFSWSนี่สร้างเศษกระดาษให้ทีมพัฒนาMSของEFไว้เยอะแยะ แต่มีอยู่อันนึงครับ ที่ใช้ได้เลย ซึ่งก็คือเจ้าเฮฟวี่กันดั้มนี่ โดยแทนที่จะเสริม"เกราะ"ให้กันดั้ม ก็สร้างใหม่ซะเลย ของดีก็คืออาวุธชื่อ"เฮฟวี่ ลันเชอร์" ที่รวมปืนกลหนัก(Gatlinggun)และมิสไซล์สี่ลำกล้องไว้ด้วยกัน
ผลออกมาว่าเจ้าเฮฟวี่นี่ถูกสร้างตัวต้นแบบมาตัวนึง แต่เนื่องจากอามุโร่แกสอยซีอ้อนไปเรื่อยๆ เจ้าเฮฟวี่นี่ก็เลยดูเป็น"ส่วนเกิน" ไปซะ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาของกันดั้มไม่ใช่พลังทำลายไม่พอ แต่เป็นกันดั้มตามการควบคุมของอามุโร่ไม่ทันแล้วต่างหาก โครงการณ์นี้ก็เลยฟุบไปตามระเบียบและEFก็หันไปพัฒนาอเล็กซ์แทน
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า พันเอก แดน เบอร์เซิร์ก(Dan Berserk ช่างเป็นนามสกุลนี่ไม่เห็นใจลูกหลานจริงๆ) ใช้เจ้าเฮฟวี่นี่บุกยึดฐานPezun(แห่งเดียวกับในSentinelนั่นแหละ)ได้ในช่วงที่ทิทานส์รุ่งเรืองครับ
รูปแถม จากออริจินัลดีไซน์ของG Gundamที่ลงในนิตยสารนิวไทป์ คัดมาเป็นสองตัวนะ (ตัวนึงเพราะดีไซน์ อีกตัวเพราะผู้ดีไซน์)
ด็อก กันดั้ม(อินุ กันดั้ม) ออกแบบโดยมาฮิโร่ มาเอดะ(ที่ออกแบบมาฮิโร่ในเทิร์นเอนั่นแหละ)
มีอาวุธเป็นหางบีม,ลิ้นบีม,ปลอกคอหนามและกงเล็บไททาเนี่ยม (มีบีม สเปรย์กันด้วยล่ะ)
ควีน กันดั้มหรือ ทีแบ็ค กันดั้ม ออกแบบโดยทีมแคลมพ์นั่นเองล่ะครับ (น้ำหนักของโมบิล ไฟเตอร์ตัวนี้เป็นความลับ)
Anime