กลับมาแล้ว สำหรับYเรื่องใหม่ที่แบบว่า หึหึ ชื่อเรื่องของมันคือ G-String เป็นฟิคที่เกี่ยวกับ คาคาชิและอิรุกะ
Au Fiction: Naruto [The G-String.]ตอนที่1 (สองตอนจบ)
Author : Somakimi
Pairing: Hatake Kakashi X Umino Iruka
Rate : Lemons^.^
***คำเตือน : ตัวละครทุกตัวเป็นตัวละครที่ยืมมาจากการ์ตูนเรื่องนินจาคาถา “นารุโตะ” และเนื้อเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
The G-String. O_O!!!
“นี่ครับ ภารกิจระดับ C ของคุณ”จูนินหนุ่มผิวสีแทนผู้มีรอยแผลเป็นบนดั้งจมูก มักจะพูดประโยคคล้าย ๆ นี้ กับนินจาทุกคนที่มารับรายงานจากเขา ใช่แล้ว...รวมถึงรอยยิ้มพิมพ์ใจ ของฝ่ายจ่ายงานซึ่งมีหน้าที่คล้ายกับประชาสัมพันธ์ตามห่างสรรพสินค้าทั่วไปอีกด้วย
แต่กับคนคนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น จูนินผู้รวบรัดผมทรงหางม้ารับรู้ถึงความลำเอียงของตนดี แม้จะไม่มีใครสังเกตเห็นก็ตาม แต่เขาเองก็แอบส่งสายตาและรอยยิ้มอย่างลึกซึ้งทุกครั้งที่คนคนนั้นเข้ามารับงาน
“อืม... ขอบใจ”คนที่ถูกส่งสายตาลึกซึ้งพูดขึ้นก่อนรับแผ่นกระดาษซึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าและเดิน
ออกจากห้องไป เหมือนกับคนอื่น ๆ
นั่นแหละ มันซ้ำซากจำเจจนเป็นกิจวัตร ใคร ๆ เขาก็ไม่สังเกตกัน แม้แต่คนที่เขาตั้งใจ ส่งยิ้ม ส่งสายตา ทอดสะพานให้ยังไม่สนใจเลย
‘คิดแล้วมันชีช้ำ’ นินจาหนุ่มโอดครวญในใจ
“อิรุกะจัง เป็นอะไรรึเปล่า ตะกี้ยังร่าเริงอยู่เลย”
“แหะ ๆ เปล่าครับ”เขาหัวเราะแห้ง ๆ ให้กับเซนนินสาวใหญ่ทรงอวบผู้บังคับบัญชา
-
-
-
‘บอกกับเจ้าตัวไปตรง ๆ ก็หมดเรื่องแล้ว!!!’ อิรุกะตะโกนก้องในใจ ขณะอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับบ้านในช่วงเย็น
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไงละ ก็เราไม่กล้าพูดต่อหน้าคนคนนั้นนี่ ขนาดได้เจอกันบ่อย ๆ พูดคุยกันนิดหน่อย แข้งขาก็อ่อนปวกเปียกแล้ว เฮอ~~”เขาตอบกับตัวเองอย่างสิ้นหวังพร้อมกับถอนหายใจ
‘เคยคิดที่จะรวบรวมความกล้าแล้วบอกออกไป แต่ก็กลัวที่จะถูกปฏิเสธ ก็...เราเป็นแค่จูนินธรรมดา ๆ หน้าตาก็งั้น ๆ ถึกก็ถึก ตัวก็ดำ หูก็กาง หน้าก็ใหญ่ แถมยังมีรอยแผลเป็นตรงดั้งจมูกอีก ไม่ว่ายังไงก็ต้องถูกปฏิเสธอยู่แล้ว ถึงไม่บอกออกไปก็แห้ว บอกไปก็อาจจะแห้ว ไม่ว่าทางไหนก็ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่ดี‘
เพียงคิดอย่างนี้ ไอ้”ความกล้า”ที่มีก็กลายเป็นศูนย์แล้ว
“เฮอ~~” อิรุกะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนทั้งศีรษะและไหล่จะลู่ลงเหมือนหมดอาลัยตายยาก
“อาจารย์อิรุกะ” เสียงของบุคคลที่เขาให้ความพิเศษดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ
“อา...เออ...อือ..ครับ”จูนินผู้สิ้นหวังร้องตอบ เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ คนคนนี้ก็ทำให้หัวใจอันห่อเหี่ยวของเขาพองโตอีกครั้ง
“ไม่สบายหรือเปล่า? ท่าทางของนายดูไม่ดีเลย”
“มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับผมแค่เหนื่อย ๆ เท่านั้นเอง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอกครับ”ชายหนุ่มที่คิดว่าตัวเองตัวดำพยายามสนทนาด้วย
ท่าทีปกติ
“จะไม่เป็นไรได้ยังไงล่ะ ก็...”ผู้ที่ทำให้จิตใจของ อุมิโนะ อิรุกะ พองโต ค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วมือลูบเบา ๆ บนริมฝีปากฉ่ำของเขา ทำเอาหัวใจของผู้ถูกสัมผัสแทบหยุดเต้น “ก็ธรรมดานายน่ะยิ้มเสมอนี่น่า แต่พอนายทำหน้าแบบนั้นก็เลยคิดว่า มันต้องมีอะไรผิดปกติน่ะซิ”
‘อ๊า~~~~จะบอกดีมั๊ย!!!จะบอกดีมั๊ย!!!จะบอกดีมั๊ยเนียะ!!!’ หัวใจของผคนที่ถูกไล้ริมฝีปากถึงกับกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความสับสน ‘หรือคนคนนี้จะมีใจให้เรา?’
“อา...เออ...คือว่า...คือว่า...ผม...ผม...”จูนินผู้มีรอยแผลเป็นบนดั้งจมูกแก้มระเรื่อ
‘มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ!!!’ จิตใต้สำนึกกำลังผลักดันตัวของเขาเองให้พูดออกไป แต่ว่า‘ถ้าถูกปฏิเสธล่ะ?’
“...”
”ฉันขอตัวก่อนนะ นายก็กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงยิ้มรับพวกเราตอนไปรับงานไงละ บายนะ”และแล้วร่างของคนคนนั้นก็หันหลังเดินจากไปจนลับสายตา...
“บาย...ครับ” หนุ่มผิวสีแทนตอบกลับพร้อมกับยิ้มและโบกมืออำลาหยอย ๆ ราวคนบ้า เพราะกว่าที่เขาจะทำอะไร คนคนนั้นก็เดินจากเขาไปนานแล้ว
“ทำไมนะ เราถึงไม่มีความกล้ามากกว่านี้อีกนิด”เขาพูดกับตนเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจในความขี้ขลาดของตน แล้วจึงค่อย ๆ โซซัดโซเซเดินต่อไปเพื่อกลับไปเลียแผลใจที่บ้านของเขา
-
-
-
โต๊ะรีดผ้ากำลังถูกตั้งที่กลางห้องขนาดย่อมในบ้านหลังหนึ่ง เบื้องหน้าโต๊ะรีดผ้า ณ จุดเกือบติดผนังคือโต๊ะสำหรับวางโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
“โอย!อกจะแตกตายอยู่แล้ว “ผมชอบคุณครับ”มันก็แค่นี้ ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย จะได้ไม่ต้องมาอึดอัดแบบนี้”นินจาหนุ่มเจ้าของบ้านโวยวายขึ้นพร้อม ๆ กับใช้เตารีดรีดเสื้อสีกรมแขนยาว
“...แต่ว่าพอเจอหน้าเขาทีไร ปากมันก็สั่น ลิ้นก็ชา ในหัวก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว แล้วจะบอกเขาได้ยังไงล่ะ ก็ฉันมันคนขี้ขลาดนี่นา...เฮอ เปิดทีวีดูแก้เซ็งดีกว่า”นิ้วมือสีแทนคว้าจับรีโมทใกล้ ๆ ขึ้นกด หน้าจอแก้วสีดำพลันสว่างจ้า ไม่นานเสียงก็ดังมาจากเจ้ากล่องสีเหลี่ยมที่มีชื่อเรียกว่าโทรทัศน์
“นี้คุณรู้มั๊ยค่ะ ว่าเทรนใหม่ซึ่งกำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้คืออะไร”เสียงพิธีกรในจอสี่เหลี่ยมดังขึ้นท
ันที
“จะไปรู้ได้ยังกันละ วัน ๆ ฉันก็เอาแต่ทำงาน”อิรุกะพึมพำตอบทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสาวสวยในกล่องดำนั้นไม่มีวันได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกไป
“ถ้าคุณไม่รู้ละก็ คุณคงเป็นพวกตกเทรนแล้วละค่ะ โฮะ ๆ ๆ ” แต่เหมือนกับว่ายายผู้หญิงปากมากในนั้นจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดอย่างนั้นแหละ
“แต่ดิฉันจะบอกให้เอาบุญนะค่ะว่า ตอนนี้เทรนที่กำลังมาแรงไม่ใช่ ทรงผม กระเป๋า หรือเสื้อผ้าของแบรนด์เนม อย่าง เวอเซเชียล หลอยวิกตอง แชร์แนว หรือ บีเองกระแดะ แต่ว่ามันคือ...”
“ใช่แล้วค่ะ...มันคือ กางเกงในจีสตริง แฟชั่นมาแรงที่สุดในขณะนี้!!” แม่สาวปากมากในจอทีวีแหกปากพูดอย่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ในหน้าจอทีวีก็ตัดภาพให้เห็นถึงไอ้เจ้ากางเกงในตัวดังกล่าวที่ดูคล้าย ๆ กับผ้าขนาดเล็กรูปสามเหลี่ยมที่มีสายคาดเชื่อมกันทั้งสามมุมในรูปแบบต่าง ๆ มาให้ดู
“แล้วมันจะปิดอะไรมิดเนียะ กางเกงในบ้าอะไรกัน”อิรุกะหน้าแดงน้อย ๆ เมื่อเห็นเจ้าชั้นในตัวจิ๋ว
“เรามาฟังสัมภาษณ์จากปากของผู้สวมใส่กันเลยดีกว่านะค่ะ ว่าจีสตริงสร้างความแตกต่างยังไงในชีวิตของพวกเธอและเขากันบ้าง”
“ง่ะ...มันไม่ใช่กางเกงในสำหรับผู้หญิงเหรอ?”อิรุกะเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหู
“มันเยี่ยมมากเลยค่ะ เวลาใส่กับกระโปรงแนบเนื้อแล้วก็ไม่เห็นขอบน่าเกลียด เหมือนกับกางเกงในทั่วไป ฉันใส่แล้วรู้สึกมั่นใจมากเลยละค่ะ”หญิงสาวทีให้สัมภาษณ์พูดอย่างไม่อายพร้อมโชว์บั่
นท้ายงอนงามซึ่งใส่กระโปรงรัดรูปให้ดู
“รัดซะเห็นง่ามก้นเชียว ผู้หญิงสมัยนี้ไม่อายกันบ้างหรือไง?”เขาบ่น พร้อม ๆ กับขยับเตารีดไปมา
“ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ เมื่อก่อนสามีไม่ค่อยกลับมาบ้านแต่พอฉันลองหันมาใส่จีสตริง ก็รู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกเลยละค่ะ จากนั้นสามีก็กลับมากินข้าวบ้านทุกวันเลยค่ะ” หญิงวัยกลางคนพูดอย่างภูมิใจ
“ใส่จีสตริงแล้วทำให้สามีเจริญอาหารเหรอ? ไม่เกี่ยวกันมั้ง”อิรุกะวิจารณ์
“อ้อ จีสตริงเหรอค่ะ ฉันมีทั้งแบบผ้าธรรมดา ซาติน กำมหยี่ หนังแท้ ลูกไม้ก็มีนะค่ะ เวลาใส่แล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองเซ็กซี่ ทันสมัยแล้วก็ คิ คิ ยั่วยวนสุด ๆ ไปเลยละค่ะ” เด็กสาววัยรุ่นให้สัมภาษณ์ทำท่าทางคิคุใสซื่อแตกต่างจากสิ่งที่เจ้าหล่อนกำลังพูด
“แก่แดด”เขาจับเสื้อซึ่งรีดเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน
จนกระทั่ง
“ทำไมผมถึงมาใส่จีสตริงน่ะเหรอครับ” ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์หน้าตาหล่อเหลากรุ่มกริ่มซึ่งเป็นผู้ให้สัมภาษณ์คนสุดท้ายพูดอย่าง
มั่นใจ “หึหึ มันไม่ใช่แค่เป็นเทรนแฟชั่นของผู้หญิงเท่านั้นหรอกครับ ผู้ชายหลายคนเขาก็ใส่กันทั้งนั้น เวลาใส่แล้วมันก็รู้สึก อืม จะว่าไงดีล่ะ ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมดูดี น่าดึงดูด สมชาย เข้มแข็ง ใส่มันแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนคนใหม่ และกล้าที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างนะครับ”
“มั่นใจ,ดูมีเสน่ห์เหรอ ,เซ็กซี่, น่าดึงดูด ,กล้าขึ้นงั้นเหรอ?”อิรุกะกระซิบกับตัวเองเบา ๆ
“ใช่แล้วค่ะ ถ้าคุณอยากจะเพิ่มความมั่นใจ ความมีเสน่ห์ เซ็กซี่ น่าดึงดูดและกล้าขึ้นละก็ลองใส่จีสตริงดูซิค่ะ มันจะทำให้คุณเหมือนเป็นคนใหม่เลยละค่ะ”
วูบ...หน้าจอแก้วทรงสี่เหลี่ยมดับลงทันทีที่นิ้วมือสีแทนกดลงบนปุ่มปิดที่รีโมท
“เอาละ...ต้องเป็นสิ่งนี้แหละ ที่จะทำให้เราสามารถสารภาพรักกับคนคนนั้นได้ จีสตริงนี้ล่ะ!”และแล้ว อุมิโนะ อิรุกะ จึงตัดสินใจซื้อเจ้าสิ่งนี้มาเพื่อบอกรักคนคนหนึ่ง
-
-
-
“ใช่แล้วค่ะ ถ้าคุณอยากจะเพิ่มความมั่นใจ ความมีเสน่ห์ เซ็กซี่ น่าดึงดูดและกล้าขึ้นละก็ลองใส่จีสตริงดูซิค่ะ มันจะทำให้คุณเหมือนเป็นคนใหม่เลยละค่ะ” เสียงของนางสาวปากมากพิธีกรรายการเมื่อวานเย็นดังกึกก้องในหัวของ อุมิโนะ อิรุกะ ในเช้าวันนี้
“อา...ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลย”เขาครางเสียงต่ำขณะบ่นงึมงำ ใบหน้าสีแทนแดงระเรื่อด้วยความกระดาก “พวกนั้นทนใส่ไปได้ยังไงกัน อ๊า...มันแปลก ๆ ไงก็ไม่รู้”ชายหนุ่มบิดสะโพกไปมาพร้อมกับใช้มือจัดแต่งเจ้ากางเกงในตัวจิ๋วทั้ง ๆ ที่สวมกางเกงตัวนอกทับแล้ว
“อิรุกะเป็นอะไรรึเปล่าดูนายนั่งหยุกหยิกตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว”เพื่อนนินจาซึ่งนั่ง
ข้าง ๆ เห็นอาการผิดปกติจึงเอ่ยถาม
“คือ...ไม่เป็นไร แค่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อยนะ”เขาตอบไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แก้มทั้งสองแดงปลั่ง แม้แต่ดวงเนตรสีช็อกโกเลตยังวาวเรื่อ ทำเอาคนเอ่ยถามหันหน้ากลับแทบไม่ทัน
“อา...อิรุกะ ฉันว่านายไปห้องพยาบาลดีกว่านะ หน้านายแดงมากเลย แล้วเสียงนายก็แปลก ๆ (เซ็กซี่โคตร)คงเป็นไข้ซินะ”แม้แต่คนถามเองหน้าก็แดงฉ่าเป็นลูกตำลึง
‘ใช่แล้วฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน’อิรุกะตอบในใจ ‘เนื้อผ้ามันพิลึก ๆ ยังกะดิ้นได้ เวลาขยับตัวก็ทำให้รู้สึกแปลก ๆ แถมไอ้เส้นเล็ก ๆ ที่ผ่าตรงก้น...มันยังจมลึกเข้าไป...ตรงนั้นด้วย จะไปถอดออกตอนนี้ก็ไม่ได้ ไม่งั้นจะใส่อะไรระหว่างที่ยังทำงานอยู่ล่ะ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ คงเอากางเกงในสำรองมาแล้ว แต่ว่าตอนนี้...ไอ้เส้นเชือกข้างหลังกำลังทำปฏิกิริยาพิลึกกึกกือกับ...ช่องตรงนั้นของเรา บ้าจริง!!! จะทนไม่ไหวแล้ว!’
“อืม...งั้นขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ”อิรุกะตอบเสียงหอบหนัก ๆ หน้าแดงจัดก่อนทำทีจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไป...แต่ทว่า
“อาว...จะไปไหนกันล่ะอิรุกะ แล้วอย่างนี้ฉันจะรับงานจากใคร?”ผู้เข้ามาใหม่ส่งเสียงท้วง
‘มาแล้ว คนคนนั้นมาแล้ว...ทำยังไงดี อายจังไม่มั่นใจเลยแถมยัง...รู้สึกประหลาด ๆ ใต้ร่มผ้าอีก’
“คือ...งานของคุณ นี่ครับ”จูนินผู้ถูกจีสตริงเปลี่ยนชีวิต ยื่นเอกสารให้คนตรงหน้าโดยไม่เงยศีรษะ หรือสบสายตากับผู้รับแม้แต่น้อย
“ไม่สบายเหรออิรุกะ? ไหนเมื่อวานว่าไม่เป็นไรไงล่ะ” ร่างเบื้องหน้าใช้มือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะใหญ่ ก่อนจะเอื้อมฝ่ามืออีกข้างเพื่อจะไปสัมผัสแก้มแดง ๆ ของร่างสีแทน
แต่ยังไม่ทันได้สัมผัส เจ้าของแก้มระเรื่อก็ลุกขึ้นพรวด พร้อมกับครางเสียงต่ำเพราะความเสียวซ่านออกมา
“อ๊า~~~อุบ!”อิรุกะรีบเอามืออุดปากของตนทันทีที่รู้ว่าตัวเองร้องเสียงประหลาดออกไป
“ขอโทษครับ ผม...ผม...ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ!”ร่างสีแทนซึ่งเปล่งเสียงเย้ายวนเมื่อครู่ รีบเดินออกไปจากห้อง อย่างไม่ให้ใครสังเกตถึงอาการผิดปกติของเขา หากแต่ท่าทีและอากัปกิริยาของจูนินผมดำทรงหางม้าในวันนี้ กลับเป็นที่น่าจับตามองยิ่งนัก
“...เจ้าหมอนั่นวันนี้ไม่สบายเหรอ?”นินจาในห้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ไม่รู้สิแต่ไม่คิดว่าเวลาอิรุกะไม่สบายจะเซ็กซี่ได้ขนาดนี้ ฮะ ฮะ”อีกคนพูดขึ้น
“ธรรมดาก็ร่าเริงน่ารักดี แต่วันนี้มาแนวน่าฟัดแหะ เหอๆ ชักอยากจะให้ไม่สบายทุกวันซะแล้วซิ”
“ผมเป็นเพื่อนกับเขามาตั้งหลายปี ยังไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้อิรุกะเดินน่ามองดีเหมือนกัน...ฮะฮะ พวกเราคิดอะไรกันอยู่เนียะยังกะพวกโฮโมแนะ เดี๋ยวคงหายมั้งครับ”ชายซึ่งเมื่อครู่นั่งข้างกายอิรุกะเปร่ยขึ้น
“เฮ้ย...ถ้าเจอแบบนี้ทุกวันเป็นโฮโมก็ยอมวะ ฮะ ฮะ ฮะ แต่เสียงเมื่อกี้มันสุดยอดจริง ๆ”และอีกหลาย ๆ เสียงที่หัวเราะกรุ่มกริ่มตามมา คงมีแต่คนคนเดียวเท่านั้นที่ยังจ้องมองค้างไปยังประตูที่ร่างสีแทนเดินหายออกไป
-
-
-
‘จะทำยังไงดี!’อิรุกะคิดอย่างหวาดหวั่นพร้อมกับยืนนิ่งอยู่กลางห้องน้ำชาย
“ทำไมต้องมีความรู้สึกเอาตอนนี้แล้วก็ที่นี่นะ”เขาก้มลงไปมองเป้ากางเกงที่พองออก”แล
้วจะทำยังไงดี?เพราะไอ้กางเกงในบ้านี่ทีเดียว ไม่น่าซื้อมาเลยทำให้เรื่องยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ บ้าจริง!”เขาเริ่มคอตกเมื่อนึกถึงตอนที่ร้องเสียงประหลาดต่อหน้าคนพิเศษของเขา
“บ่นอะไรอยู่คนเดียวนะอิรุกะ”
“คะ...คุณ...คุณคาคาชิ”จูนินผู้มีรอยแผลเป็นบนดั้งจมูกถึงกับสะดุ้งโหย่ง เมื่อเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง
“เห็นว่า นายไม่ค่อยสบายนี่ แล้วมาทำอะไรในนี่ล่ะ?”ร่างสูงผมสีเงินถามด้วยน้ำเสียงเนือง ๆ ยานคางตามปกติ
“...คือ...เออ...ฮะ ฮะ ฮะ นี่มันสุขาชายนี่ครับ ผมก็ต้องมาทำธุระส่วนตัวอยู่แล้ว เหอ ๆ ” เขาอ้ำอึ้งไปครู่ ก่อนกลบเกลื่อน “แล้วคุณคาคาชิล่ะครับเข้ามาทำไม?”
โจนินผู้มีฉายาว่า ก๊อบปี้นินจาแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตรภายใต้ผ้าปิดปากสีดำ “ฉันก็มาทำธุระส่วนตัวเหมือนกันนะซิ” เมื่อสิ้นคำพูดร่างสูงก็สืบเท้าตรงเข้ามาหาคนตรงหน้า ดั่งจะไล่ต้อนให้ผู้นั้นถอยไปจนมุม
ร่างสีแทนที่เหมือนถูกบังคับให้ถอยลึกเข้าไปรู้สึกหวาดหวั่นกับชายตรงหน้า ด้วยกลัวว่าคนผู้นี้จะล่วงรู้ความลับอันน่าอับอายของตน หากแต่ก่อนที่เขาจะถอยจนเกือบติดกับผนัง ร่างสูงก็หยุดกึกอย่างฉับพลัน แล้วหันหน้าเข้าหาโถปัจสาวะชายทางด้านขวามือจากนั้นก็ทำทีเหมือนจะปรดซิปกางเกงลงเพื
่อทำธุระ
อิรุกะรู้สึกโล่งใจอยู่พักหนึ่งด้วยคิดว่า อย่างน้อยชายคนนี้ไม่ได้สงสัยในความผิดปกติของเขา แต่มันก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น...
“แล้วนายล่ะ...จะไม่ฉี่เหรอ? ”นินจาหนุ่มซึ่งปรดซิปกางเกงของตนแล้วเอียงศีรษะพร้อมกับหันหน้ามาถามเขาอย่างกะทันห
ัน ตัวเขาเองที่ยังไม่ได้เตรียมใจกับสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดก็ถึงกับแสดงท่าทีเงอะงะลนลานพ
ูดอะไรไม่ถูก
“...ว่าไง?”ริมฝีปากได้รูปภายใต้ผืนผ้าสีดำจี้ถามด้วยน้ำเสียงยานคางอย่างน่าหมั่นไส้
“กำลัง...เอ่อ...กำลังจะ...ฉะ..ฉี่ครับ”จูนินผู้จนมุมพยายามมองหน้าของคู่สนทนาอย่างปกติ แต่ดาวเนตรข้างเดียวที่โผล่ออกมาจากผืนผ้าสีดำและกระบังหน้าผาก กลับจ้องลงไปยังเป้ากางเกงของเขายังกับว่า คนผู้นี้จะสามารถมองทะลุเข้าไปแล้วเห็นเจ้าผ้าสามเหลี่ยมตัวจิ๋วข้างในอย่างนั้นล่ะ
“แล้ว...ไม่ถอดเหรอ?”อีกครั้งที่คำถามถูกยิงมาที่ อุมิโนะ อิรุกะ
“ถะ...ถอด..?”เขาตอบเสียงสั่น
“ใช่ ถอด”คาคาชิกลอกตา
“อะไรครับ?”
“ก็กางเกงนายนะซิ ไม่ถอดแล้วจะฉี่ได้เหรอ?”
“อา...ครับ เดี๋ยวผมจัดการตัวผมเองได้ครับ คุณคาคาชิเชิญตามสบายเถอะครับ”
“นายอายฉันเหรอ?”
‘วันนี้มันวันแห่งการตั้งคำถามหรือเนียะ? ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมีแต่คำถามมาถามเรานักนะ?’อิรุกะคิดในใจ
“อา...ครับ ผมชอบทำธุระส่วนตัวตามลำพังมากกว่า เวลามีคนอื่นอยู่ด้วยแล้วผมรู้สึก...เขิน”เขาตอบส่ง ๆ
“เป็นผู้ชายเหมือนกัน ฉี่ในห้องน้ำชายเหมือนกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นจะต้องอายกันเลย...หรือว่านายกลัวว่าฉันจะแอบดูละ?”
“ทะ...ทะ...ทำไมต้องอายด้วยล่ะครับ ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนี่นา”
“อืม งั้นนายก็ถอดซิ”แล้วนินจาหนุ่มผู้มีนามสกุล ฮาตาเกะ ก็วกมาเรื่องเก่า
‘แล้วเราจะถอดตอนนี้ได้ยังไงละ ถ้าถอดก็จะถูกเห็นกางเกงในจีสตริงนะซิ!!!’
“ผมไม่ปวดแล้ว ขอตัวล่ะครับ”เขาตอบตัดบทเพื่อพี่จะหนีออกมาจากห้องน้ำโดยเร็ว หากแต่...
“อิรุกะเป้ากางเกงนายตุงแนะ...ฉันว่านายยังไม่หายปวดล่ะมั้ง...”นินจาผู้มีระดับสูงกว่าสกัดการย่างก้าวของชายผิวสีแทนด้วยคำพูดแบบตรงไปตรงมา พร้อมกับยึดต้นแขนข้างหนึ่งไว้แน่น
“ผมไม่ปวดแล้วจริง ๆ ครับ เพราะฉะนั้น” อิรุกะเบือนหน้าหนี พร้อมกับดึงชายเสื้อลงมาเปิดสิ่งที่กำลังบ่งบอกถึงความต้องการของเขา
“อั้นไว้มันไม่ดีต่อสุขภาพนะอาจารย์อิรุกะ นายก็รู้อยู่ไม่ใช่เหรอ? แต่ถ้าอายฉันละก็...”ฝ่ามือที่ยึดจับท่อนแขนของร่างสีแทน กำลังเพิ่มแรงกระชากจนร่างของผู้ถูกจับ มาตรึงติดกำผนังห้องน้ำ
“คุณคาคาชิ!!!”อิรุกะส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังมีสติพอที่จะเอามือทั้งสองข้างของตนมากุมปิดจุดล่อแหลมของเ
ขาอย่างหวงแหน ในขณะที่มือไม่ของผู้รุกรานพยายามที่จะเข้าไปยุ่มย่าม ณ จุดนั้น
“ถ้านายอาย ฉันจะช่วยถอดให้เอง ไหน เอามือออกซิ”
“ไม่เอา! คุณคาคาชิอย่าซิครับ ผมไม่เป็นไรจริง ๆ ไม่เอา!& #33;”โจนินผมสีเงินได้โอกาสสอดขาข้างหนึ่งเข้าไปบริเวณระหว่างเรียวขาของผู้ที่เขาไล
่ต้อนจนติดกับ ทำให้ง่ายดายต่อการรุกรานเพื่อค้นหาความลับอันหอมหวานนั้น
“อึก!!!”ผู้ถูกสัมผัสจุดอันเร่าร้อนสกัดกลั้นเสียงครวญอย่างสุดความสามรถ แต่ในเวลาเช่นนี้จะเงียบยังไงก็ไม่อาจจะปิดบังอะไรไว้ได้อีก
“...แข็งขนาดนี้คงไม่ใช่แค่ปวดฉี่แล้วมั้ง อิรุกะ”คาคาชิแย้มยิ้มอย่าเจ้าเล่ห์ เขาพูดเสียงหอบเล็กน้อยจากการต่อสู้ฝาดฟันกับเจ้าของของสิ่งที่กำลังร้อนและแข็งตัวอยู่ในฝ่ามือตน
“อ๊า~~~อ๊ะ! คุณคาคาชิ! ไม่ อย่าลูบซิครับ อย่า!ฮึก!”อิรุกะวอนขอด้วยน้ำเสียงครางกระซิบ ร่างกายของเขากระตุกเฮือกทุกครั้ง เมื่อฝ่ามือและปลายนิ้วของโจนินตรงหน้าขยับไล้คล้ายกับหยอกเย้าบนความเป็นชายซึ่งถูก
กกน.ตัวดีทำมิดีมิร้ายจนต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“อาจารย์อิรุกะที่เข้มงวด เจ้าระเบียบ และน่านับถือของนารุโตะคุงจริง ๆ แล้วเป็นคนลามกรึนี่ ถ้านารุโตะคุงรู้จะเป็นยังไงนะ?”แม้ร่างที่เขากักขังไว้จะพยายามดึงฝ่ามือเขาออก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมละมือของตนห่างจากตัวประกันในกำมือ พร้อมกับบีบจับขยับเสียจนแน่น
“อ๊า~~~! ไม่นะ”ความเสียวสะท้านที่แผ่ซ่านมาจากจุดไวสัมผัส สร้างความกระสันจนเขาแทบยืนไม่อยู่จนต้องยึดร่างของชายตรงหน้าไว้แน่น “ไม่ ผมไม่ได้ ผม ไม่ได้ทำนะ”ใบหน้าสีแทนระเรื่อแดงฉาน ร้อนวาบไปทั่วกาย ความกล้าแกร่งดุจชายถูกหลอมละลายอยู่ในกำมือของโจนินผมสีเงิน คงเหลือไว้เพียงเสียงร่ำร้องหอบกระเส่า ครวญสะอื้นหวาน ๆ กับร่างกายอันปวกเปียกอ่อนแอและเบ่งบานรับสัมผัสอันบรรเลงจากฝ่ามือที่กอบกุมมันไว้
“อาจารย์อิรุกะ...แอบมาทำอะไรที่ห้องน้ำในหอข่าวบ่อยหรือเปล่าครับ ผมคงเข้ามาขัดจังหวะใช่มั๊ย? รู้รึเปล่าเสียงของนายนะมันเป็นยังไง? ”ร่างสูงกระซิบข้างกกหูในขณะที่ฝ่ามือของเขายังไม่เลิกสร้างความทรมานให้แก่ร่างเบื้
องหน้า
“ไม่~~ผมเปล่านะ ไม่ ไม่..อ๊า..ไม่เคย ผม ...ผม ฮึก! ฮือ” น้ำใส่ ๆ กำลังปริมออกมาบริเวณหางตาบนใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นบนดั้งจมูก ทั้งอาย หวาดกลัว และเจ็บใจ เขาเพียงแค่ต้องการความกล้าเพื่อจะบอกรักกับคนคนหนึ่งในวันนี้ แต่กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชในห้องน้ำชายสาธารณะของที่ทำงาน
“...”คาคาชิหยุดการกระทำของตนทันทีที่รู้ว่า ตัวเขากำลังกระทำการรุนแรงเกินไป แม้ร่างเบื้องหน้าในตอนนี้จะกำลังสุกงอมดูหอมหวานและพร้อมที่จะถูกเด็ดออกมาเต็มทีก็
เถอะ
“เปล่าเหรอ? ไม่เคย? แล้วทำไมถึงมีอารมณ์ละ หรือกำลังรอใครเข้ามา”คาคาชิเองก็รู้สึกหงุดหงิดกับทีท่าคู่สนทนาของเขาในวันนี้เช่น
กัน เพราะมันช่างดูยั่วยวนเกินไป เซ็กซี่เกินไป เชิญชวนเกินไปจนเขาหงุดหงิด แต่เขาเองก็เลือกที่จะเก็บอารมณ์ดิบของตนไว้ เพราะความจริงแล้วเขาอยากที่จะให้อิรุกะทำตัวเหมือนเดิมแบบปกติที่เป็นมามากกว่าการเ
ป็นจุดสนใจแบบนี้
“ที่เป็นแบบนี้...แบบนี้ ก็...ก็เพราะ...เพราะว่า..”อิรุกะใช้หลังมือเช็ดหางตา และเปล่งวาจาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“อะไร?”อีกครั้งที่มนุษย์เจ้าคำถามเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน
“...เพราะวันนี้...”ร่างสีแทนใช้ฝ่ามือทั้งสองงข้างดึงชายเสื้อลงปิดสะโพกด้านหน้าพร้อมหนีบต้นขาแน่น
“วันนี้...เพราะ”คาคาชิหายใจเข้าลึก ๆ อย่างอดกลั้นไม่ให้เผลอตัวตวาดร่างตรงหน้า ที่ทำท่าเงอะงะน่ารำคาญ
“เพราะวันนี้ผม...ผมใส่กางเกงในจีสตริงมาครับ!”
The G-String 2. O_O!!!(ตอนจบ)
“เพราะวันนี้ผม...ผมใส่กางเกงในจีสตริงมาครับ!”
เมื่อจบคำพูดของร่างตรงหน้า คาคาชิก็รู้สึกเหมือนถูกชกเข้าเต็มแรง แม้มันไม่มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้น หากแต่ในหัวของเขายามนี้กลับมึนชาไม่รับรู้อะไร สมองไม่ยอมสั่งการ คล้ายกับโลกหยุดหมุน ‘หรือเราหูฟาด’
“...นายว่า...อะไรนะ?”ร่างสูงกล่าว
“ผมบอกว่า...ผมใส่กางเกงในจีสตริงมาครับ...”เจ้าตัวทวนคำพูดอีกครั้งอย่างกระดากปาก ไม่กล้าสบตากับคู่สนทนา ได้แต่ก้มใบหน้าอันแดงกล่ำของตนลงมองพื้น พร้อมบิดชายเสื้อด้านหน้าแน่นขึ้น
‘โอ้!พระเจ้าจอร์จ...มันช่างเป็นคำพูดที่สุดแสนจะเร่าร้อนที่สุดเท่าที่คิดว่าเคยได้ยินมาจากปากของนาย!!!’ร่างสูงตะโกนก้องในใจอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ‘อาจารย์อิรุกะใส่กางเกงในจีสตริงมา โอ้...จีซัส! ภายใต้เสื้อผ้าที่สุดแสนจะแน่นหน้าทะมึนทึนทึกอย่างแบบฟอร์มนินจาโคโนฮะงาคุเระของอา
จารย์อิรุกะ มีเจ้าผ้ารูปสามเหลี่ยมผืนจิ๋ว อันออกแบบมาเพื่อยั่วยุกิเลศตัณหา และทำลายความดีงามในใจของคนอย่างเรา ๆ ได้อยู่ในนั้น!!!’เขาเริ่มจิตนาการถึงร่างสีแทนเบื้องหน้าตอนที่ไร้อาภรณ์ชิ้นใดปกปิดร่าง แล้วมีเพียงเจ้าลิงน้อยรูปสามเหลี่ยมปกปิดแนบชิดอยู่กับจุดไว้สัมผัสบริเวณหว่างขา
“นะ...นาย...นะ...นาย นาย...”คาคาชินิ่งขึงไปเพื่อพยายามรวบรวมสติอย่างเต็มความสามารถ และร้องเรียกความดีซึ่งถูกเด้งออกไปให้กลับมาอย่างรวดเร็วตราบเท่าที่จิตสำนึกรับรู้
ถูกผิดของเขายังพอมีอยู่
“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแสดงกิริยาแบบนั้น แต่ว่า..เนื้อผ้าจีสตริงมันแปลก ๆ ยังกับว่ามันมีชีวิตเป็นของมันอย่างนั้นนะครับ ขยับเท่าไรก็ไม่เข้าที่เข้าทางเสียที แถมมันยังทำให้...ยิ่งขยับมันก็...แข็ง..”เมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้วจูนินหนุ่มจึงตัดสินใจสารภาพความผิดจนหมดเปลือก “ยิ่งขยับมันก็ยิ่งรู้สึกเกิดอารมณ์แบบนั้นนะครับ แล้วตรงก้นผมสายมันก็จมเข้าไป...ที่ข้างหลังผมรู้สึกประหลาดมากเลยครับ...ผม...ผมไม่รู้จะทำยังไงดี”
‘โอ้แม่เจ้า!อิรุกะ ทำไมนายถึงช่างพูดจาได้น่ารักเยี่ยงนี้!!! แต่พอเถอะหากนายพูดอะไรไปมากกว่านี้ละก็...’คาคาชิหยุดความคิดตัวเองไว้แค่นั้นแต่ว่า...
“ผม...ผมเสียวมากเลย...จะทำยังไงดีครับ”
ตูมมมมมม!!!!!ความยับยั้งช่างใจกระจัดกระจาย ความดีถูกทำลาย จิตสำนึกดีชั่วเสียหายทันทีที่ประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา
“งั้น...ฉันจะช่วยนายเอง”คาคาชิกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจก่อนส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรให้
“ช่วยผม...”จูนินผู้ถูกกางเกงในจีสตริงเปลี่ยนชีวิตเงยหน้ามองร่างสูงด้วยความตื้นตัน “ช่วยผมเหรอครับ คุณเป็นคนดีจริง ๆ แล้วยังไงละครับ?”
“ตรงนี้ไม่เหมาะเท่าไร เอาเป็นว่าเราเข้าไปในนั้นกันดีกว่านะ”โจนินหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทีรีบร้อนใด ๆ ให้ผิดสังเกตก่อนชักชวนจูนินผู้อ่อนโลกเข้าไปในห้องสุขาเล็ก ๆ ด้านใน
คาคาชิค่อย ๆ ต้อนอิรุกะเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ห้องหนึ่งในขณะที่เขาเองก็สืบเท้าตามมาด้านหลังและ...
แกร๊ก! เสียงกลอนประตูภายในห้องน้ำดังขึ้นพร้อมกับร่างสีแทนที่สะดุ้งเฮือกรีบหันกลับมามองผู้ที่ตามเขามาเบื้องหลัง
ภายในห้องปลดทุกข์ที่มีแสงสลัว ดวงเนตรสีช็อกโกแลตกำลังมองตรงมายังสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนคนหนึ่ง และรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่บ่งบอกออกมาจากใบหน้านั้น ทั้งที่เกือบทั้งหมดถูกปิดบังด้วยกระบังหน้าผากของหมู่บ้านโคโนฮะและผ้าปิดปากสีดำ บางอย่างที่ทำให้เขาถึงกับต้องถอยหลังจนไปชิดกับชักโครก
“ถอดกางเกงออกซิ”ชายผมเงินกล่าวน้ำเสียงเรียบ ขณะดึงผ้าดำซึ่งปกปิดใบหน้าของตนลง
“!!!”นินจาผู้รัดผมทรงหางม้ายื่นนิ่งทำตาโตอย่างไม่เชื่อหู
“ฉันบอกว่า...ให้นายถอดกางเกงออกซะ”เขาทวนคำอีกครั้งอย่างน่ากลัว
“ทะ...ทะ...ทำไม...ตะ...ต้องถอดด้วยละครับ”นิ้วมือสีแทนยึดขอบกางเกงไว้แน่น
“ถ้าไม่ถอด ฉันก็จะช่วยนายไม่ได้นะซิ”
“...”อิรุกะยืนไต่ตรองอยู่พักหนึ่ง เขากัดฟันปรดซิปออกแล้วดึงขอบกางเกงลงมาช้า ๆ แล้วหยุดไว้ที่ครึ่งน่อง
“ถอดออกมาทั้งหมด”ชายหนุ่มดึงกระบังหน้าผากลงมาห้อยคอ โดยไม่ยอมละสายตาจากคู่สนทนา
จูนินผมสีเข้มตัดสินใจทำตามอย่างกระดากอาย ได้แต่เบนสายตาหนีไม่กล้ามองตอบไปยังบุคคลซึ่งกำลังใช้ดวงเนตรต่างสีแทะโลมมายังร่าง
กายท่อนล่าง
ร่างสูงรีบคว้ากางเกงขายาวในมือของร่างสีแทนมาอย่างรวดเร็ว ก่อนใช้คาถาทำให้มันหายไปจนกลายเป็นแค่กลุ่มควัน
“อ๊ะ& #33;กางเกงของผม”ด้วยความตกใจจูนินผู้ไม่ได้ใส่กางเกงรีบวิ่งเข้าไปเพื่อไขว่คว้ากลุ่มควันเหล่านั้น แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการโผเข้าหาอ้อมกอดของร่างสูงที่ยืนรอท่าอยู่แล้ว
“เอาของผมคืนมานะ ไหนคุณว่าจะช่วยผมไงล่ะ แล้วทำไม?...”ร่างที่เล็กกว่าโวยวายดิ้นพล่านอยู่ในวงแขนแกร่ง ขณะที่ผู้สวมกอดกำลังฉวยโอกาสโอบรัดเรือนกายในอ้อมแขนแน่นขึ้น พลางซุกไซร้สูดดมกลิ่นไออันหอมหวานตามแนวลำคอ ใบหู และไรผมของร่างสีแทนอย่างไร้ยางอาย
ในที่สุดความตื่นตระหนกก็เข้าครอบคลุมไปทั่วร่างของจูนินหนุ่ม เพราะเขาสัมผัสถึงความร้อนจากปลายนิ้วหยาบของใครบางคน ซึ่งกำลังสอดเข้ามาแตะต้องร่างเปล่าเปลือยภายใต้ชายเสื้ออันมิดชิด ชายหนุ่มยืนตัวเกร็งนิ่งอย่างสับสน ในขณะที่ปลายนิ้วหยาบและฝ่ามือที่สวมถุงมือครึ่งนิ้วกำลังขยับลึกเข้าไปสัมผัส นวดเฟ้น ไปตามเรือนกายและยอดอกอย่างคุกคาม
“แบะ...แบบนี้..ไม่เอานะครับ!”ซิบเสื้อนอกสีเขียวเข้มถูกรูดลง พร้อมแยกออกจากกันด้วยความรวดเร็ว“คุณคาคาชิ!อุบ...”
ไม่ทันจบคำพูด ร่างสูงผู้อาสาช่วยเหลือก็พลิกกายตวัดร่างในอ้อมกอดไปอีกฟากดันจนติดผนังห้องน้ำ พร้อมกับบดริมฝีปากของตนกับร่างเบื้องหน้าอย่างหนักหน่วง
ผู้ถูกกักขังในวงแขนพยายามดิ้นรนต่อสู้สุดกำลัง เพื่อหาหนทางหลีกหนีจากริมฝีปาก ปลายนิ้วและฝ่ามือ รวมถึงร่างแกร่งที่กำลัง โลมเลีย ดูดเม้ม เคล้าคลึง และบดขยี้ไปทั่วทุกสัดสวนของร่างกายเขา
เสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือที่เปล่งออกมาก็ถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากของฝ่ายตรงข้าม แม้แต่ลมหายใจ และเรียวแรงทั้งหมดก็ถูกกรรโชกเอาไปด้วยเทคนิคอันดุดันช่ำช่อง
ร่างที่กำลังจะทรุดลงจำต้องยึดเหนียวเกาะเกี่ยวกายแกร่งไว้แน่น ปราการป้องกันที่พยายามสร้างไว้ของเขากำลังหลอมละลาย ร่างกายเขารู้สึกร้อนระอุ ร่ำร้องขอ และกำลังเบ่งบานตอบรับสัมผัสจากฝ่ามือที่กำลังปรนเปรอความสุขสม ให้กับความเป็นชายอันอยู่ภายใต้ผืนผ้ารูปสามเหลี่ยมขนาดจิ๋ว ซึ่งกำลังแข็งตัวและดุนดันเจ้าผ้าผืนจ้อยจนตึงแน่นเสียแทบไม่อาจปิดบังอะไรไว้ได้อีก
ปลายลิ้นทั้งสองกำลังเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันในช่องปากอันชุ่มฉ่ำ แม้ผู้ถูกกระทำจะพยายามผลักไสให้ออกไป เพื่อขออากาศหายใจแต่ร่างสูงก็ยิ่งกลืนกินขบเม้มไม่ยอมปล่อยจนริมฝีปากของทั้งคู่แทบ
จะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
“อ๊า~~...อือ....”ในที่สุดร่างซึ่งถูกกดทับกับผนังก็ดิ้นรนจนหลุดรอดจากจุมพิตอันยาวนานนั้นมาได้ เขาหอบหายใจเข้าพร้อมครางเบา ๆ แม้ลิ้นของเขาจะยังอยู่ในกลีบปากได้รูปของอีกฝ่ายที่ยังไม่ยอมหยุดสร้างความกระสันให้กับส่วนที่แข็งชันในฝ่ามือซึ่งกำลังจะถึงจุดประทุ
ไม่นานริมฝีปากบวมช้ำฉ่ำชื้นก็ส่งเสียงร้องสะอื้นก่อนจะถูกกดประกบอีกครั้ง ร่างสีแทนขยับแอ่นสะโพกเปล่าเปลือยเข้าหาฝ่ามือที่โอบล้อมความต้องการนั้นไว้ ไม่นานกายของคนถูกปรนเปรอก็กระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ก่อนปลดปล่อยความอุ่นร้อนให้ล้นทะลักออกมาจนชุ่มเจ้ากางเกงในตัวน้อยที่สวมอยู่ แม้แต่ถุงมือของผู้ปรนเปรอเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
คาคาชิถอดถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ เมื่อเขามั่นใจแล้วว่าร่างที่กำลังสั่นสะท้านอยู่เบื้องหน้าหยุดส่งเสียง ชายหนุ่มมองใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นบนสันจมูกของฝ่ายตรงข้าม ที่กำลังแดงระเรื่อราวผลมะเดื่อ ดวงเนตรสีน้ำตาลหรี่ปรือปรากฏหยดน้ำใส ๆ บริเวณหางตา ริมฝีปากแดงช้ำฉ่ำชื้นกำลังหอบหายใจยาวและอีกไม่นานคงจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ หลังจากที่ได้ปลดปล่อยความต้องการจนหมดสิ้นด้วยน้ำมือของเขา...
...แต่ว่าเขาเองนี่ซิกำลังหอบหายใจถี่หนัก เลือดในกายที่ถูกทำให้ร้อนระอุและความหื่นกระหายกำลังสูบฉีดไปทั่วร่างราวพิษไข้ แกนกายของเขากำลังชูชันดุนดันคับแน่นอยู่ภายในกางเกงด้วยความอึดอัด และเขาเองก็ต้องการที่จะบรรเทาความรวดร้าวที่ร่างสีแทนทำให้เกิดขึ้นเช่นกัน
คาคาชิเผยริมฝีปากออกแล้วส่งปลายลิ้นอุ่นไล่เลียกลีบปากแดงชื้นเบื้องหน้า เขาเม้มริมฝีปากบนและล่างของฝ่ายตรงข้ามพร้อมดูดเบา ๆ จนเกิดเสียงก้องไปทั่ว
Fiction