(Review) Wu Xia : CSI เวอร์ชั่น กำลังภายใน

อ่านก่อนนิดนึง



บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ



และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ



การติชมต่อผลงานของSoma สามารถเขียนได้ในกระทู้อย่างเปิดเผยและตรงๆอย่างไม่ต้องกังวล เข้ามาอ่านReview เล็กๆก่อนตัวเต็ม หรือถ้าใครที่เข้ามาอ่านธรรมดาแต่อยากติชม สามารถเข้าไปติได้ที่Facebook ของกระผมนะครับ




http://www.facebook.com/profile.php?id=100000512771067





ขออภัย เดือนนี้ต้องของด Previewหนังประจำเดือนสิงหาคม เหตุเพราะว่าผมไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาเขียนให้ทุกท่านได้ เพราะต้องเขียน “โปรเจคยักษ์” เพื่อให้ทันงานหนังสือปีนี้ ฉะนั้นสำหรับใครที่ต้องการดูว่าในเดือนนี้มีหนังอะไรฉาย โปรดเข้าไปชมที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ



ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย




http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/release/release-2011.html#thisweek





Wu Xia







แนวหนัง : แอ็คชั่น สืบสวน



ตัวอย่าง








เรื่องย่อ



เมื่อหมู่บ้านเล็กๆแห่งนึง เกิดมีโจร 2 คนที่คิดจะมาปล้นร้านขายของชำเล็กๆ ช่างทำกระดาษ หลิวจินซี ได้เข้าต่อสู้จนทำให้ 2 โจรนั้นตาย แต่เมื่อการสอบสวนเกิดขึ้นกลับสร้างความสงสัยแก่ ซูไป๋จิ่ว นักสืบราชการที่พบว่า ทั้ง 2 คนนั้นโดนสังหารชนิดที่มีแต่ผู้มีวิทยายุทธเท่านั้นจะทำได้ การเปิดโปงพร้อมกับเรื่องราวในอดีตของ หลิวจินซี จึงเริ่มต้นขึ้น







ประโยคที่นิยามภาพยนต์เรื่องนี้ได้สั้นๆก็คงเป็น “โคตรมันส์เลย!!!!” นี้แหละครับหนังแนวกำลังภายในที่ผมรอคอยมานานแสนนาน แถมหนังยังมีการผสมผสานแนวหนังสืบสวนสอบสวนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ คงต้องบอกเลยครับว่านี้คือหนังแนวกำลังภายในของจีนที่สนุกที่สุดในรอบหลายๆปี







ต้องบอกกันตรงนี้ก่อนเลยว่า ถ้าใครคิดจะไปดู Wu Xia เพราะว่าอยากจะเห็นการต่อยตีกันทั้งเรื่องคงต้องผิดหวังครับ เพราะเอาจริงๆหนังเรื่องนี้มีฉากต่อยตีแบบจริงๆจังๆแค่ 3 ฉากเท่านั้น แต่บอกเลยฮะว่าความสนุกของหนังจริงๆกลับไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็คชั่น แต่กลับเป็นช่วงแรกของหนังที่ผสมการสืบสวนสอบสวนเขาไปในหนัง ทำให้เรารู้สึกร่วมค้นหา ร่วมสงสัยในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น โดยหนังนั้นมีทั้งการอธิบายและฉากแฟลชแบ็คให้เราดู และที่สำคัญคือการที่หนังเอาเรื่องราวของกำลังภายใน พลังในลมปราณในร่างกาย และกลไกต่างๆของร่างกายมนุษย์ออกมาใช้ได้อย่างชาญฉลาดและน่าทึ่งสุดๆ คนรู้สึกเหมือนเรากำลังดู CSI ที่มีฉากหลังเป็นหนังกำลังภายในทีเดียวเชียวล่ะ



ส่วนด้านฉากแอ็คชั่นนั้นคงไม่ต้องกลัวอะไร เพราะหนังเรื่องนี้ในฉากต่อสู้แล้วแทบจะไม่มีสเปเชี่ยลเอฟเฟคเฟคๆให้เราดู เช่นการปล่อยพลัง การกระโดดสูงแบบระบำสวยงาม ไม่มีหรอกครับเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้เน้น ต่อยจริง เตะจริง ซึ่งการต่อสู้นอกจากจะเน้นความดิบและมันส์แล้ว ยังเน้นเรื่องของกระบวณท่าที่จะส่งผลต่อร่างกายของมนุษย์บ่อยเอามากๆ เตะฉากพังจริง อะไรจริง สนุกจริง โอ้ยแบบว่ามันคือความรู้สึกของหนังแนวกำลังภายในยุค 90 สุดๆครับ มันสุดยอดมากๆ และในหนังนั้นจะมีฉากที่กดดัน ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำได้ถึงมากๆ เพราะคุณจะรู้สึกกดดัน ทั้งเสียงเอฟเฟค มุมกล้อง และนักแสดง ที่ล้วนยอดเยี่ยมและผสมผสานกันทำให้ฉากกดดันในหนังนั้นทำเอาผมลุ้นจนเหนื่อยเลยล่ะครับ (ฮา)



ตัวละครหลัก 2 ตัวนั้นมีอะไรที่น่าสนใจครับ ทั้ง หลิวจินซี ที่มีปมเรื่องของการกลับเนื้อกลับตัว แต่สำหรับ ซูไป๋จิ่ว ซึ่งมีปูมหลังที่น่าสนใจเอามากๆ จนทำให้หนังมีประเด็นให้คิดต่อทันทีสำหรับการกระทำของตัวละครตัวนี้ และยังส่งผลไปถึงตัวละครอย่าง หลิวจินซีด้วย นับว่าเป็นความฉลาดที่เอาตัวละครตัวนี้เป็นตัวเดินเรื่องหลักมากว่า หลิวจินซี



ส่วนในเรื่องของบทนั้นคงต้องขอบอกว่าอาจจะไม่ได้ดูแปลกใหม่นัก (เดาทางได้ง่ายนะผมว่า) แต่หนังมีประเด็นที่น่าสนใจเอามากๆเลยคือเรื่องของ ความถูกต้องกับมนุษยธรรมอะไรสำคัญกว่ากัน และคนชั่วจะกลับไปเป็นคนดีได้จริงเหรอ ซึ่งในหนังช่วงแรกนั้นจะเน้นที่จุดนี้เอามากๆ และทำให้คนดูนั้นเกิด 2จิต2ใจในการที่จะบอกว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง แต่น่าเสียดายที่ประเด็นจุดนี้ค่อนข้างเลือนหายไปในหนังช่วงท้ายๆ







ดอนนี่ เยน การแสดงของป๋านั้นคงไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะครับ ป๋าเทพจริงทั้งฉากแสดงอารมณ์ ฉากที่เราดูหน้าไม่รู้ใจ และการต่อสู้ที่ทำให้ผมเชื่อมั่นจากหัวใจว่า ชายคนนี้คือพระเอกหนังแอ็คชั่นในยุคนี้อย่างแท้จริงไปเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับทาเคชิ คาเนชิโร่นั้นต้องยอมรับครับว่าแสดงได้น่าหมั่นไส้จริงๆ (ฮา) แสดงได้เหมือนนักสืบที่อยากรู้อยากเห็น ก่อกวนชาวบ้าน ยุ่งความสุขชาวบ้านไปทั่ว ซึ่งบางทีก็แอบฮาพฤติกรรมของแกเอามากๆซะงั้น (ฮา) และโดยรวมนั้นดาราส่วนใหญ่ แม้หนังจะไม่ได้เน้นมากมายแต่ทุกคนก็สามารถทำได้ดีตามมาตราฐานครับผม



อีกข้อที่ต้องพูดเล็กน้อย พันธมิตรพากย์ฮาอีกแล้วครับท่าน แต่ต้องขอชมว่าทีมนี้พากย์นอกเรื่องแค่ช่วงต้นที่หนังยังไม่มีจุดซีเรียสอะไรเท่าไรนัก แต่สำหรับช่วงท้ายหนังแทบไม่มีการหลุดมุกให้เห็นเลย นับว่าเป็นการสร้างอารมณ์ร่วมที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ







สรุป : นี้คือหนังแนวกำลังภายในที่สุดยอดมากๆ เป็นความรู้สึกที่โหยหามานานแสนนาน หนังสามารถผสมความเป็นหนังสืบสวนสอบสวนและหนังกำลังภายในได้อย่างยอดเยี่ยม บทที่ลื่นไหลและมีประเด็นให้ออกมาคิดต่อ ฉากแอ็คชั่นที่สนุก ดิบ นี้คือหนังกำลังภายในของจีนที่ผมชอบมากที่สุดนับตั้งแต่ คนเล็กหมัดเทวดา ครับผม



เกรด A+ ครับ



ปล. สิ่งที่ FAIL ที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ชื่อไทย เอาอะไรคิด!!!!




แล้วพบกันใหม่นะครับ ลาล่ะ 555
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา