(P.A.D.) part III Last War Last Impression ตอนที่ 5 Angel Wing And Swearer
DEEP SESSION O.S. ส่วนที่ 5 : Angel Wing And Swearer (ปีกนางฟ้าและคำสาบาน)
....................เหนือประตูลำเลียงพลออกที่ 2 ห้องสำหรับเตรียมตัวและวางแผนยุทธการ(SBR : Stand by Room)........................
"จะขอย้ำภารกิจครั้งนี้ให้ทุกคนทราบอีกครั้งหนึ่ง.....เราจะบุกเข้าไปโดยแยกกำลังออกเป็น4กลุ่ม"แอร์รี่เริ่มบรรยายและภาพบนมอนิเตอร์ก็ปรากฏขึ้น มีลูกศรสีฟ้า4เส้นมุ่งแยกจากแต่ละทิศทางไปยังที่ตั้งของข้าศึก
"กลุ่มแรก แม็กเวล ราจิส พวกคุณประจำเส้นทางส่งออกที่1 โดยมุ่งไปทางด้านขวาอ้อมชายหาดออกไป ที่นั่นจะมีการตั้งป้อมปืนสำหรับต่อต้านข้อมูลที่เป็นยานรบและยานเกราะเคลื่อนที่"แอร์รี่บรรยายจบพร้อมกับชี้ไปทางขวาของแผนที่ห่างจากจุดที่กลุ่มแรกเข้าโจมตี "ที่นั่นจะมีทหารจากหน่วยยานเกราะที่7ภาคพื้นเอเชียประจำการรออยู่......ขอให้ช่วยเปิดทางให้พวกเขาด้วย คงไม่มีปัญหานะคะ แม็กเวล"
"กลุ่มที่สอง คุณวรเดช มิ้นท์ เรเซล หยางเฟย คุณแม่มานา พวกคุณจะประจำเส้นทางส่งออกที่3นะคะ ภารกิจของพวกคุณคือการบุกเข้าสู่ส่วนประจันหน้าของฝ่ายข้าศึก.....คงไม่เป็นปัญหานะคะคุณแม่"แอร์รี่พูดช้าๆพร้อมกับมองไปที่แม่ชีที่นั่งอยู่ไม่ไกลไปจากเธอนัก.......
"ไม่มีปัญหาหรอกแอร์รี่ เล่าต่อไปเถอะ....."แม่ชีมานาเอ่ยขึ้นอย่างเรียบง่าย แม้การพูดการจาจะสงบเสงี่ยมไม่ค่อยสมวัยสาวอายุ26ก็ตามที
"อ่ะ คะ....จุดมุ่งหมายคือให้ทั้งห้าคนดึงศัตรูออกมาสู้ให้ห่างจากที่ตั้งให้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเข้าปะทะตรงๆขอเพียงแยกกำลังส่วนหนึ่งออกมาจากกลุ่มให้ได้มากที่สุดก็พอแล้ว"
"กลุ่มที่สาม อัลเทล ฟรีเดล โรเซ็ตต้า....พวกคุณจะประจำเส้นทางส่งออกที่4 หน้าที่ของพวกเธอสามคนคือเป็นกองหนุนของกลุ่มที่สอง โดยเราจะให้พวกคุณเตรียมตัวอยู่ห่างจากยานรบหลักลำนี้10กิโลเมตร......คอยป้องกันยานรบลำนี้และกองยานสมทบที่3ที่กำลังจะมาถึง"
"และกลุ่มสุดท้าย.....พิมกับคุณเครเวีย"แอร์รี่จ้องมองมาทางพิมที่ถึงกับสะดุ้งเมื่อมีคนเรียกชื่อเธอ " ประจำช่องทางส่งออกที่5ค่ะ และหน้าที่ของพวกคุณก็คือการลอบโจมตีโดยเราจะส่งกองทหารชำนาญการรบ50นายไปกับพวกคุณด้วยโดยการอ้อมพื้นที่ป่าผ่านทะเลทรายไปทางซ้ายและขอให้แสตนท์บายที่นั่นจนกระทั่งยานรบของเราได้เข้าสู่พื้นที่การรบเมื่อนั้นขอให้พวกคุณบุกเข้าจู่โจมทันที.......การจัดกลุ่มถือว่าสิ้นสุดเท่านี้ค่ะ"
"และเรื่องแผนยุทธการในครั้งนี้จะขอทวนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง.....เมื่อทุกคนประจำตำแหน่งแล้วขอให้กลุ่มเข้าปะทะเริ่มการดึงทหารของฝ่ายศัตรูออกมาจากกลุ่มได้แล้ว ตอนนั้นให้กลุ่มที่หนึ่งทำการทำลายที่ตั้งป้อมปืนเพื่อเปิดทางให้หน่วยยานเกราะได้ปฏิบัติภารกิจ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วกลุ่มที่สามและยานรบลำนี้พร้อมด้วยกองยานสนับสนุนจะเริ่มทำการบุกโจมตีทันทีเพื่อให้ศัตรูทุ่มกำลังมายังด้านหน้าทั้งหมดและเมื่อถึงตอนนั้นขอให้กลุ่มสุดท้ายทำการบุกโจมตีพื้นที่ส่วนในของที่ตั้งข้าศึก............นี่เป็นแผนการทั้งหมดค่ะ มีใครสงสัยอะไรบ้างไหม?"การบรรยายดูเหมือนจะจบลงตรงนี้แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา
"แล้วเราจะไปถึงที่นั่นยังไงเล่าแอร์รี่ ระยะทางตั้งเกือบ100กิโลเมตรเชียวนะ จะให้เราวิ่งไปงั้นเหรอ"เสียงของเหล่าฝาแฝด อัลเทล ฟรีเดลและโรเซ็ตต้า ดังขึ้นในทันทีจนทำให้แอร์รี่พูดไม่ถูกเหมือนกันว่าจะตอบใครก่อนดีเพราะทั้งสามคนหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะดอลลี่
"อะแฮ่ม!..."แอร์รี่กระแอมไอออกมาอย่างช้าๆ"เราจะไม่เดินไปหรือวิ่งไปแน่นอนจ๊ะ....แต่เราจะบินไป"
สิ้นประโยคของแอร์รี่ทำให้ทุกคนต้องหันหน้าขวับหากันอย่างไม่ต้องบอกกล่าว
"เฮ้...เดี๋ยวสิพวกเราไม่มีปีกนะแล้วจะให้บินกันยังไง........"
แอร์รี่ขยับกรอบแว่นสี่เหลี่ยมของเธอเล็กน้อยก่อนที่จะส่งยิ้มทางมุมปากแล้วพูดแบบสบายๆว่า "ฉันจะติดปิกให้พวกเธอเอง...."
หลังจากที่ทุกคนรับทราบหน้าที่ของตัวเองแล้ว ต่างก็เดินลงมายังเส้นทางส่งออกของตัวเอง โดยมีแอร์รี่เดินสาวเท้ายาวๆนำหน้าไปและพูดกระตุ้นทุกคนไปตลอดทาง
ตอนนี้ทุกคนต่างประจำในตำแหน่งส่งออกของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม็กเวลกับราจิสดูจะดีใจนิดๆ ส่วนกลุ่มของโอ๋กับนั้นดูเหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมให้มานาติดตั้งอาวุธของเธอ ถัดมานั้น3สาวที่น้อง อัลเทล ฟรีเดล และโรเซ็ตต้า กำลังตรวจสอบระบบต่างๆอยู่ และสุดท้ายกลุ่มของพิมกับเครเวียที่ตอนนี้มีกองทหารอีกราวๆ50หรือมากกว่าจัดแถวกันอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรทั้งหมดสวมชุดเกราะที่ดูเทอะทะและถือปืนกระบอกโตกันแทบทุกนาย แต่มีอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้มีหน้าที่หรือถูกจัดให้เข้ากลุ่มไหนเลยยืนอยู่ด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์นักข้างๆแอร์รี่ที่ตอนนี้ง่วนอยู่กับการเตรียมปีกให้ทุกคน
"เอ่อ....คุณแอร์รี่ แล้วหน้าที่ของผมล่ะ ทำไมไม่ให้ผมออกไปกับพวกเขา!!"ชิตดูท่าทีร้อนใจมากเมื่อเห็นพิมที่ตอนนี้กำลังเตรียมความเข้าใจกับเครเวียอยู่ที่เส้นทางส่งออกที่5
"แหม...ไม่ลืมหรอก เธอ..เอ่อ... ชื่อชิตใช่ไหม? ชิตเธอต้องรับงานหนักกว่าทุกคนเลยล่ะ"แอร์รี่หันมามองชิต ดวงตาภายใต้แว่นนั้นราวกับเตรียมการอะไรไว้ล่วงหน้าแต่ตอนนี้ชิตไม่มีอารมณ์จะมานึกถึงอะไรอีกแล้ว เขาต้องการคำตอบ......
"แล้วหน้าที่ของผมน่ะมันคืออะไร?"ชิตถามไปอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์โดยมีราจิสซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างนักฟังอยู่
"เธอ...ชิตเธอต้องรับหน้าที่คุ้มกันยานรบลำนี้กับกองยานที่จะมาสมทบจนกว่าเราจะเข้าสู่พื้นที่เข้าตี ฉันไม่อยากให้เราต้องเสียยานรบลำใดลำนึงไปก่อนที่จะได้ใช้งานมันหรอกนะจริงไหม"แอร์รี่พูดราวกับผู้ชำนาญการรบทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้อายุมากกว่าเขาเกิน6ปีด้วยซ้ำ
"อ้อ...แล้วก็อย่าลืมสิถ้ายานรบของเราเข้าไปไม่ถึงพื้นที่ตามแผนล่ะก็รู้ใช่ไหมว่ากลุ่มของใครจะเจอหายนะ"แอร์รี่มองชิตก่อนที่จะหันไปมองพิมที่ยืนห่างจากพวกเขามากที่สุด "พวกเขาอาจไม่มีโอกาศได้กลับมาอีกเลยก็ได้ถ้าหากแผนล้มเหลว กลุ่มอื่นสามารถถอยกลับมาที่ยานได้ แม็กเวลกับราจิสสามารถถอยร่นไปยังกองยานเกราะที่7ได้ แต่อีกกลุ่มนึงล่ะพวกเขาจะถอยไปที่ไหน ไม่เลยไม่มีเลยถ้าต้องมุ่งตรงลงมาก็จะเจอกับกองทหารที่เราล่อไม่สำเร็จ ถ้าอ้อมกลับมาทางเดิมก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่และเสี่ยงกับการถูกจับหรือไม่ก็ ถูกฆ่าตายหมด"
คำพูดของแอร์รี่ทำให้ชิตจนแต้มจนโต้เถียงไม่ออก เพราะการดำเนินการทุกอย่างนั้นต้องมาขึ้นอยู่กับกำลังของยานรบที่เขาต้องคุ้มกัน หากพลาดนั่นหมายถึงเสียเดิมพันที่วางค้ำไว้ด้วยคำว่า"คนที่เขารัก"ไปทันที ชิตนิ่งไปครู่หนึ่งเพื่อไตร่ตรองทุกอย่างและสิ่งที่เขาได้รับมา ไม่มีทางเลือกอีกแล้วนี่เป็นสงครามไม่มีเวลาจะมาแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ได้วางไว้อีกแล้ว เขาขอเพียงแค่ว่าอย่าให้แผนทุกอย่างต้องล้มเหลวหรือผิดพลาดเพราะนั่นหมายถึงชีวิต
Fiction